พิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน ในฐานะแกนนำพรรคภูมิใจไทย ดูแลพื้นที่ภาคใต้ กล่าวถึงกรณีบุคคลอักษรย่อ ‘พ.’ มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี ‘ฮั้วเลือก สว.’ ว่า ตอนนี้ยังเป็นแค่ชื่อย่อ ขอให้มีชื่อจริงออกมาให้ชัดเจนก่อน และต้องรอจนกว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะมีการเชิญผมเข้าไปให้ข้อมูล ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีทั้งแถลงการณ์และหนังสือเชิญเข้าไปให้ข้อมูล
จะฟ้องหรือไม่ฟ้อง ขอรอให้ถึงเวลานั้นก่อน แต่ในส่วนของพรรคภูมิใจไทย ผมรับไม่ได้ที่มีการพาดพิงถึงพรรคภูมิใจไทยให้ได้รับความเสียหาย
— พิพัฒน์ รัชกิจประการ
เมื่อถามว่าจะมีการไล่แจ้งความทุกจังหวัดหรือไม่? พิพัฒน์ กล่าวว่า ตนเองเป็นคนจังหวัดสงขลา ถ้าจะแจ้งความฟ้องร้อง ก็คงฟ้องที่จังหวัดสงขลา แต่ตอนนี้คงยังไม่ดำเนินการแจ้งความใด ๆ จนกว่าจะมีชื่อออกมาชัดเจน
ส่วนเมื่อถามว่า ยังคงยืนยันตัวเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฮั้ว สว. ที่มีการตั้งข้อสังเกตใช่หรือไม่? พิพัฒน์ กล่าวว่า กระแสข่าวการเลือก สว. ที่มีการพูดถึงกันอยู่ในขณะนี้ ต้องไปดูข้อเท็จจริงในเรื่องข้อกฎหมายและข้อห้ามต่าง ๆ ที่บางคนไปให้ข้อมูลหรือข้อแนะนำ คนเหล่านั้นอาจจะยังไม่เข้าใจวิธีการได้มาซึ่ง สว.
ซึ่งก่อนหน้านี้ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ก็ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ตัวเองยังไม่เข้าใจวิธีการเลือก สว. ครั้งนี้ ว่าจะมีการเลือกอย่างไรในระดับอำเภอและจังหวัด รวมไปถึงยังมีการเลือกไขว้แต่ละสายอาชีพ
ซึ่งกว่าจะได้มาทั้ง 77 จังหวัด ต้องมีการแนะนำตัวเป็นเรื่องปกติ เพราะจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่าใครมีความรู้ในด้านไหน การกระทำทั้งหมดเหล่านี้ อย่าเพิ่งไปตัดสินว่ามีเจตนาที่ไม่ดี ที่คนเหล่านี้จะมาแนะนำตัวมาสร้างความรู้ความเข้าใจ
เมื่อถามถึงกรณีที่มีการกล่าวอ้างถึงเรื่องเส้นเงินที่อาจเชื่อมโยงไปถึงพรรคภูมิใจไทย? พิพัฒน์ กล่าวว่า เรื่องเส้นทางการเงินมีหลักฐานหรือไม่ คำว่า ‘เส้นเงิน’ ที่ผ่านมามีการพูดถึงตลอด แต่ทางพรรคภูมิใจไทยก็ยังไม่เห็นข้อเท็จจริง
จะมาตัดสินได้อย่างไรว่าเป็นเรื่องของพรรคภูมิใจไทย ในเมื่อพรรคการเมืองไม่สามารถไปยุ่งเกี่ยวกับการเลือก สว. ได้ ซึ่งเป็นข้อจำกัดและข้อห้ามที่ชัดเจน การเลือก สว. เป็นเอกเทศ ดังนั้นการพูดว่าพรรคภูมิใจไทยอยู่เบื้องหลังการเลือก สว. หรือ สว. สีน้ำเงิน เป็นการอุปโลกน์ขึ้นมา และบังเอิญว่าสีน้ำเงินดันไปสอดคล้องกับพรรคภูมิใจไทย
— พิพัฒน์ รัชกิจประการ
เมื่อถามว่า คอการเมืองวิเคราะห์ว่าเป็นนิติสงครามระหว่างสีแดงและสีน้ำเงิน? พิพัฒน์ กล่าวว่า พรรคการเมืองไม่มีการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับตรงนั้น และไม่เคยทราบมาก่อนว่าพรรคสีแดงจะมาทำลายพรรคสีน้ำเงิน เรายังอยู่ร่วมรัฐบาลเดียวกัน
