3 สส.หญิงพรรคประชาชน ประกอบด้วย 'ภคมน หนุนอนันต์ - รักชนก ศรีนอก - พนิดา มงคลสวัสดิ์' เดินทางไปยัง 'กรมสรรพากร' เพื่อเข้ายื่นหนังสือขอให้พิจารณาตรวจสอบที่มาของรายได้และเส้นทางการเงินจำนวน 12 ล้านบาท ของ 'ทวีวัฒน์ เส้งแก้ว' ที่ปรึกษากรรมการ กสทช. ซึ่งเป็นบุคคลที่อ้างตัวเป็นเจ้าของเงิน 12 ล้านบาท ที่วางทิ้งไว้ในกล่องพลาสติก บริเวณคอนโดมีเนียมเมืองทองธานี

โดย 'ภคมน' ได้เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า เมื่อการยื่นหนังสือให้กับกรมสรรพากรเสร็จสิ้น ก็จะไปยื่นต่อ ‘คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ’ (ป.ป.ช) ต่อ เพื่อให้เกิดความกระจ่างต่อสังคม ถึงที่มาของเส้นทางการเงิน เนื่องจาก 'ทวีวัฒน์' มีตำแหน่งที่ล้วนเกี่ยวข้องกับเงินมหาศาล ซึ่งมีผลกับประโยชน์ของชาติจำนวนมาก โดยเฉพาะการดำรงตำแหน่งในอนุกรรมการ 'ควบรวมทรูและดีแทค' พร้อมกำชับว่า ขณะนี้สังคมกำลังจับตาบทบาทของกรมสรรพากร และป.ป.ช. ในการตรวจสอบหากมีการเมินเฉยก็จะยิ่งถูกประชาชนตั้งข้อสังเกต

สอดล้องกับความเห็นของ 'รัชนก' ที่ตั้งคำถามกับ 'ทวีวัฒน์' ที่ออกมายืนยันว่า เงิน 12 ล้านบาท นั้นเป็นเงินของเขา แค่ลืมทิ้งไว้ ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องขำขันแต่ต้องตรวจสอบ และเข้าใจว่า ป.ป.ช.มีการดำเนินการแล้ว แต่พรรคประชาชนก็จะส่งหนังสือเพื่อขอย้ำอีกครั้ง สำหรับวันนี้ วันนี้ที่ได้ยื่นที่กรมสรรพากรเพราะเข้าใจว่าเงินจำนวนนี้ไม่ได้ถูกยื่นบัญชีทรัพย์สินในส่วน 'ภรรยาของทวีวัฒน์' ในส่วนของ 'ทวีวัฒน์' ยื่นรายได้ต่อสรรพากรปีละแค่ 1 ล้านบาทเท่านั้น จึงต้องตรวจสอบว่า เงิน 12 ล้านบาทนี้มาจากไหน

ขณะที่ 'พนิดา' ได้ตั้งคำถามว่า ตั้งแต่ที่มีการพบกล่องใส่เงินสด เรื่องบทบาทของผู้ที่มีความเกี่ยวข้อง ซึ่งทำหน้าที่ปฏิบัติงานในอนุกรรมการที่มีอำนาจในการตัดสินใจ หรือเข้าถึงการตัดสินใจเรื่องสำคัญๆ ที่จะกระทบต่อมูลค่าทางเศรษฐกิจ ตลอดจนการที่เราตั้งคำถามถึงโอกาสและความเป็นไปได้ว่า กล่องเงินนี้จะมีความเกี่ยวข้องอะไรกับการประมูลคลื่นของวันที่ 29 มิ.ย.นี้หรือไม่ ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของ 'กสทช.' ที่ต้องพิสูจน์ความโปร่งใสให้เกิดขึ้นด้วย