ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวภายหลังประชุมมอบนโยบายกับหัวหน้าส่วนราชการกระทรวง ผู้ว่าราชการจังหวัดว่า “วันนี้เข้ากระทรวงมหาดไทยอย่างเป็นทางการ ซึ่งมาพร้อม 2 รัฐมนตรีช่วย”
พร้อมยืนยันว่า “พวกเราทั้งสามคนจะร่วมกันทำงาน และแก้ปัญหาต่างๆ ด้วยดี” ส่วนการพบกับผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด รวมถึงนายอำเภอ และข้าราชการ ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย รวมถึงหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัด ก็ได้ให้นโยบายเบื้องต้นว่า “ผมมาทำงานอย่างง่ายๆ ไม่ต้องการผู้ติดตามที่ไม่เกี่ยวข้อง เพราะผลงานต้องสำคัญกว่าหน้าตา ไม่ต้องมาเจอหน้าบ่อย แต่ผลงานต้องเป็นรูปธรรม”
ภูมิธรรม กล่าวอีกว่า “กระทรวงมหาดไทยต้องดีขึ้นกว่าเดิม” และสิ่งที่สำคัญในการวัดประเมินผล “ผมไม่ต้องการตัวเลขอย่างเดียว แต่สิ่งที่อยากเห็นคือผลงานที่เป็นรูปธรรม” เพราะตั้งแต่เป็นรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง การแก้ปัญหายาเสพติด “ผมก็เห็นตัวเลขมาเยอะ แต่ความรู้สึกของประชาชนในพื้นที่ยังไม่รู้สึก” ดังนั้น “ผมจึงบอกไปว่าประชาชนเขารู้หมด แต่ทำไมผู้ว่าฯ ตำรวจจึงไม่รู้”
ผมจึงให้นโยบายยาเสพติดเป็นเรื่องใหญ่ และต้องร่วมมือกัน และสิ่งสำคัญที่ได้ให้ที่กระทรวงมหาดไทยคือ มองให้ไกล เพราะวันนี้การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นไวมาก อะไรที่เป็นปัญหาเรื่องกฎระเบียบขอให้ออกมา หากจะมาแก้ไขปรับปรุงก็มาพูดคุยกัน เพราะประสบการณ์ของผมที่เป็นรัฐบาล เห็นมาหลายอย่างแล้ว ว่ากลไกของระบบราชการก็สำคัญ ซึ่งต้องปรับปรุงสิ่งเหล่านี้เพื่อให้ขับเคลื่อนได้เร็ว ฉะนั้นงานบริการที่กระทรวงมหาดไทยมีต้องเร็ว มีผลงานที่ประชาชนรับรู้ได้อย่างเป็นรูปธรรม
ส่วนกฎระเบียบที่ขัดขวางการทำงานในการบริการประชาชนก็ต้องรีบแก้ไข และทั้งหมดทั้งปวง “เศรษฐกิจฐานรากถือเป็นเรื่องสำคัญที่กระทรวงมหาดไทยต้องช่วยดูแลแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้พี่น้องประชาชนด้วย”
อยากจะเห็นภายใน 3 เดือนนี้มีรูปธรรมที่จับต้องได้ ถ้าไม่อย่างนั้นจะขออนุญาต ก่อนถึงเดือน ก.ย. ผมจะขอปรับกำลังใหม่ เพื่อจะได้ให้คนที่เหมาะกับงาน สามารถตอบสนองการแก้ไขปัญหาได้ ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการทุกระดับ ถ้าอยากจะเห็นอะไรดีขึ้นและคิดว่าเป็นปัญหาให้มาบอก ประตูห้องผมเปิดตลอดเวลา
ภูมิธรรม กล่าวอีกว่า “สิ่งที่ผมเคยทำมา ให้ปลัดกระทรวง รองปลัดกระทรวง ผู้ตรวจราชการกระทรวง และอธิบดี รวมทั้งผู้ว่าฯ ทุกคน อยากเห็นกระทรวงมหาดไทยภายใต้ 3 รัฐมนตรีนี้เป็นอย่างไรขอให้บอก อะไรที่รู้สึกอึดอัดติดใจอยากทำแล้วไม่ได้ทำ ขอให้มาบอก เพราะว่าอะไรก็ตามที่มันทำให้เกิดการไร้ประสิทธิภาพ ขอให้บอก ถ้ามาบอกแล้วกล้าทำ ผมจึงให้ทำ ทำได้ ผมจะสนับสนุนต่อ ทำไม่ได้แล้วได้พิสูจน์กันตามศักยภาพที่มี”
เพราะฉะนั้นภายใน ก.ย. นี้ได้เห็นแน่ว่า ใครทำอะไรถูกต้องเหมาะสมกับงานของตัวเองเพียงใด
เมื่อถามว่าที่บอกกระทรวงมหาดไทยต้องดีกว่าเดิม แปลว่าที่ผ่านมาไม่ดีใช่หรือไม่? ภูมิธรรม กล่าวว่า “ที่บอกว่าดีกว่าเดิมไม่ใช่สมัยก่อนไม่ดี แต่ผมจะทำให้ดีกว่าเดิม”