การอยู่กันได้ต้องพูดคุยกัน และจะฟังจากบุคคลภายนอกไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่าบุคคลภายนอกมีเจตนาอย่างไร อาจจะมีการเสี้ยมและยุยงรัฐบาลให้แตกกัน
— พิพัฒน์ รัชกิจประการ

‘ภูมิใจไทย’ พร้อมสู้! ลั่นถ้าทำให้เสียหายก็ต้องฟ้อง
ขณะที่ แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี ในฐานะโฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณี กุสุมาลวตี ศิริโกมุท (อดีตผู้สมัคร สว.) และ ณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่ยื่นยุบพรรคภูมิใจไทย ว่า ถ้าดูจากทั้งคำสัมภาษณ์และคนที่ยื่นไปนั้น จะบอกว่าเป็นความเชื่อของเขา ที่เชื่อว่าเป็นการฮั้ว ซึ่งในทางกฎหมายใช้ความเชื่อไม่ได้ และทุกอย่างต้องเป็นหลักฐานที่ชัดเจน
ยิ่งมีคำสัมภาษณ์ว่ามีการพบเส้นเงิน ก็ต้องบอกว่า เขามีหน้าที่อะไร เพราะในขณะนี้ เท่าที่ทุกคนทราบ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ไม่ได้สรุปว่าเป็นคดีอั้งยี่ซ่องโจร การขอหลักฐานทุกอย่างต้องมาจากธนาคาร ดังนั้นใช้อำนาจในส่วนใดเอาเอกสารส่วนนี้ออกมา จริงหรือไม่ก็ไม่รู้ และข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรก็ไม่ทราบได้
ยิ่งเมื่อวานนี้ ถึงขั้นเอ่ยถึงชื่อหัวหน้าพรรค, เลขาธิการพรรค, สมาชิกพรรค และชื่อพรรคภูมิใจไทย เป็นเหตุให้พรรคต้องออกมาปกป้องตัวเองว่า เราโดนใส่ร้าย มีการพูดพาดพิงเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว เฉี่ยวไปเฉี่ยวมา ก็จริง แต่เมื่อวานเป็นการเอ่ยชื่อโดยตรงพร้อมชื่อบุคคลของพรรค ดังนั้นเราต้องใช้สิทธิ์ในการปกป้องพวกเราเอง แต่จะฟ้องที่ไหนบ้าง ต้องให้ทีมกฎหมายตัดสินใจ
— แนน บุณย์ธิดา สมชัย
ซัดกลับ ‘เสียผลประโยชน์หรือไม่ ถึงเอาเป็นเอาตาย’
ส่วนมีการวิเคราะห์หรือไม่ว่าเป็นการยื่นตรวจสอบตามปกติ หรือมีการเมืองเข้ามาผสมโรงด้วย? แนน กล่าวว่า ถ้าลึกกว่านั้นเราคงไม่ทราบ แต่ในขณะนี้ ที่โยงกลับมาหาเรา และถ้าฟังจากคำสัมภาษณ์แบบถอดเทป ไม่ว่าใครก็แล้วแต่ที่มาพาดพิง ว่าเป็นพรรคสีน้ำเงิน หรือสุดท้ายเอ่ยชื่อคนพรรคภูมิใจไทย ก็ต้องไปย้อนดูว่า ท่านเสียผลประโยชน์อะไรหรือไม่ ทำไมอยู่ดี ๆ ถึงมาฟาดงวงฟาดงาใส่เรา และมาเอาเป็นเอาตายกันขนาดนี้
แต่ถ้าถามว่ามีเบื้องหลังอะไรหรือไม่? เราคงไม่ทราบถึงขนาดนั้น แต่เท่าที่ฟังจากข่าวที่เราเห็น ถ้า กกต. มีหนังสือมาถึงสมาชิกพรรคคนใด ซึ่งอาจเป็นแค่หนังสือเรียกเพียงเพื่อขอทราบข้อมูลก็ได้ แต่บางครั้งสื่อฯ ก็ไปลงว่าโดนฟ้อง ทั้งที่ส่วนใหญ่เป็นการขอข้อมูลอย่างเดียว และทุกอย่างเป็นไปตามเอกสารหลักฐาน ถ้ามีก็เปิดมาเลย ซึ่งพรรคก็พร้อมสู้ ถ้าทำให้เราเสียหายก็ต้องฟ้อง
— แนน บุณย์ธิดา สมชัย
ส่วนเมื่อถามถึงแนวทางการต่อสู้คดีเรื่องยุบพรรค? แนน กล่าวว่า อาจต้องดูเนื้อหาที่เขาฟ้องร้องเราก่อน ว่าเข้าข่ายมาตราไหนบ้าง และคงต้องเตรียมตามขั้นตอนปกติ เพราะไม่ใช่ว่าในสมัยสภาชุดนี้มีเราพรรคเดียวที่โดนยื่นยุบ พรรคอื่นเขาก็สู้ตามกระบวนการกฎหมายต่อไป เพียงแต่เรื่องของพรรคภูมิใจไทยเพิ่งมีการยื่นเมื่อวาน ทาง กกต. ต้องรวบรวมหลักฐาน และคงจะเชิญพรรคภูมิใจไทยไปให้ข้อมูล