‘ภูมิธรรม’ ลั่นรัฐพร้อมคุย ‘ผู้ก่อความไม่สงบ’ แต่ต้องหยุดใช้ ‘ความรุนแรง’ มาบีบ

6 พ.ค. 2568 - 04:11

  • ‘ภูมิธรรม’ เสียใจไทยพุทธ-มุสลิม ประสบเหตุความรุนแรงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

  • ยัน ‘ยินดีเจรจา’ แต่ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไข-ไม่แบ่งแยกรัฐ

  • ขอประชาชนอย่าหวั่นไหว หลังผู้ก่อความไม่สงบขู่ทำร้ายเพิ่ม

  • ลั่นรัฐพร้อมคุยแต่ต้องหยุดใช้ความรุนแรงมาบีบ หากไม่ทำพร้อมตอบโต้เด็ดขาด

Phumtham_said_government_ready_to_talk_to_rioters_but_must_stop_using_violence_to_pressure_SPACEBAR_Hero_7962d40bba.jpg

ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงความรุนแรงที่เกิดขึ้นรายวันในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะมีมาตรการรับมืออย่างไร ว่า ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของประชาชน ทั้งไทยพุทธและไทยมุสลิมที่ประสบเหตุ ผมคิดว่าการกระทำแบบนี้ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น

ต้องถือว่าเป็นการกระทำที่ไร้มนุษยธรรม และใช้ความรุนแรงในการเข้าไปแก้ปัญหา ด้วยการเข้าไปยิงพระ เณร เด็ก คนชรา ผู้พิการ เป็นเรื่องที่ไร้มนุษยธรรมอย่างยิ่ง ไม่ได้ช่วยให้สิ่งที่กำลังต่อสู้ประสบความสำเร็จ เราเองก็พร้อมที่จะดำเนินการแก้ปัญหานี้โดยเร็ว ซึ่งได้สั่งการไปแล้วว่าให้ทั้งทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองปฏิบัติการเชิงรุก ซึ่งคำว่าปฏิบัติการเชิงรุกมีคนเอาไปตีความหมายในทางที่แย่ เหมือนเราไปเข่นฆ่าเขา แต่ความจริงเรื่องนี้คือการไม่อยู่ในที่ตั้ง อาจต้องตั้งด่านเข้มงวดขึ้น ปฏิบัติการให้เร็ว เข้าไปอยู่ในจุดที่มีความสงสัยว่าเกิดเหตุ และส่งกำลังพลเข้าไปดูแลประชาชน ทั้งชาวไทยพุทธและชาวไทยมุสลิม

ภูมิธรรม เวชยชัย

ภูมิธรรม ยังกล่าวอีกว่า ตั้งแต่อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มีการพูดคุยกัน และมีการตกลงกันว่าจะให้ฝ่ายปฏิบัติการที่มีผมดูแลอยู่ พบกับผู้อำนวยความสะดวกทางมาเลเซีย ซึ่งเราได้พบกันแล้ว ผมได้บอกไปแล้วว่า ประเด็นแรกเราไม่ยอมรับความรุนแรง ดังนั้น ถ้าจะใช้ความรุนแรง มันยากที่จะมาเจรจากัน ถ้าเขายอมรับในสิ่งที่เราตกลงกันไว้ ว่าเราจะคุยกันอย่างสันติ คุณต้องพิสูจน์ให้เห็นว่าสามารถยุติและมาเจรจากันได้ ไม่ใช่เราไม่พร้อมเจรจา

ผมตั้งใจและยินดีที่จะเจรจา ถ้าจะแก้ไขปัญหาได้ การเจรจาก็เพื่อหาทางออกร่วมกัน แต่ที่ผ่านมาเราไม่รู้ว่าใครที่เป็นคนเจรจาได้ เพราะมีการเจรจามาโดยตลอด การสู้รบ การยิงก็ไม่เคยยุติ ตอนทดลองในเดือนรอมฎอนว่าขอให้หยุดให้ได้ทั้งหมด แล้วเรามาเริ่มต้นเจรจากัน แต่ช่วงปลายเดือนรอมฎอนก็เป็นเหมือนเดิม คือมีการก่อเหตุ ดังนั้นถ้าควบคุมไม่ได้ จะมีการเจรจาเพื่ออะไร ซึ่งวันนี้ผมพร้อม และทีมเจรจาก็พร้อมที่จะตั้งทันที หากทุกอย่างเป็นไปตามเงื่อนไขว่า ตัวแทนเจรจาสามารถสั่งการให้หยุดได้

