เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) นำโดย พิชิต ไชยมงคล พร้อมกลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนมายังพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เพื่อจัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์พร้อมยื่นหนังสือเรียกร้องให้ถอนตัวจากรัฐบาล หลังพรรคยืนยันร่วมรัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ต่อไป แม้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์และเสียงเรียกร้องในนายกฯ “ลาออก” สืบเนื่องจากคลิปเสียงการสนทนากับสมเด็จฮุน เซน หลุดออกสู่สาธารณะ โดยมี หิมาลัย ผิวพรรณ ผู้อำนวยการพรรค เป็นผู้แทนออกมารับหนังสือ
พิชิต กล่าวว่า “วันนี้เดินทางมาในฐานะมิตร เพื่อเรียกร้องทั้งหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค และกรรมการบริหารของพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่เคยอยู่ในการเคลื่อนไหวกับประชาชนมาก่อน ในช่วงปี 2556-2557 ในนามคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) จึงคิดว่าจะเข้าใจความรู้สึกของประชาชน”
“สิ่งที่ประชาชนกำลังเรียกร้องในขณะนี้ คือประเทศไทยต้องผ่านวิกฤติไปให้ได้ ทั้งวิกฤตด้านความมั่นคงบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือวิกฤตการเมืองและสังคม รวมถึงนโยบายที่ส่งผลต่อประชาชน เช่น กาสิโน และกรณีชั้น 14 ที่ทุกคนทราบดีว่าเป็นเรื่องอะไร ดังนั้น ประเทศไทยต้องมีผู้นำที่แสดงภาวะผู้นำได้อย่างถูกต้อง และนำพาประเทศไปได้”
จากคลิปเสียงการเจรจาระหว่างนายกรัฐมนตรี และสมเด็จฮุน เซน แสดงให้เห็นว่า แพทองธาร ไม่สามารถนำพาประเทศไทยต่อไปได้ ซึ่งจุดอ่อนของประเทศในวันนี้ คือภาวะการนำของแพทองธาร ดังนั้น อยากให้ประเทศไทยผ่านพ้นวิกฤติทางด้านความมั่นคงไปได้ โดยแพทองธารต้องลาออก ยืนยันว่าเราไม่ได้เรียกร้องการรัฐประหาร แต่ขณะนี้มีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเหลืออีกคน และอีกหลายคนก็มีคุณสมบัติที่จะนำพาประเทศผ่านพ้นวิกฤตไปได้ หากแพทองธารยังคงดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไป ประเทศจะไม่สามารถเดินหน้าได้อย่างมั่นคง ไม่ใช่ว่าสังคมต้องประคองให้นายกฯ เดินได้ แต่นายกฯ ต้องเดินด้วยขาของตัวเอง ไม่ใช่ให้คุณพ่อ รัฐบาล และ สส. มาช่วยประคอง ยืนยันว่านายกรัฐมนตรีต้องลาออก และพรรคร่วมรัฐบาลก็ต้องร่วมมือกับประชาชน เราจึงสื่อสารผ่านพรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะกัลยาณมิตร คนที่เคยต่อสู้ร่วมกันมา และอยากให้นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ฟังเสียงของประชาชน เหมือนที่เคยบอกว่าให้ฟังเสียงมวลมหาประชาชนเช่นกัน
พิชิต กล่าวต่อไปว่า “ข้อเรียกร้องของเราไม่ได้ซับซ้อน ระบุแค่ว่าให้พรรครวมไทยสร้างชาติถอนตัวออกจากพรรคร่วมรัฐบาล และขอให้ฟังเสียงของมวลมหาประชาชน นอกจากนี้ หลังจากวันที่ 28 มิถุนายน ผมขอให้ติดตามกิจกรรม โดยเราจะเคลื่อนขบวนไปทุกพรรคร่วมรัฐบาล”

แต่ในวันนี้เดินทางมาพรรครวมไทยสร้างชาติก่อน เพราะว่าพรรคอยู่ใกล้อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เดินทางไปร่วมชุมนุมได้ง่ายที่สุด ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลอื่นจะเป็นกิจกรรมหลังวันที่ 28 มิถุนายน เพราะประเมินแล้วว่า แพทองธารไม่ฟังเสียงประชาชน ซึ่งก็คงต้องสู้กันอีกยาว
ด้าน หิมาลัย ระบุว่า “กราบขออภัยแทนพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ และเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค เนื่องจากทราบกระทันหัน จึงไม่สามารถมาร่วมกิจกรรมในวันนี้ได้ทัน จึงได้มอบหมายให้มารับหนังสือแทน และต้องขอบคุณที่มีความเห็นเสนอมาให้กับพรรครวมไทยสร้างชาติ ขอบคุณเพื่อนเก่าที่ยังระลึกถึง ผมในฐานะตัวแทนพรรคขอน้อมรับ และนำไปมอบให้กับหัวหน้าและเลขาธิการพรรคต่อไป”
ส่วนบรรยากาศโดยรอบที่ทำการรวมไทยสร้างชาติ มี พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผู้กำกับ สน.บางซื่อ และเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ประมาณ 10 นาย ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่พรรค และกันพื้นที่ไม่ให้มวลชนเข้าภายในอาคาร โดยอนุญาตเฉพาะเจ้าหน้าที่พรรคและสื่อมวลชน ส่วนมวลชนที่ร่วมชุมนุมนั้น มีการติดริบบิ้นสีธงชาติ พร้อมชูป้ายข้อความโจมตีและขับไล่นายกฯ เช่น “GET OUT”, “ออกมาเถอะ อย่าหลงกลนายกชั่ว”, “นายกโง่ ไร้ความสามารถ ออกไป”, “พรรครทสช.อย่าพายเรือให้โจรนั่ง”, “รับไม่ได้ นายกขายชาติ”