ที่ทำเนียบรัฐบาล ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์หลังหารือกับ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ตึกไทยคู่ฟ้าว่า เป็นการหารือเกี่ยวกับสแกมเมอร์ เพื่อเตรียมการประชุม Seal Stop Safe ช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ (23 มิ.ย.) โดยจะมีทุกส่วนที่เกี่ยวข้องเข้ามา เนื่องจากสแกมเมอร์ในกัมพูชาลดลง ซึ่งคงขยับไปที่ประเทศเพื่อนบ้าน
ส่วน มาตรการตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา จะมีการยกระดับหรือไม่ ภูมิธรรม ระบุว่า เรื่องชายแดนเป็นเรื่องของทีมไทยแลนด์ที่จะพิจารณา เราให้ความสำคัญเรื่องสแกมเมอร์ เพราะขณะนี้มีการมองว่าทางกัมพูชามีปัญหาเรื่องนี้ค่อนข้างมาก เมื่อถามถึงกรณีผู้นำกัมพูชาออกมาพูดว่ารัฐบาลกับทหารไปคนละทาง ภูมิธรรม ยืนยันว่า ไม่มี รัฐบาลและทหารมีความเป็นเอกภาพ
ส่วนสถานการณ์ชายแดนที่มีปัญหาอยู่ ภูมิธรรม ย้ำว่า เรายังยึดหลักสันติวิธีอยู่ ปัญหาในระดับกองทัพไม่มีเขาพร้อมที่จะคุยกัน แต่ปัญหาอยู่ที่ระดับผู้นำเราแสดงให้โลกเห็นว่า เรารักษาสันติวิธี ระมัดระวังประชาชนชายแดน กลุ่มเปราะบาง ยึดหลักมนุษยธรรม ส่วนจะมีการเพิ่มมาตรการอะไรหรือไม่ อยู่ที่แม่ทัพภาคที่ 2 และไม่ว่า อะไรจะเกิดขึ้นอยากให้นานาชาติเห็นว่า เรายึดหลักสันติวิธี
เมื่อถามเราจะฟ้องโลกอย่างไร เพื่อให้เห็นว่า เราตั้งใจเจรจา แต่กัมพูชาไม่ตั้งใจจะเจรจาด้วย ภูมิธรรม ระบุว่า ขอให้รอมาตรการที่จะออกมาจากวงประชุมติดตามมาตรการการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติในเวลา 13.30 น. วันเดียวกันนี้ และมาตรการของทีมไทยแลนด์ ส่วนกรณีที่กัมพูชาระงับการนำเข้าน้ำมันและก๊าซจากไทย ภูมิธรรม ระบุว่า ไม่มีปัญหา เรารู้อยู่แล้ว ยิ่งสถานการณ์โลกเป็นเช่นนี้ เส้นทางขนส่งน้ำมันถูกปิด เราไม่มีปัญหา
ส่วนกรณีที่ กัมพูชาส่งหนังสือประท้วงอย่างรุนแรงถึงเอกอัครราชทูตไทยในกรุงพนมเปญ กรณี สมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกฯ ฝ่ายการเมือง แจ้งความดำเนินคดี สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ภูมิธรรม ระบุว่า เรื่องนี้เป็นสิทธิของสมคิดในการฟ้องร้อง และทางรัฐบาลกัมพูชาก็มีสิทธิที่จะชี้แจงหรือประท้วงอะไรก็แล้วแต่ เป็นกลไกตามปกติของการดำเนินการด้านต่างประเทศ เมื่อถามอีกว่า ทางฝ่ายกัมพูชาชี้แจงว่า การอัดเสียงเป็นเรื่องปกติเพื่อความโปร่งใส ภูมิธรรม ระบุว่า
“อ้าว ไหนเห็นว่า แก้ตัว ไม่ได้เป็นคนทำเอง อันนี้ต้องฟังหน่อย จริงๆ เป็นคนโพสต์เฟซบุ๊กเอง ท่านก็คงต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ท่านทำ ส่วนท่านจะแก้ตัวอย่างไรก็เป็นเรื่องของท่าน ไม่เกี่ยวกับผม ท่านก็สามารถแก้ตัวได้ กลไกการต่างประเทศทำอะไรได้แค่ไหน เหมาะสมหรือไม่เหมาะสม โลกเขารู้ไม่ว่า ใครจะไม่รู้ แต่โลกรู้ ก็ว่าตามที่โลกเขารู้”
