กกต. ขีดเส้นไม่เกิน 60 วัน ฟัน ‘สว.หมอเกศ’ ทำสำนวนส่งศาลฎีกา

2 พ.ค. 2568 - 04:57

  • ประธาน กกต. เผยหลัง กกต. มีมติยื่นฟ้อง ‘สว.หมอเกศ’ ใช้เวลาไม่เกิน 60 วัน ทำสำนวนส่งศาลฎีกา เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง-ฟันอาญา ฐานหลอกลวงให้เชื่อในคุณสมบัติตัวเอง

  • แจงคดีฮั้ว สว. มีความคืบหน้า ชี้สอบประเด็นสมคบร่วมมือกัน ต้องสอบทุกคน ต้องมีหลักฐาน เพราะมีโทษอาญา

Senate_ECT_Keskamol_SPACEBAR_Hero_969e5d2baf.jpg

อิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงมติเสียงข้างมากของที่ประชุม กกต. ให้ส่งศาลฎีกาเพื่อเพิกถอนสิทธิสมัครเลือกตั้งและสิทธิการเลือกตั้ง และให้ดำเนินคดีอาญาต่อ พญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะผู้ถูกร้อง ด้วยสาเหตุว่า เชื่อว่ามีการกระทำเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยการเลือก สว.มาตรา 77 (4) คือการหลอกลวงหรือการจูงใจ ให้ผู้อื่นเชื่อว่าเชื่อในคุณสมบัติความรู้ความเชี่ยวชาญชื่อเสียงเกียรติยศ 

ส่วนกระบวนการส่งนั้นจะมีกระบวนการดำเนินการหลังจากนี้  ซึ่งหลังจากที่มีมติในวันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการทำคำวินิจฉัย ซึ่งมีทั้งหมด 6 ประเด็น อาจต้องใช้ระยะเวลา ซึ่งกำหนดกรอบการทำคำวินิจฉัย 60 วัน เชื่อว่าไม่น่าจะเกินนี้ โดยชี้แจงเหตุผลการทำคำวินิจฉัยเพื่อใช้ประกอบการยื่นคำร้องต่อศาล เมื่อยื่นไปแล้วศาลจะใช้เวลาพิจารณาตามกระบวนการของศาล

อิทธิพร ยังกล่าวถึงกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ เริ่มจำลองเหตุการณ์เพื่อประกอบสำนวนคดีฮั้วเลือก สว. ว่าตามกระบวนการการให้ความร่วมมือซึ่งกันและกัน ซึ่งต่างก็มีคณะทำงานสืบสวนของแต่ละหน่วยงาน โดยคณะทำงานสอบสวนใน กกต. ก็มีโครงสร้างที่มีเจ้าหน้าที่ดีเอสไอร่วมด้วย พร้อมชี้ว่าการบูรณาการงานร่วมกันจะเป็นประโยชน์  ซึ่งในการสอบสวนของ กกต. จะมุ่งเน้นในประเด็นที่ว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. หรือไม่ ส่วนการสอบของดีเอสไอ เป็นการสอบสวนว่ามีการกระทำผิดกฎหมายอื่น ที่ไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบของ กกต. หรือไม่ 

โดยการดำเนินการสอบสวนของ กกต. มีความคืบหน้าเรื่อยๆ ที่คณะเจ้าหน้าที่สืบสวนไต่สวนจะมีกรอบเวลาดำเนินการ และเหตุที่ต้องใช้เวลา เพราะต้องสอบพยานจำนวนมาก การที่มองว่าสมคบกันร่วมมือกันเป็นกลุ่ม ในการสอบนั้นจะต้องสอบผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคน เพราะเรื่องนี้เป็นการดำเนินคดีความยุติธรรมที่มีโทษทางอาญา จะด่วนสรุปโดยปราศจากพยานหลักฐานที่ชัดเจนไม่ได้ ทำให้ต้องใช้เวลาอยู่บ้างแต่ก็มีความคืบหน้าไปตามลำดับ และไม่สามารถแทรกแซงได้

ส่วนกังวลหรือไม่หากท้ายที่สุดในการดำเนินคดีอาจทำให้การเลือก สว. เป็นโมฆะ อิทธิพร กล่าวว่า พยายามจัดกระบวนการเลือกอย่างเต็มที่ตามกฎหมาย และถกในที่ประชุมเยอะมาก และต้องตัดสินใจดำเนินการ และวิธีการนั้นเป็นวิธีการที่ กกต. เห็นว่าเป็นไปตามกฎหมายแล้วหากหลังจากนั้น หากมีจุดใดที่ขั้นตอนกลไกอื่นเห็นว่าไม่ถูกต้องก็เป็นเรื่องของกระบวนการนั้น

อ้างอิง

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์