พิชัย สั่งติดตามราคาสินค้าและบริการทั่วประเทศ

28 มี.ค. 2568 - 03:30

  • ‘พิชัย’ สั่งกรมการค้าภายใน-พาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ดำเนินมาตรการเชิงรุก

  • ดูแลค่าครองชีพของประชาชน ติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด

  • จัดจำหน่ายสินค้าโครงการ ‘ธงฟ้าราคาประหยัด’ ให้เข้าถึงชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศ ให้ประชาชนซื้อสินค้าราคาประหยัด-เป็นธรรม

pichai_moc_follow_up_price_product_service_nationwide_SPACEBAR_Hero_4cd0ed70f5.jpg

พูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (ผอ. สนค.) โฆษกกระทรวงพาณิชย์ เผย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในและพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศดำเนินมาตรการเชิงรุก ดูแลค่าครองชีพของประชาชน โดยให้ติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด รวมถึงการจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นผ่านโครงการ ‘ธงฟ้าราคาประหยัด’ ให้เข้าถึงชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อให้ประชาชนสามารถซื้อสินค้าได้ในราคาประหยัดและเป็นธรรม

นอกจากนี้ ยังให้ สนค.ตรวจสอบความเคลื่อนไหวของราคาอย่างใกล้ชิด ซึ่งพบว่าสินค้าและบริการมีการเปลี่ยนแปลงราคาที่แตกต่างกันไป โดยขึ้นอยู่กับปัจจัยเฉพาะของสินค้าแต่ละประเภท ไม่ว่าจะเป็นต้นทุน วัตถุดิบ ปริมาณความต้องการสินค้า หรือภาวะเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบโดยตรง

pichai_moc_follow_up_price_product_service_nationwide_SPACEBAR_Photo01_5d08e17adf.jpg

โดยสินค้าสำคัญหลายรายการมีราคาปรับลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ทำให้ผู้บริโภคสามารถซื้อสินค้าในราคาที่ถูกลง และช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้ เช่น  \- ไข่ไก่เบอร์ 2 ที่ปัจจุบันมีราคาต่ำกว่า 4 บาทต่อฟอง จากที่สูงถึง 4.50 บาทต่อฟองในบางช่วงของปี 2567 \- ขณะที่ มะนาว ราคาปรับลดลงเหลือต่ำกว่าลูกละ 4 บาท จากราคาสูงกว่าลูกละ 5 บาทในปีที่ผ่านมา \- นอกจากนี้ ราคาผักหลายชนิด เช่น ใบกะเพราและพริกขี้หนูแดง ในช่วงนี้ราคาประมาณ 40 บาทต่อกิโลกรัม และ 50 บาทต่อกิโลกรัม ตามลำดับ จากราคาที่สูงถึง 70 บาทต่อกิโลกรัมในปีที่ผ่านมา \- สำหรับ หัวหอมแดง ราคา 55 บาทต่อกิโลกรัม จากราคาประมาณ 100 บาทในปีก่อนหน้า \- นอกจากนี้ ในส่วนของ มะละกอดิบ พริกชี้ฟ้าแห้ง แตงกวา และเห็ดฟาง ราคามีแนวโน้มลดลงเช่นกัน สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคยังสามารถเลือกซื้อสินค้าจำเป็นในราคาที่ถูกกว่าเดิม

สำหรับสินค้าจำเป็นหลายรายการมีราคาคงที่หรือเปลี่ยนแปลงไม่มากนัก ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา เช่น นมข้นหวาน ข้าวหอมมะลิบรรจุถุง 5 กิโลกรัม ข้าวหอมมะลิตักขาย 15 กิโลกรัม ข้าวสารเหนียว 15 กิโลกรัม น้ำดื่มบริสุทธิ์ เกลือป่น ผงชูรส และแชมพู ซึ่งเป็นสินค้าที่มีความสำคัญต่อครัวเรือน เมื่อพิจารณาร่วมกับสินค้าที่มีราคาปรับลดลง 

จะเห็นได้ว่า มีสินค้าจำนวนไม่น้อยที่ผู้บริโภคสามารถซื้อได้ในราคาที่ถูกลง หรือจ่ายไม่เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า ส่งผลให้ภาระค่าครองชีพของประชาชนไม่เพิ่มขึ้น และช่วยให้สามารถบริหารค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

นอกจากนี้ การติดตามแนวโน้มการค้าขายสินค้าออนไลน์หรืออีคอมเมิร์ซของไทย พบว่า บทบาทของผู้ผลิตกำลังเปลี่ยนไปสู่การเป็นผู้ขายโดยตรงมากขึ้น ขณะเดียวกันผู้ค้ารายใหญ่ต้องเผชิญกับการแข่งขันที่มากขึ้น รวมถึงแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซต่างๆ ที่แข่งขันกันอย่างเข้มข้น ส่งผลให้มีการจัดโปรโมชั่นลดราคาสินค้าจำนวนมากเพื่อดึงดูดลูกค้า กิจกรรมส่งเสริมการขายเหล่านี้กลายเป็นอีกหนึ่งช่องทางสำคัญที่ช่วยให้ประชาชนสามารถเข้าถึงสินค้าในราคาประหยัดได้มากขึ้น และเป็นการเพิ่มโอกาสในการเลือกซื้อสินค้าคุณภาพดีในราคาที่คุ้มค่ากว่าเดิม

แม้ว่าสินค้าหลายรายการจะมีราคาคงที่หรือลดลง แต่ยังมีสินค้าบางชนิดที่ราคาปรับตัวสูงขึ้นตามต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากปริมาณผลผลิตที่ลดลง โดยเฉพาะวัตถุดิบจากสินค้าเกษตร อันเนื่องมาจากปัจจัยด้านสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง เพื่อรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้กำชับให้กรมการค้าภายในและสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศติดตามราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด ป้องกันการฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาโดยไม่เป็นธรรม ซึ่งหากตรวจพบให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด 

พร้อมทั้งเร่งประสานความร่วมมือกับภาคเอกชน สมาคมตลาดสด ตลาดกลาง และสถานีบริการน้ำมัน เพื่อขยายจุดจำหน่ายสินค้าราคาประหยัดให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพของประชาชน และทำให้สามารถเข้าถึงสินค้าจำเป็นได้ในราคาที่เหมาะสม

โฆษกกระทรวงพาณิชย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า แนวโน้มเศรษฐกิจที่ทยอยปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับต้นทุนการผลิตหลายปัจจัยที่เริ่มลดลง ไม่ว่าจะเป็นราคาน้ำมันในตลาดโลก อัตราดอกเบี้ยที่ทยอยปรับตัวลง และมาตรการช่วยเหลือลดค่าครองชีพของภาครัฐ ล้วนเป็นปัจจัยที่เอื้อต่อการควบคุมต้นทุนสินค้าให้เหมาะสม นอกจากนี้ เมื่อรวมกับการกำกับดูแลราคาสินค้าอย่างใกล้ชิดของกระทรวงพาณิชย์ ทำให้แนวโน้มราคาสินค้าและบริการจะอยู่ในระดับที่เหมาะสม และคาดว่าจะมีสินค้าหลายรายการที่ปรับราคาลดลง ซึ่งจะช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพของประชาชนได้มากขึ้นต่อไป

อ้างอิง

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์