









ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ถือฤกษ์นำทีมสองรัฐมนตรีช่วยฯ ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ และ เดชอิศม์ ขาวทอง เข้าปฏิบัติหน้าที่ ณ กระทรวงมหาดไทย วันแรกอย่างเป็นทางการ โดยมี อรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย คณะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงฯ อธิบดี หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ข้าราชการ พนักงาน เจ้าหน้าที่ และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน ร่วมแสดงความยินดีและให้การต้อนรับ
ภารกิจแรกของภูมิธรรม คือการนำคณะเข้าวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร ถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.5 และเข้าเฝ้าถวายเครื่องสักการะสมเด็จพระสังฆราช ณ พระตำหนัก พร้อมเข้าสักการะเจ้าประคุณสสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ที่อาคารสัมฤทธิ์วิทยากร จากนั้นได้เดินตรวจแถวและรับรายงานจากกองอาสารักษาดินแดน พร้อมสักการะศาลพระชัยมงคล ศาลพระกาฬไชยศรี และอนุสาวรีย์กรมพระยาดำรงราชานุภาพ
ก่อนเข้าสู่อาคารศาลาว่าการกระทรวงฯ ภูมิธรรมยังได้สักการะรูปหล่อบุคคลสำคัญหลายพระองค์ในประวัติศาสตร์การปกครองของไทย บริเวณห้องรับรองรัฐมนตรีมหาดไทย ก่อนเริ่มประชุมมอบนโยบายแก่ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ โดยมีข้าราชการจากหน่วยงานต่างๆ ของกระทรวง รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศเข้าร่วมรับฟัง
ภูมิธรรม ได้เน้นย้ำถึงเดินหน้าภารกิจอย่างสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล เพราะนี่คือกลไกหลักของฝ่ายบริหารที่เชื่อมโยงกับประชาชนมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ หรือปัญหายาเสพติด ทั้งหมดล้วนอยู่ในความรับผิดชอบโดยตรง ซึ่งต้องการเห็นผลใน 3 เดือนแรก
“อยากเห็นความเป็นปึกแผ่น ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ที่นี่ไม่มีสิงห์ดำสิงห์แดง สิงห์ขาว สิงห์เขียว สิงห์ทอง หรือสิงห์น้ำเงิน มีแต่สิงห์มหาดไทย”
— ภูมิธรรม ระบุ
พร้อมย้ำว่าไม่สนับสนุนระบบเล่นพรรคเล่นพวก และต้องการเห็นคนมีความสามารถได้ทำงานอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะในระดับจังหวัดที่เป็นหน่วยปฏิบัติสำคัญ
สำหรับปัญหายาเสพติด ภูมิธรรมกล่าวว่า เป็นวิกฤติที่ประชาชนหมดความอดทนแล้ว พร้อมระบุว่า ได้สั่งเตรียมประชุมใหญ่วันที่ 14 กรกฎาคม เพื่อบูรณาการร่วมกับ ป.ป.ส. ทหาร ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเดินหน้าแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ พร้อมย้ำว่าผู้ว่าราชการจังหวัดต้องเป็นผู้รับผิดชอบหลัก
ขณะเดียวกัน ยังกล่าวถึงการจัดการกับผู้มีอิทธิพลและอาชญากรข้ามชาติ ว่าเป็นอีกภารกิจเร่งด่วนของรัฐบาล โดยตนเองในฐานะรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กำลังใช้กลไกของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) สืบสาวเส้นทางการเงิน โดยเชื่อว่าอีกไม่นานจะสามารถเปิดเผยได้ว่าใครบ้างเกี่ยวข้องกับขบวนการที่สร้างภัยให้กับประเทศ
ภูมิธรรมกล่าวทิ้งท้ายว่า สิ่งสำคัญที่สุดในช่วงนี้คือการเร่งเดินหน้านโยบายรัฐบาลให้เกิดผลจริง เพราะขณะนี้ยังไม่เห็นความคืบหน้าชัดเจน ตลอดจนเน้นย้ำ “ความมั่นคงของประชาชน คือความมั่นคงของรัฐ” และกระทรวงมหาดไทยต้องเป็นแกนกลางในการทำงานทุกมาตรการ