ความคืบหน้าการเจรจาทางการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐอเมริกา ภายหลังจากที่รัฐบาลไทยยื่นคำร้องขอผ่อนผันมาตรการภาษีนำเข้าที่สหรัฐฯเตรียมเรียกคืนตามนโยบาย ‘ภาษีทรัมป์’ ใกล้ถึงกำหนดครบ 90 วันในวันที่ 8 กรกฎาคมนี้ ล่าสุด พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ฝ่ายไทยได้จัดส่งข้อเสนอเชิงรายละเอียดไปยัง ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างรอการพิจารณาจากฝั่งอเมริกันว่าจะให้ขยายกรอบเวลาการหารือออกไปหรือไม่
“ยังไม่มีประเทศใดสามารถปิดดีลได้ในตอนนี้ เราเพิ่งส่งข้อมูลไปเพียงไม่กี่วัน จึงต้องรอทางสหรัฐฯประเมินว่าข้อเสนอของไทยน่าสนใจพอหรือไม่ หากพิจารณาแล้วอนุญาตให้ขยายเวลา ก็จะเป็นสัญญาณเชิงบวกต่อการเจรจาระยะยาว”
— พิชัย กล่าว
การเจรจาครั้งนี้เกิดขึ้นภายใต้แรงกดดันจากมาตรการเรียกคืนภาษีศุลกากรของสหรัฐฯต่อสินค้านำเข้าหลายรายการจากประเทศคู่ค้า รวมถึงประเทศไทย ซึ่งอาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาคอุตสาหกรรมส่งออกสำคัญ เช่น ชิ้นส่วนยานยนต์ เหล็ก เคมีภัณฑ์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ทันภายในกรอบเวลา
แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า ไทยเสนอทางเลือกด้านภาษีใหม่ที่ลดแรงปะทะต่อผู้ผลิตในสหรัฐฯ พร้อมยืนยันความร่วมมือด้านมาตรฐานแรงงานและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นปัจจัยที่สหรัฐฯใช้ประกอบการพิจารณาสิทธิทางการค้าและการลดภาษี
ทั้งนี้ มาตรการ ‘ภาษีทรัมป์’ ที่ประกาศใช้ครั้งแรกในปี 2561 ภายใต้รัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังคงมีผลต่อเนื่องในหลายหมวดสินค้า แม้รัฐบาลโจ ไบเดน จะมีท่าทีผ่อนปรนในบางรายการ แต่ยังไม่ยกเลิกโดยสิ้นเชิง โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าจากประเทศที่สหรัฐฯมองว่าเป็น “คู่แข่งด้านการค้าเชิงยุทธศาสตร์”