‘ภูมิธรรม’ เชื่อ ‘รบ.ไทย’ ได้คุย ‘ตระกูลฮุน’ เป็นปัจจัยสำคัญ ‘ชายแดน’ คลี่คลาย

9 มิ.ย. 2568 - 04:24

  • ‘ภูมิธรรม’ ย้ำ สถานการณ์ ‘ไทย-กัมพูชา’ ดีขึ้น ยัน ถก JBC 14 มิ.ย. ไม่คุยเรื่องปราสาท

  • มอบ ‘บิ๊กเล็ก’ ประเมินเรื่องด่านชายแดน

  • ระบุ การพูดคุย ‘ฮุน มาเนต-ฮุน เซน’ ปัจจัยสำคัญทำสถานการณ์คลี่คลาย

‘ภูมิธรรม’ เชื่อ ‘รบ.ไทย’ ได้คุย ‘ตระกูลฮุน’ เป็นปัจจัยสำคัญ ‘ชายแดน’ คลี่คลาย

‘ภูมิธรรม เวชยชัย’ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกัมพูชาถอยกำลังกลับไปอยู่จุดเดิมเมื่อปี 67 และปิดกลบคูเลตตามคำเรียกร้องของไทย ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นมีหลายปัจจัยที่ทำให้เกิดความสำเร็จ เป็นกระบวนการที่มีการพูดคุยกันทุกระดับ ตั้งแต่ระดับสูง นายกรัฐมนตรี รองนายกฯ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) แม่ทัพภาคที่ 2 มีการประสานงานกันตลอด เราได้ให้ทูตทหารของเรากับของทางกัมพูชาเป็นตัวประสานขับเคลื่อน คุยกันมาต่อเนื่องตลอดจนเวลา 11.00 น. วันที่ 8 มิ.ย. ‘สมเด็จฮุน เซน’ ประธานองคมนตรีและประธานวุฒิสภากัมพูชา ก็อยากหาข้อสรุปที่เป็นสันติ คิดว่า การเกิดสงครามไม่มีประโยชน์ จึงเรียนไปว่า ส่วนตัวในฐานะรองนายกฯ และรมว.กลาโหม การสั่งให้ทหารรบกันมันเร็วและมันง่าย แต่ความสูญเสียเกิดขึ้นทั้งสองฝ่าย สิ่งสำคัญคือ ทำอย่างไรให้ยุติโดยไม่มีความสูญเสีย นั่นคือ ทิศทางหลักที่เราทำ  

ภูมิธรรม กล่าวว่า ในวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมาเราได้คุยกันตลอด เพราะอยากขอลดการเผชิญหน้า ทั้งนี้ ได้คุยกันตั้งแต่ ‘แพทองธาร ชินวัตร’ นายกรัฐมนตรี คุยกับ ‘พล.อ.ฮุน มาเนต’ นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และส่วนตัวได้คุยกับ ‘พล.อ.เตีย เซยฮา’ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมกัมพูชา ก็มีข้อสรุปขั้นต้นและพยายามคุยกันต่อ ซึ่งตอนที่กลับมาในการพูดคุยครั้งแรก มีความเข้าใจกันที่คลาดเคลื่อน เหมือนกับกระบวนการคุยกันยังไม่ยุติ จึงมีการคุยกันใหม่ และได้ออกแถลงการณ์แสดงจุดยืนไป ซึ่งทางระดับสูงของกัมพูชายินยอมที่จะหาทางออกร่วมกัน

หลังจากนั้นกองทัพกัมพูชาได้ประสานผ่านมาทางทูตทหารให้ลงไปสำรวจพื้นที่ด้วยกัน หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าโดยเฉพาะจุดที่ปะทะกัน โดยเราได้ส่งรองแม่ทัพภาคที่ 2 ไป เพราะคุ้นเคยกับพื้นที่จึงออกมาในสถานการณ์ที่ดี ข้อตกลงที่เราขอคือ หลังจากนี้อยากให้ทั้งสองฝ่ายเดินสำรวจพื้นที่ด้วยกัน ให้เป็นเหมือนเดิมที่เคยทำ ให้กลบคูเลต และปรับกำลังไปเหมือนในปี 67 ซึ่งอยากให้ยึดถือ เพราะเป็นช่องทางที่ทำให้มันยุติได้อย่างสงบ ปรับกำลังกันไป เขาอยู่ในจุดเดิมของเขา เราอยู่ในจุดเดิมของเรา ถือว่า เราประสบความสำเร็จในการยุติการเผชิญหน้าที่เป็นข้อแรกสุดที่เราอยากได้ เพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายลง ขณะนี้ถือว่า อยู่ในจุดที่ยุติเรียบร้อยแล้ว  

ภูมิธรรม กล่าวว่า ต่อจากนี้จะเป็นการประชุมคณะกรรมการชายแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) ในวันที่ 14 มิ.ย. ซึ่งวาระที่คุยกันตั้งแต่ต้นยังเป็นวาระเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ข้อเสนอของฝ่ายกัมพูชาจะคุยในเชิงเทคนิค แต่เราอยากให้เคลียร์ตรงนี้ให้ชัดเจนว่า เส้นแดนตรงนี้มันจะประคองกันไปอย่างไรจนกว่ามีข้อตัดสิน คิดหาประเด็นในการที่จะตัดสิน หรือเงื่อนไขอะไรในการตัดสินใจ คงจะจำกัดอยู่แค่ในเรื่องนี้ ส่วนกรณีปราสาทต่างๆ เรายังยืนยันว่า ยังไม่อยากพูดคุยในรอบนี้ หากเขาหยิบขึ้นมาเราก็พร้อมรับฟัง ต้องดูว่า วันที่ 14 มิ.ย.จะคลี่คลายไปอย่างไร