ภูมิธรรม เวชยชัย

โดยประเด็นที่อยากเจรจา มีเงื่อนไขที่ได้ฝากกับผู้อำนวยความสะดวกไป คือ ต้องหยุดเรื่องความรุนแรงจริง ๆ ไม่ใช่เป็นการใช้เกมการเมืองว่าอยากทำอะไรปกติก็ต้องมีการเข่นฆ่า และออกแถลงการณ์มาประณามคนเข่นฆ่า ก็ไม่มีความหมาย เพราะคนที่ดำเนินการต่อสู้กับรัฐอยู่ขณะนี้ ก็มีอยู่กลุ่มเดียว เพราะฉะนั้นต้องเลิกเล่นการเมือง และเลิกทำตัวไม่ตรงกับพฤติกรรมที่เกิดขึ้น

ภูมิธรรม กล่าวว่า ประเด็นที่สอง ได้บอกไปแล้วว่า เรายอมรับใน ‘พหุวัฒนธรรม’ ซึ่งเขาก็ต้องยอมรับในสิ่งนี้ด้วย ประเทศไทยมีจุดแข็งที่อยู่ร่วมกันได้ทุกศาสนา เมื่อก่อนในพื้นที่ภาคใต้ ชาวไทยพุทธและชาวไทยมุสลิมก็อยู่ร่วมกัน เหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นมาจากความพยายามในการแยกรัฐ ตนคิดว่าต้องอยู่ในสังคมพหุวัฒนธรรม

ภูมิธรรม กล่าวต่อไปว่า ประการที่สาม ผมยินดีที่จะเจรจาพูดคุย ภายใต้กฎหมายรัฐธรรมนูญไทย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข รัฐเป็นรัฐเดียว แบ่งแยกไม่ได้

ดังนั้น การจะเจรจาเพื่อเป็นรัฐปาตานี หรือรัฐอะไรก็ตาม เราไม่พร้อมเจรจาด้วย แต่ถ้าจะคุยในเรื่องการอยู่ร่วมกันหรือความร่วมมือ อันนี้เรายอมรับได้ เรายอมรับอยู่แล้วว่าการที่จะให้ประชาชนในพื้นที่มีส่วนร่วมในการบริหารจัดการ มีส่วนร่วมในการปกครองตัวเอง เรื่องนี้มาคุยกันจะเอารูปแบบไหนก็ได้ ถ้ายึดหลักตามที่ผมบอกไป ไม่แบ่งแยกเป็นรัฐอิสระ ไม่ดำเนินการภายนอกรัฐธรรมนูญไทยที่มีอยู่ ก็มาคุยกันว่าจะเอารูปแบบไหน

ภูมิธรรม เวชยชัย

ผมได้ให้เงื่อนไขกับผู้อำนวยความสะดวกไปแล้ว ซึ่งจริง ๆ ที่ทุกคนเห็น ไม่ได้หมายความว่าเราไม่ได้ทำอะไร เราทำไปหลายส่วน และเมื่อวาน (5 พ.ค.) ตอนโอกาสเจอกับแม่ทัพภาคที่ 4 และผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ผมได้กำชับไปว่า ขณะนี้ต้องยุติความรุนแรงให้ได้ก่อน เรื่องอื่น ๆ ถึงจะสามารถดำเนินการได้ ถ้าเรื่องนี้ยังไม่ได้ไม่ต้องมาพูดอะไร และผมเห็นด้วยกับ สุนัย ผาสุข และสิ่งที่พูดมาควรจะนำไปขบคิดกัน อย่าใช้การเมือง ให้พูดกันตรง ๆ อย่างจริงใจ และหากอยากแก้ปัญหา ให้นำความจริงมาพูดกัน ผู้สนับสนุนหรือฝ่ายต่าง ๆ ต้องเข้าใจความเป็นจริง วันนี้ต้องตั้งคำถามให้ถูกจุดว่ากลุ่มที่ใช้ความรุนแรงทำอะไรกันอยู่ ไม่ใช่อยู่ ๆ มาโจมตีรัฐอย่างเดียว