— ภูมิธรรม กล่าว
โปรยคำหวานบอก ‘รักทุกกระทรวง’ หลังมีชื่อนั่ง ‘มท.1’ โวได้ ‘มหาดไทย’ คืน ผลงานรัฐบาลดีขึ้นแน่ แย้มปรับ ครม. จบสัปดาห์นี้
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังถามถึงเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรีว่ารายชื่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขณะนี้ลงตัวแล้วหรือยัง ภูมิธรรม ระบุว่า ต้องถาม นายกฯ แต่ส่วนตัวคิดว่า น่าจะจบได้เร็ว สัปดาห์นี้น่าจะเรียบร้อย
เมื่อถามว่าในส่วนของพรรคเพื่อไทยจะมีการปรับเปลี่ยนอย่างไร ภูมิธรรม ระบุว่า ต้องเกิดขึ้นหลังจากคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล การพูดคุยเมื่อวันที่ 22 มิ.ย. ถือว่าจบแล้ว แต่เนื่องจากส่วนตัวไม่ได้เข้าร่วมประชุม จึงไม่ทราบรายละเอียด
เมื่อถามว่ายังอยู่ในตำแหน่ง รมว.กลาโหม เหมือนเดิมหรือไม่ ภูมิธรรม ระบุว่า ตอนนี้ยังอยู่ที่เดิม ยังไม่ได้ถูกปรับออก ส่วนที่มีบางโผระบุว่าภูมิธรรมจะโยกไปอยู่กระทรวงมหาดไทย ภูมิธรรม ระบุ ว่า ตามโผผมไปอยู่หลายกระทรวง กระทรวงมหาดไทยเพิ่งมาเมื่อวันที่ 22 มิ.ย. ก่อนหน้านี้บอกว่า ไปอยู่กระทรวงพาณิชย์ บางโผบอกอยู่ที่เดิม แต่ยังไม่ชัดเจน คงต้องรอนายกฯสั่ง เมื่อถามย้ำว่า มีชื่อไปหลายกระทรวง ชอบกระทรวงไหนที่สุด นายภูมิธรรม หัวเราะก่อนกล่าวว่า ผมรักทุกกระทรวง
เมื่อถามว่า หากพรรคเพื่อไทย ได้กำกับดูแลกระทรวงมหาดไทยจะทำผลงานได้ดีกว่าที่ผ่านมาหรือไม่ ภูมิธรรม ระบุว่า สิ่งที่เป็นปัญหาที่ผ่านคือ กระทรวงมหาดไทยซึ่งเป็นกระทรวงที่จะนำนโยบายรัฐบาลไปผลักดันยังทำไม่สมบูรณ์ ถือเป็นอุปสรรคต่อการทำงานมาก ครั้งนี้พรรคเพื่อไทยคิดว่าจะผลักดันนโยบายทั้งหมดไปสู่ประชาชนได้อย่างเต็มที่ ทั้งเศรษฐกิจฐานราก การปราบยาเสพติดอย่างเข้มข้น การจัดการเรื่องชายแดน นโยบายที่ค้างอยู่มันเดินไม่สุด เป็นเหตุที่ทำให้เราอยากได้กระทรวงนี้กลับคืนมา เพื่อให้นโยบายเดินหน้าได้ เชื่อมั่นว่า จะทำได้ดีกว่าเดิม
เมื่อถามว่า การได้กระทรวงมหาดไทยคืนมา ผลงานรัฐบาลจะดีขึ้นมากใช่หรือไม่ ภูมิธรรม เชื่อว่า น่าจะดีมาก เพราะที่ผ่านมามันขับเคลื่อนไม่ออก กลไกกระทรวงมหาดไทยเป็นกลไกสำคัญในการผลักดันนโยบาย
เมื่อถามว่า มีชื่อนายพลมาเป็น รมว.กลาโหม พรรคเพื่อไทย มีปัญหาหรือไม่ ภูมิธรรม ระบุว่า ไม่มีปัญหา ตั้งแต่ตอนที่ผมอยู่ก็คุยกับนายกฯว่าจะดึงทหารมาช่วยเพิ่มขึ้น เมื่อถามย้ำว่า ตามโผมีความเป็นไปได้ที่ทหารจะมาคุมกระทรวงกลาโหมใช่หรือไม่ ภูมิธรรม ระบุว่า ไม่ใช่ แต่มาช่วยผมทำงาน เพราะผมอยากได้ทีมงานเข้ามาให้แข็งแรงขึ้น และตั้งแต่ตนอยู่กระทรวงกลาโหมไม่ได้ตั้งที่ปรึกษาหรือผู้ช่วยรัฐมนตรีเลย ส่วนกระแสข่าว พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม จะขยับมาเป็น รมว.กลาโหมนั้น ต้องถามนายกฯ