ส่วนการปิดด่านต่างๆ มติที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติเมื่อสัปดาห์ก่อนได้ให้หน้างานประเมินตามความเป็นจริง โดยได้คุยกับ ผบ.ทบ. แม่ทัพภาคที่ 2 แม่ทัพภาคที่ 1 และกองกำลังจันทบุรีแล้วว่า เราจะค่อยๆ ใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก เพราะเราไม่ต้องการให้เสียเลือดเนื้อแม้แต่หยดเดียว ชีวิตประชาชนชายแดนทั้งสองฝ่าย และชีวิตทหารของเราในแนวหน้าเป็นสิ่งสำคัญ เราอยากแก้ปัญหาแต่ไม่อยากใช้ความรุนแรง ความอดทนอดกลั้นครั้งนี้ต้องขอบคุณกองทัพที่เข้าใจมาโดยตลอด และประสานงานในการช่วยแก้ไขปัญหาจนกระทั่งสำเร็จ 

ภูมิธรรม กล่าวว่า ทุกอย่างที่ได้คุยกันได้ให้ 'พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์' รมช.กลาโหม เป็นคนประสานงานกับเหล่าทัพ ซึ่งดี เพราะมีความผูกพันกันกับกองทัพ ส่วนตัวได้คุยเฉพาะเรื่องสำคัญ และถ้ามีปัญหาอะไรก็ให้แจ้งมา เพื่อจะได้แก้ปัญหา ต้องขอบคุณทุกภาคส่วน

ขอบคุณประชาชนทั้งสองประเทศที่อดทนอดกลั้น แม้จะมีอารมณ์ไปบ้าง แต่ก็ทำให้คลี่คลาย จบลงด้วยดี ขอบคุณทหารทุกฝ่ายที่ไม่ทำให้เหตุการณ์รุนแรงไป จากนี้ไปคงต้องกำหนดการคลี่คลายในเรื่องเขตแดนกับทางกัมพูชา


ขอบคุณประชาชนทั้งสองประเทศที่อดทนอดกลั้น แม้จะมีอารมณ์ไปบ้าง แต่ก็ทำให้คลี่คลาย จบลงด้วยดี ขอบคุณทหารทุกฝ่ายที่ไม่ทำให้เหตุการณ์รุนแรงไป จากนี้ไปคงต้องกำหนดการคลี่คลายในเรื่องเขตแดนกับทางกัมพูชา

และต้องวางมาตรการในระยะยาวต่อไป ซึ่งต้องรอการคลี่คลายต่างๆ อีกระยะหนึ่ง โดยเมื่อเช้าวันที่ 9 มิ.ย.ได้คุยกับ พล.อ.ณัฐพล ให้ดูเรื่องความจำเป็นในการจะจัดการเรื่องด่านอย่างไร เพราะเรื่องด่าน จริงๆ ตอนนี้เรายังไม่ได้ปิด แค่จำกัดเวลา และขณะนี้ยังไม่ได้กระทบการค้า และมาตรการขณะนี้อยู่ในมาตรา Seal Stop Safe เพราะฉะนั้น ตอนนี้ไม่มีปัญหา คิดว่า ทุกอย่างจะคลี่คลายได้ดี ซึ่งเมื่อคืนวันที่ 8 มิ.ย.ได้รายงานนายกฯตลอด รวมถึงประสานกับ ผบ.ทบ. และแม่ทัพภาคที่ 2 ตลอดเวลา  

ผู้สื่อข่าวถามว่า ความสำเร็จเกิดจากมาตรการจำกัดเวลาปิดด่านหรือไม่ ภูมิธรรม กล่าวว่า ตนว่า มีหลายมาตรการ แต่สิ่งสำคัญคือ การประสานงานที่คุยกับ พล.อ.ฮุน มาเนต และสมเด็จฮุน เซน คือ ปัจจัยสำคัญที่ทำให้คลี่คลายลง หลังจากท่าทีทั้งสองมีความเข้าใจมากขึ้น กระบวนการจากกองทัพกัมพูชาจึงได้เกิดขึ้น และมาตรการที่เราทำอาจจะเป็นส่วนเสริมสำคัญที่ทำให้การพูดคุยมันเกิดเป็นข้อสรุปได้ง่ายขึ้น  

เมื่อถามว่า การตรึงกำลังของฝ่ายกัมพูชาตามแนวชายแดน จะลดจำนวนลงด้วยหรือไม่ ภูมิธรรม กล่าวว่า หลังจากนี้จะรอดู เชื่อว่า มันจะค่อยๆ คลี่คลาย ความที่มันตึงเลยแล้วจะปลดทันทีก็คงไม่ถูกในวิสัย ตอนนี้ค่อยๆ ลดจุดเผชิญหน้า ขยับปรับกำลังกันไปแล้ว ส่วนอื่นๆ มันตรึงกำลังจริง แต่ยังไม่มีลักษณะในการปะทะ ที่ตรึงเครียดจริงอยู่แถวช่องบก สามเหลี่ยมมรกต ต้นพญาสัตบรรณ ซึ่งตรงนี้คลี่คลายลงแล้ว  

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์