พร้อมยืนยันว่า รัฐไม่ได้อยู่นิ่ง และมีการเตรียมความพร้อม แต่ต้องอยู่ภายใต้สิ่งที่รัฐสามารถดำเนินการได้

ส่วนจะมีมาตรการดูแลประชาชนเพิ่มขึ้นหรือไม่ หลังผู้ก่อความไม่สงบร่อนใบปลิวขู่ทำร้ายประชาชนไทยพุทธกับพระสงฆ์ให้มากขึ้น? ภูมิธรรม กล่าวว่า พอเราออกแถลงการณ์ประณามแล้วฝั่งผู้ก่อความไม่สงบทำแบบนี้ ถามว่ากลุ่มบุคคลเหล่านี้น่าเชื่อถือหรือไม่ แต่ยืนยันว่าเขาคงทำไม่ได้ เพราะขณะนี้เราได้ปรับกำลัง และปรับหน่วยเคลื่อนที่เข้าไปคุ้มครองพื้นที่ชาวไทยพุทธ รวมถึงได้คุยกับผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) อย่างใกล้ชิดตลอด

ซึ่งการกระทำดังกล่าว ถือเป็นการโฆษณาชวนเชื่อทางการเมือง และเป็นการพิสูจน์ให้ประชาชนได้เห็นว่าเป็นวิถีที่ถูกต้องหรือไม่ ซึ่งการที่ชาวไทยพุทธและชาวไทยมุสลิมได้เห็นแถลงการณ์ของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ถามว่าเป็นสิ่งที่ควรทำหรือไม่ ซึ่งเป็นการกระทำที่ไร้มนุษยธรรม มองเห็นชีวิตผู้คนไม่เป็นมนุษย์ และยิ่งทำแบบนี้จะยิ่งทำให้เกิดปัญหา

ภูมิธรรม กล่าวต่อไปว่า ผมคิดว่าภาคใต้ของประเทศไทยมีศักยภาพในการพัฒนาอย่างมาก ถ้าสองฝ่ายคือไทยกับมาเลเซียร่วมมือกันบริหารจัดการจะสามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ และเชื่อว่าจะมีคนพร้อมมาลงทุนจำนวนมาก แต่ความรุนแรงจะต้องยุติเพื่อให้เกิดความมั่นคง เพราะความรุนแรงไม่มีประโยชน์ ซึ่งผมมีแผนที่จะคุยกับทางมาเลเซียเรื่องนี้อยู่แล้ว และผมขอย้ำว่า ไม่ได้หมายความว่าผมจะใช้ความรุนแรงไปฆ่าคน แต่เป็นการใช้กำลังของเราที่มีอยู่ปกป้องคน และประชาชนในพื้นที่เหล่านั้นให้ได้รับความปลอดภัยมากที่สุด

โดยวันพรุ่งนี้ (7 พ.ค.) ได้มอบหมายให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ลงพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ไปพูดคุยให้กำลังใจ ดูแลเจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง และขอให้ชาวไทยมองปัญหาอย่างเข้าใจ เห็นใจเจ้าหน้าที่ที่กำลังปฏิบัติงานอยู่โดยเอาชีวิตเข้าเสี่ยงที่จะแก้ปัญหา

อย่าหลงประเด็นที่ถูกบิดเบือนไป เพราะประเด็นสำคัญคือ ไม่ควรมีการเข่นฆ่าพี่น้องประชาชน ถ้าไม่มีเรื่องนี้แล้วค่อยมาคุยกัน แต่ถ้าเอาเรื่องนี้มาบีบเราคงยอมไม่ได้ และเราจะต้องดำเนินการอย่างแข็งแรงเด็ดขาด เพื่อให้ประชาชนของเรามีความปลอดภัย

ภูมิธรรม เวชยชัย

อ้างอิง

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์