เมื่อถามย้ำว่านโยบายเรื่อง “ปราบยาเสพติด” จะเข้มข้นเหมือนสมัยในยุครัฐบาลไทยรักไทยหรือไม่? ภูมิธรรม กล่าวว่า “เข้มข้นเหมือนเดิมหรือไม่นั้นไม่รู้ แต่การปราบยาเสพติดวันนี้ ต้องทำให้ประชาชนรู้สึกได้ว่าไม่เป็นปัญหาและภัยที่คุกคามเขา เพราะวันนี้มันคุกคามไปทุกชุมชนทุกหมู่บ้าน”
เมื่อถามย้ำว่าจะประกาศให้ประชาชนสบายใจได้หรือไม่ว่าจะไม่มียาเสพติดหรือน้อยลง? ภูมิธรรม กล่าวว่า “ยืนยันจะทำอย่างเต็มที่ รวดเร็ว และเด็ดขาด ในการแก้ไขปัญหาให้ยาเสพติดมันหมดไป และมีอะไรก็บอกผมได้ ซึ่งจะใช้กระบวนการของประชาชน โดยจะใช้กลไกของ ชรบ. อส. และกำนันผู้ใหญ่บ้าน”
เมื่อถามย้ำว่าภายใน 3 เดือนนี้ หากเจ้าหน้าที่ไม่มีผลงานจะโยกย้ายหรือไม่? ภูมิธรรม กล่าวว่า “ก็ต้องทำให้ดีกว่าเดิม ถ้าดีแล้วมีผลงานไม่ว่าเป็นใครเราก็สนับสนุน แต่ถ้ายังไม่ดีก็ขอปรับ อันนี้เป็นการทำให้ทุกคนตื่นตัว และทำงานได้เต็มที่ ซึ่งจะดูความตั้งใจในการทำงานและความยากลำบากของพื้นที่ด้วย”
เมื่อถามถึงกรณีแนวคิด “สลายแบ่งสีสิงห์” อย่างกรณี “สิงห์ดำ” หรือ “สิงห์แดง” เข้าใจได้ว่าจบการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ และ ม.ธรรมศาสตร์ แต่ “สิงห์น้ำเงิน” อาจดูเหมือนว่าหมายถึง “บางพรรคการเมือง” หรือไม่? ภูมิธรรม กล่าวว่า “ผมเข้ามาและฟังก็เห็นว่ามีทุกสี” พร้อมย้ำว่า “ได้ยินว่ามีสิงห์น้ำเงินนะ แต่ผมคิดว่าสิ่งที่สำคัญอยู่ที่การตั้งใจทำงานเพื่อประชาชนหรือไม่ ผมไม่อยากให้เวลาทำงานข้าราชการมาเดินตามผม อยากให้มีเวลาทำงาน หากใครมีความจำเป็นที่จะต้องมารายงานค่อยมารายงาน ผมก็อยากจะเปลี่ยนวิธีการทำงาน เพราะแบบนั้นไม่ใช่ผม”
เมื่อถามว่าในช่วงที่นายกฯ หยุดปฏิบัติหน้าที่ส่งผลให้ “ข้าราชการเกียร์ว่าง” หรือไม่ เนื่องจากมีการประเมินกันว่ารัฐบาลจะอยู่ได้ไม่กี่เดือน? ภูมิธรรม กล่าวว่า “ไม่เกียร์ว่าง เพราะถ้าเกียร์ว่างก็ต้องมีการดำเนินการของแต่ละกระทรวงให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล เป็นหน้าที่ที่ต้องทำอยู่แล้ว ถ้าไม่ทำ ถ้าเกียร์ว่างก็เท่ากับโดนมาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ซึ่งมีอยู่แล้ว แต่ผมเชื่อว่าข้าราชการทุกคนพร้อมที่จะทำงาน ซึ่งไม่ใช่รับใช้ใคร แต่เป็นการแก้ปัญหาวิกฤตของประเทศ”
เมื่อถามว่าฝ่ายนิติบัญญัติไม่มีปัญหาใช่หรือไม่ เพราะใกล้จะมีการโหวตงบประมาณแล้ว? ภูมิธรรม กล่าวว่า “เราเป็นคนทำงาน ก็ควรจะคิดบวกและทำทุกอย่างให้เต็มที่ ถ้าคิดลบมันก็ท้อแท้ แย่ แต่การคิดลบถ้าเป็นจริงก็ต้องค้นคว้าหาข้อมูลแก้ปัญหา เราไม่ถือว่าทั้งหมดเป็นอุปสรรค แต่เป็นความท้าทายที่ต้องฝ่าฟันไป ผมเชื่อว่ารัฐมนตรีทุกคนพร้อมทำงานอย่างเต็มที่ อีกทั้งนายกฯ ก็ไม่ได้หลุดจากหน้าที่ในตอนนี้ เพียงแต่ยังพิสูจน์ทราบไม่ได้ว่าถูกผิดอย่างไร ถ้าเกียร์ว่าง กลไกของรัฐมนตรีมีอยู่แล้ว ไม่ต้องรองนายกฯ หรอก รัฐมนตรีก็สามารถทำงานได้”
คนเกียร์ว่าง แปลว่าไม่อยากทำงาน ก็ต้องทำให้ไม่ทำงาน
ส่วนเมื่อถามถึงอำนาจหน้าที่ของรักษาราชการแทนนายกฯ? ภูมิธรรม กล่าวว่า “มีหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ” เมื่อถามย้ำถึงการยุบสภาฯ ทำได้หรือไม่ ภูมิธรรม กล่าวสั้นๆ ว่า “ตามรัฐธรรมนูญ”