รักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคประชาชน และสหัสวัต คุ้มคง สส.ชลบุรี พรรคประชาชน เดินทางไปยื่นเรื่องต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
กรณีสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ครั้งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ปล่อยให้เกิดการซื้อตึก SKYY9 หรือสกายไนน์ ด้วยเงินกองทุนประกันสังคม โดยมีราคาแพงเกินจริงถึง 2 เท่า รวมถึงกรณีงบประมาณการจัดทำปฏิทินประกันสังคม การศึกษาดูงานต่างประเทศ และการนำรถของสำนักงานประกันสังคมไปบริจาคแก่วัด
สหัสวัต กล่าวว่า “การซื้อตึกสกายไนน์ที่มีผู้ประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญที่ไม่เกี่ยวข้องกับประกันสังคม มีความผิดปกติ ผมก็ติดตามเรื่องนี้มาตลอด วันนี้จึงมายื่นหนังสือต่อ ป.ป.ช. เพื่อให้ตรวจสอบสุชาติ ถึงการทุจริตในกรณีนี้ รวมถึงองคาพยพอื่นๆ อาทิ ปลัดกระทรวงแรงงานคนปัจจุบัน ที่ขณะนั้นดำรงตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้ประกันตนจำนวนมาก เพราะเงินถูกนำไปใช้อย่างไม่สมเหตุสมผล จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่เราจะดำเนินการอย่างเต็มที่”
เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องส่วนบุคคล แต่เป็นผลประโยชน์ของประเทศชาติ และผมขอถามนายกรัฐมนตรีว่าต้องการคนแบบนี้ให้เป็นรัฐมนตรีต่อไปหรือ เพราะมีทั้งคดีการค้ามนุษย์และคดีทุจริตอยู่ในชั้น ป.ป.ช. จะเก็บคนแบบนี้ไว้เป็นรัฐมนตรีหรือ และประชาชนก็จับตาว่าโผ ครม. จะไปในทิศทางใด เชื่อว่าไม่มีประชาชนคนใดสบายใจ
— สหัสวัต คุ้มคง
ด้าน รักชนก กล่าวว่า “ที่ผ่านมาเราไม่ได้ออกมาเพื่อโจมตีใคร แต่เราอยากรักษาผลประโยชน์ของผู้ประกันตน ซึ่งล่าสุดอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มีหนังสือให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบกรณีดังกล่าว และผลออกมาเป็นที่ประจักษ์แล้วว่ามีมูลจริง และอนุทินก็ส่งหนังสือผลสอบไปให้พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานแล้ว ว่ามีการซื้อแพงเกินจริง ดังนั้น ดิฉันหวังว่าพิพัฒน์จะดำเนินการเรื่องนี้อย่างรวดเร็ว โดยไม่รออะไรอีกเลย หากพบข้อเท็จจริงว่าใครเป็นคนผิด ก็ให้ลากคอมาลงโทษ ซึ่งบุคคลหลักคือสุชาติ”
รักชนก กล่าวว่า “หากสุชาติจะปฏิเสธว่าเป็นรัฐมนตรีแล้วไม่รู้เรื่องการทุจริตในสำนักงานประกันสังคมหรือไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการตัดสินใจลงทุนได้ ก็ขอให้ไปชี้แจงกับ ป.ป.ช. เอาเอง ไม่ต้องมาชี้แจงกับพวกเรา และขอตั้งคำถามว่า ถ้าประเทศไทยมีรัฐมนตรีที่บอกว่าไม่สามารถเข้าไปบริหารกระทรวง หรือหน่วยงานระดับกรม ยังอยากจะมีรัฐมนตรีแบบนี้อยู่หรือไม่ และสุชาติก็ยังได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ในรัฐบาลของแพทองธาร ชินวัตร อยากให้ประชาชนช่วยแสดงความคิดเห็นหรือติดแฮชแท็กส่งไปถึงนายกรัฐมนตรี”
