วันที่ 8 มิถุนายน 2568 แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊ก และทวิตผ่าน X ว่า เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา มีการประชุมเรื่องแผนบริหารจัดการน้ำ ร่วมกับท่านปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเรื่องนี้เป็นวาระสำคัญของรัฐบาล เพราะเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบกับพี่น้องประชาชนอย่างกว้างขวางค่ะ
"ดิฉันเข้าใจดีว่าหลายพื้นที่ยังประสบปัญหาน้ำท่วม น้ำไม่เพียงพอต่อการเกษตร ต่ออุตสาหกรรม น้ำไม่สะอาด หรือระบบประปาที่ยังไม่ทั่วถึงและไม่เพียงพอ ตลอดจนไม่สามารถให้บริการได้อย่างสมบูรณ์แบบ เรื่องนี้เป็นเรื่องจำเป็นและเร่งด่วน ดิฉันตั้งใจอย่างมากที่จะผลักดันให้เกิดการแก้ไขอย่างจริงจังค่ะ
รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณภายใต้โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อลงไปช่วยบรรเทาปัญหา และยกระดับคุณภาพให้ทั่วถึงและดีขึ้นในทุกพื้นที่
วันจันทร์นี้ ดิฉันจะเดินทางไปจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งมีโครงการต้นแบบการขุดเจาะน้ำบาดาล เพื่อนำน้ำใต้ดินมาใช้ช่วงหน้าแล้ง และในพื้นที่ที่ไม่มีแหล่งน้ำใช้อย่างเพียงพอ
ดิฉันอยากไปเห็นด้วยตัวเอง และรับฟังความคิดเห็นจากพี่น้องประชาชน เพื่อนำไปใช้ในการวางแผนและขยายผลในพื้นที่อื่นต่อไปค่ะ เพราะเรื่องน้ำไม่ใช่แค่เรื่องโครงสร้างพื้นฐาน แต่เป็นเรื่องของความเป็นอยู่ในชีวิตประจำวัน ซึ่งรัฐบาลมีหน้าที่ต้องดูแลให้ดีที่สุดค่ะ"
ด้าน จิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีกำหนดการเดินทางลงพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ในวันจันทร์ที่ 9 มิถุนายน 2568 เพื่อตรวจราชการและติดตามการดำเนินงานโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งเป็นโครงการด้านการพัฒนาน้ำบาดาลเพื่อการอุปโภคบริโภค ต้นแบบที่ดีในการผลิตน้ำประปาบาดาลระยะไกลส่งน้ำบาดาลในพื้นที่ที่มีศักยภาพสูงทั้งคุณภาพและปริมาณไปให้บริการในพื้นที่ขาดแคลนของประชาชน
นายกรัฐมนตรีจะลงพื้นที่ติดตาม โครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ บ้านปากชัดหนองบัว อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี และโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่บ้านหนองบัวหิ่ง อำเภอห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งทั้งสองโครงการ เป็นโครงการที่เกิดขึ้นภายใต้พระราชดำริในการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงขาดแคลนน้ำเป็นประจำทุกปี เพื่อให้สามารถดำรงชีวิตและประกอบอาชีพได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน
ทั้งนี้ กรมทรัพยากรน้ำบาดาลดำเนินโครงการมาตั้งแต่ปี 2563 - ปัจจุบัน จำนวนทั้งสิ้น 818 แห่ง ทั่วประเทศ ครอบคลุม 643 ตำบล 380 อำเภอ 74 จังหวัด ประชาชนได้รับประโยชน์ 163,000 ครัวเรือนต่อปี ส่วนโครงการพัฒนาน้ำบาดาลเพื่อการเกษตร (ขนาดใหญ่) ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2563 - ปัจจุบัน จำนวนทั้งสิ้น 616 แห่ง ประชาชนได้รับประโยชน์ 8,968 ครัวเรือน และมีพื้นที่ได้รับประโยชน์รวม 256,508 ไร่
ภายหลังภารกิจเสร็จสิ้น นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปยังเมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เพื่อเป็นประธานในพิธีเปิดงาน OTOP Midyear 2025 ซึ่งเป็นกิจกรรมสำคัญในการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น และกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ
“การลงพื้นที่ติดตามโครงการฯ ในวันนี้ เพื่อให้ได้รับทราบในส่วนของการบริหารจัดการด้านน้ำ ไม่ว่าจะเป็นน้ำผิวดิน และน้ำบาดาล ซึ่งเป็นโครงการที่ประชาชนได้รับประโยชน์โดยตรง สะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจของรัฐบาลในการขับเคลื่อนโครงการตามพระราชดำริให้เกิดผลเป็นรูปธรรม พร้อมผลักดันการพัฒนาแหล่งน้ำให้ครอบคลุมในทุกมิติ ทั้งด้านการอุปโภค บริโภค และภาคเกษตรกรรม โดยมุ่งหวังให้ประชาชนในพื้นที่สามารถเข้าถึงทรัพยากรน้ำได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม” โฆษกรัฐบาล กล่าว