หากพูดถึงรายได้หลักของจังหวัดเชียงใหม่มาจากภาคของการท่องเที่ยวเป็นหลัก แต่ในปัจจุบันนี้กลับพบว่าการท่องเที่ยวของเชียงใหม่ไม่ได้คึกคักเหมือนอดีตที่ผ่านมา ทำให้ส่งผลกระทบเรื่องของเศรษฐกิจ รวมถึงรายได้ของผู้ประกอบและประชาชนเป็นอย่างมาก ซึ่งในตอนนี้ภาคการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ก็ได้มีการรวมพลังกันที่จะคิดหาวิธีการที่จะทำให้ท่องเที่ยวกลับมาคึกคักอีกครั้ง
โดยโจทย์หลักคือ การกำหนดทิศทางการท่องเที่ยวเชียงใหม่ ให้สอดคล้องกับยุคที่พฤติกรรมนักท่องเที่ยวต่างชาติเปลี่ยนไป ส่วนนักท่องเที่ยวคนไทยก็รัดเข็มขัดทางการเงินจากเศรษฐกิจที่ไม่ดีรายจ่ายมากกว่ารายได้ ซึ่งภาคการท่องเที่ยวของเชียงใหม่ก็เห็นตรงกันว่ามีความจำเป็นต้อง “รีบูสการท่องเที่ยว” ครั้งใหญ่
กลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทางสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ได้จัดประชุม กลุ่มผู้ประกอบการ ธุรกิจท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อรับฟังวิสัยทัศน์จากผู้เชี่ยวชาญและร่วมหารือถึงการสร้างอัตลักษณ์ใหม่ของการท่องเที่ยว การยกระดับผลิตภัณฑ์และการท่องเที่ยว รวมถึงการคิดกลยุทธ์ทางการตลาดใหม่ๆ



ศุภมิตร กิจจาภิพัฒน์ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า การท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ยังสามารถเดินหน้าต่อไปได้เชียงใหม่ยังมีจุดขายอีกมากให้นักท่องเที่ยวมาสัมผัส
ตอนนี้มีแนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ที่เชื่อมโยงกับ Soft Power (5F) ที่โดดเด่นของจังหวัดเชียงใหม่ คือ Food, Festival และ Family and Fun ที่จะนำเสนอในเรื่องของเทศกาลอาหารฮาลาล สตรีทฟู๊ด ผักผลไม้ สินค้า GI รวมถึงการจัดงานเทศกาลใหญ่ๆ 5 กิจกรรมสำคัญอย่างงานไม้ดอกไม้ประดับ เทศกาลสงกรานต์ งานไพร์ด งานยี่เป็ง งาน Design week และ ยกระดับผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวที่มีมาตรฐานและแหล่งท่องเที่ยวที่ปลอดภัย เพื่อรองรับกลุ่มนักเดินทางเชิงสุขภาพ การประชุมสัมมนาและอีเวนต์ระดับนานาชาติ

ขณะที่ วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ตอนนี้การท่องเที่ยวต้องนำเรื่องของการจัดการให้ใช้เทคโนโลยีบวกกับการใช้ข้อมูลที่เราสะสมเอาไว้มาวิเคราะห์หาจุดขายของแต่ละพื้นที่ ต้องหาว่าในปัจจุบันนี้อะไรคือสินค้าที่จะส่งมอบ ประสบการณ์ที่น่าจะเป็นประโยชน์ให้กับนักท่องเที่ยวทุกชาติ เมื่อนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวจะต้องทำให้เขาอยากรู้ว่าทำไมคนที่นี่ถึง อยู่ดี มีสุข สามารถรักษาวัฒนธรรมประเพณีมาได้นับพันๆ ปี
โลกได้เปลี่ยนไปมากการแข่งขันสูงมากรวมถึงการท่องเที่ยวด้วย ดังนั้นมีความจำเป็นอย่างสิ่งที่จะต้องนำเสนอทางเลือกให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติให้มาเยือนและมาสัมผัส นอกจากจะทำให้เขามีความสุขแล้ว จะต้องให้เขารู้สึกว่า คุ้มค่ามีคุณค่าจากการมาเที่ยวเพรานักท่องเที่ยวจะเอาทักษะความรู้ต่างๆ ในตอนที่มาเที่ยว นำไปผสมผสานกับการใช้ในชีวิตประจำวันหรือการทำงานต่อยอดในประเทศของเขา

วีระศักดิ์ เปิดเผยอีกว่า การท่องเที่ยวของคนไทยจะเปลี่ยนจากการที่เที่ยวเพียงแค่หาที่ถูก ๆไปสู่พื้นที่ที่ตนไปค้นหาโอกาสใหม่ ๆคนไทยเริ่มสนใจจุดนี้ เขาจะมองหาว่ามีที่ไหนบ้างที่หากไปเที่ยวแล้วสามารถมองเห็นโอกาสใหม่ในการทำธุรกิจหรือว่าสามารถย้ายถิ่นฐานหางานทำหรือต่อยอดการศึกษาไปพร้อมๆ ซึ่งเชียงใหม่ถือว่ามีฐานทรัพยากรในด้านนี้แข็งแรงมาก แม้แต่ประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียง ก็ต้องการที่จะส่งคนของเขาเข้ามาเรียน มาพยาบาลหรือมาประกอบกิจการร่วมกับคนไทยในพื้นที่ของเชียงใหม่ที่ได้รับการยกย่องว่ามีความเหมาะสม
ส่วนผู้ประกอบการเองจะต้องใช้ฐานวิชาการในการสนับสนุนหาข้อมูลมาเติมและส่งข้อมูลให้กับผู้ประกอบการ ซึ่งที่สำคัญคือต้องวิเคราะห์ข้อมูลที่มีอยู่การวิเคราะห์ข้อมูลอย่างเป็นระบบเป็นช่วงเวลาและต้องมีการประชุมหารือกันบ่อยครั้งมากขึ้นในทุกอำเภอ มีศูนย์กลางที่จะทำให้ผู้ประกอบการในแต่ละอำเภอรู้บทบาทหน้าที่ของแต่ละคน ช่วยสนับสนุนซึ่งกันและกันมากขึ้น
“ที่สำคัญตอนนี้ต้องไม่ติดใจว่าเอาเฉพาะตลาดใดตลาดหนึ่งเป็นที่ตั้ง จริงๆแล้วที่นี่สามารถรับตลาดที่หลากหลายได้เพราะตอนนี้โลกต้องการที่พึ่งอย่างเช่นที่พึ่งทางใจ ที่พึ่งทางกาย และที่พึ่งทางด้านความรู้สึก ซึ่งเชียงใหม่มีสายธารแห่งวัฒนธรรมที่สามารถหล่อหลอมเพื่อทำให้นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวแล้วกลับไปบ้านของเขาพร้อมกับความสุขประสบการณ์และสิ่งที่มีคุณค่า”
— วีระศักดิ์ โควสุรัตน์