ขณะนี้อยู่ในช่วงการปรับคณะรัฐมนตรี และมีคนร้อนรนทำทุกอย่างเพื่อขยับขึ้นจากรัฐมนตรีช่วยเป็นรัฐมนตรีว่าการ ดิฉันจึงขอเสียบมีดอันใหญ่ไว้เล่มหนึ่ง เพราะกลุ่มของสุชาติ เคยให้เหตุผลว่า พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่มีคุณสมบัติเป็นรัฐมนตรี เพราะมีเรื่องอยู่ระหว่างการตรวจสอบในชั้น ป.ป.ช. และขณะนี้สุชาติก็กำลังจะมีเรื่องค้างอยู่ใน ป.ป.ช. แล้ว ดังนั้น ดิฉันขอถามไปยังนายกรัฐมนตรีว่า ในการปรับ ครม. ครั้งนี้ อยากให้มีรัฐมนตรีที่มีเรื่องค้างอยู่ใน ป.ป.ช. อยู่หลายคนหรือไม่ ขอให้ท่านตัดสินใจเอง
— รักชนก ศรีนอก
รักชนก กล่าวว่า “ขอให้ประชาชนร่วมกันแสดงความเห็น ประเมินเอาเองว่าพึงพอใจหรือไม่ ในการบริหารกระทรวงแรงงานของสุชาติในอดีต ที่ดูแลสำนักงานประกันสังคมจนเน่าเฟะไปถึงราก จับไปตรงไหนก็ส่อเอื้อประโยชน์และทุจริต”
รักชนก กล่าวอีกว่า “ขอให้ ป.ป.ช. เป็นองค์กรทำหน้าที่ตรวจสอบ อย่าให้คนครหาว่าทำหน้าที่ไม่เป็นกลาง ทำงานเชื่องช้าในบางกรณี ขอให้เร่งรัดการตรวจสอบเรื่องดังกล่าว รวมถึงเรื่องที่ยื่นไปก่อนหน้านี้ เพราะเรื่องนี้จะมีผลในการปรับ ครม. และผลประโยชน์ของประเทศ”
ขอฝากไปถึงรัฐบาลและพิพัฒน์ว่า เป็นรัฐบาลมา 2 ปีกว่าแล้ว ก็ยังทำเรื่องต่างๆ ที่สัญญากับพี่น้องแรงงานไว้ไม่ได้ โดยเฉพาะค่าแรง 400 บาท หากจะมีเรื่องที่ทำสำเร็จสักเรื่องเพื่อเยียวยาจิตใจของผู้ใช้แรงงาน หรือผู้ประกันตนจำนวน 24 ล้านคน การลากคอคนที่ทำพฤติกรรมส่อทุจริต หรือคนตักตวงผลประโยชน์มาลงโทษ จะช่วยเยียวยาการทำนโยบายไม่สำเร็จของพิพัฒน์ได้บ้าง เพื่อให้มีผลงานเป็นรูปธรรมจับต้องได้บ้าง
— รักชนก ศรีนอก
เมื่อถามถึงกรณี อนุทินแต่งตั้ง พัฒนา พร้อมพัฒน์ บุตรชายของสันติ พร้อมพัฒน์ เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการจัดสรรที่ดินกลาง จะทำให้การตรวจสอบเรื่องนี้เป็นมวยล้มต้มคนดูหรือไม่? สหัสวัต กล่าวว่า “ยังเร็วเกินไปที่จะพูดเช่นนั้น แต่หากผลสอบออกมาว่าไม่มีการเอาผิดใครได้เลย ก็สามารถพูดได้เช่นนั้น แต่หากนำผู้ที่เกี่ยวข้องมารับผิดได้จริง ก็เป็นการทำงานที่ควรจะเป็น และเป็นบรรทัดฐานให้กับทุกกระทรวง”
ด้าน รักชนก กล่าวเสริมว่า “จะปฏิเสธว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการเมืองก็ไม่ได้ เพราะหากพรรคภูมิใจไทยไม่ตีกับพรรคเพื่อไทย เรื่องก็คงไม่ดำเนินการเร็วเช่นนี้ แต่ในเมื่อผลสอบออกมาเร็ว และเป็นอย่างที่ควรเป็น ดิฉันก็อยากให้อนุทินและพิพัฒน์ดำเนินการตรงไปตรงมา ขอให้ท่านตัดสินใจโดยยึดผลประโยชน์สาธารณะจริงๆ สักครั้ง ดิฉันจะนับถือในฐานะรัฐมนตรีที่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ในสายตาประชาชน”
เมื่อถามว่า มองว่าตึกสกายไนน์ถูกใช้เป็นตัวประกันในเกมการเมืองหรือไม่? รักชนก กล่าวว่า “พรรคประชาชนทำงานตามหน้าที่ และสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน ไม่ว่าเกมการเมืองจะเป็นยังไง เราก็ตั้งหน้าตั้งตาทำงานเรื่องนี้มานานแล้ว ส่วนจะเป็นตัวประกันหรือไม่ การเมืองประเทศนี้อาจจะเน่ากว่าที่ท่านเข้าใจ แต่เราก็พยายามเพิ่มน้ำใสเข้าไป”