จิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรณีที่พรรคฝ่ายค้านบางพรรคออกแถลงการณ์เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีเร่งตั้งคณะทำงานพิเศษ (Special Task Force) โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เพื่อรับมือกรณีสหรัฐอเมริกาประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากไทยในอัตราสูงนั้น
ขอยืนยันว่ารัฐบาลภายใต้การนำของ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามมาตรการด้านการค้ากับสหรัฐอเมริกา มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ก่อนการรับตำแหน่งของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เสียด้วยซ้ำ
สำหรับข้อเสนอของพรรคฝ่ายค้านบางพรรค ที่เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีเร่งตั้งคณะทำงานพิเศษ (Special Task Force) นั้น คงล่าช้าไม่ทันการอย่างแน่นอนอาจเป็นเพราะพรรคฝ่ายค้านบางพรรคไม่ได้ติดตามข่าวสารว่า รัฐบาลมีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง อย่างเป็นระบบแล้ว
— จิรายุ ห่วงทรัพย์
โดยนายกรัฐมนตรีคาดคะเนล่วงหน้าไว้แล้วว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ จึงได้ลงนามคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานนโยบายการค้าสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่เมื่อ 3 เดือนที่แล้ว ในวันที่ 6 มกราคม 2568 ก่อนที่ประธานาธิบดีทรัมป์ จะเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ ซึ่งประกอบด้วย
- พันศักดิ์ วิญญรัตน์ ประธานที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรี
- ศุภวุฒิ สายเชื้อ ที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรี
- วุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์
- นฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน
- ฉันทานน์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
- โชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ
- ใจไทย อุปการนิติเกษตร รองอธิบดีกรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้
- ขวัญนภา ผิวนิล นักวิชาการพาณิชย์เชี่ยวชาญ
- โอม บัวเขียว คณะทำงานประธานที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรี และผู้ที่เกี่ยวข้อง
ซึ่งล่าสุด จากแถลงการณ์นายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา ยังได้กำหนดแนวทางความร่วมมือภาครัฐ–เอกชน เพื่อรับมือผลกระทบอย่างเป็นระบบ ดังนี้
รัฐบาลพร้อมหารือกับรัฐบาลสหรัฐฯ ในโอกาสแรก เพื่อปรับดุลการค้าให้เกิดความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย และจัดเตรียม “ข้อเสนอเพื่อปรับดุลการค้ากับสหรัฐฯ ที่มีสาระสำคัญเพื่อให้สหรัฐฯ ได้เจรจากับไทย” ที่เหมาะสม
นอกจากนี้ คณะกรรมการยังได้เร่งประสานเอกชนปรับโครงสร้างการผลิต ลดต้นทุน และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในระยะยาวให้อุตสาหกรรมไทย และวางมาตรการรองรับในการเยียวยาและบรรเทาผลกระทบต่อผู้ส่งออกไทยที่มีตลาดสหรัฐฯ เป็นตลาดหลัก แสวงหาตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ เพื่อลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาตลาดเดียว ตั้งแต่เดือนมกราคมแล้ว
รัฐบาลเล็งเห็นถึงความสำคัญในเรื่องดังกล่าว และได้วางมาตรการรองรับในการเยียวยาและบรรเทาผลกระทบที่อาจมีต่อผู้ประกอบการส่งออกของไทยที่มีตลาดสหรัฐฯ เป็นตลาดหลัก ซึ่งนายกรัฐมนตรียังติดตามผลการประชุมอย่างต่อเนื่องมาตลอดกว่า 4 เดือน และในวันอังคารที่ 8 เมษายนนี้ นายกรัฐมนตรีได้เรียกประชุมคณะกรรมการติดตามการดำเนินงานเกี่ยวกับมาตรการการค้าสหรัฐอเมริกา เวลา 13.00 น. ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล โดยมีรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องและหัวหน้าส่วนราชการทั้งหมด เข้าร่วมประชุม
— จิรายุ ห่วงทรัพย์
พร้อมย้ำว่า รัฐบาลได้เตรียมความพร้อมเพื่อปรับดุลการค้าให้เกิดความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย โดยจะส่งผลกระทบต่อภาคส่วนที่เกี่ยวข้องให้น้อยที่สุด และขอขอบพระคุณที่พรรคฝ่ายค้านบางพรรคให้คำแนะนำ