ไทยถูกขโมยทรัพยากรธรรมชาติ! ‘กมธ.สภาสูง’ เตรียมลุยชายแดนไทย-กัมพูชา

10 มิ.ย. 2568 - 05:33

  • ‘สว.ชีวะภาพ’ เตรียมยกคณะ ‘กมธ.ทรัพยากรธรรมชาติฯ’ ลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา

  • ติดตามปัญหาการลักลอบตัดไม้-ล่าสัตว์ป่า

  • ชี้ที่ผ่านมามีคดีเยอะ ไทยถูกขโมยสิ่งแวดล้อมมาตลอด

  • จี้ ‘สทนช.’ แก้สนธิสัญญา MRC ดึง ‘เมียนมา-จีน’ ร่วมแก้ปัญหาปล่อยสารพิษ ‘แม่น้ำโขง’

ไทยถูกขโมยทรัพยากรธรรมชาติ! ‘กมธ.สภาสูง’ เตรียมลุยชายแดนไทย-กัมพูชา

ชีวะภาพ ชีวะธรรม สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา เปิดเผยว่า กมธ.ฯ เตรียมลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อเยี่ยมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ในการดูแลทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งหนึ่งที่เป็นปัญหามานานเกี่ยวกับทรัพยากรป่าไม้ ไม้พะยูง การล่าสัตว์บริเวณอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา เขาพนมดงรัก หรือแนวตะเข็บชายแดน ที่ผ่านมาพบว่ามีคดีลักลอบการตัดไม้ คดีการล่าสัตว์ป่า ด้วยความห่วงใยทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในบริเวณดังกล่าว


ชีวะภาพ กล่าวว่า เหตุที่หยิบยกเรื่องการตรวจสิ่งแวดล้อมป่าไม้บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ในช่วงเวลาที่มีข้อพิพาทกันขณะนี้ เพราะเป็นห่วง เนื่องจาก ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ เปิดเผยภาพการจับชาวต่างชาติ ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่เข้ามาบุกรุกตัดไม้พะยูง ล่าสัตว์ ส่วนการป้องกันประเทศก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง


การป้องกันเรื่องสิ่งแวดล้อม เรื่องทรัพยากรป่าไม้ ไม้พะยูง ไม้ชิงชัน มีสัตว์ป่า มีอะไรเยอะแยะ เราดูแลกัน เราเป็นห่วงเป็นใยพี่น้องพิทักษ์ป่า หัวหน้าเขตพิทักษ์ป่า ตรงนั้นมีปัญหาอะไรบ้าง ก็มีความเป็นห่วงจึงจะนำมาพูดใน กมธ.ฯ และจะลงพื้นที่ อย่างน้อยไปให้กำลังใจ และติดตามดูว่าสถานการณ์ในพื้นที่เป็นอย่างไร เพื่อจะได้รู้ว่าเราเองก็ถูกกระทำมาตลอด เรื่องไม้พะยูง ผมยังเคยไปทำงานเลย ก็เห็นอยู่ว่าใครเป็นคนขโมย ใครมาทำอะไรกับทรัพยากรของเรา คงไม่เกี่ยวกับการเมือง แต่เป็นประเด็นที่วันนี้เห็นว่ามีสถานการณ์เรื่องการแย่งชิง เราถูกขโมยทรัพยากรมาตลอด จึงต้องเอามาพูดคุยกัน

ชีวะภาพ กล่าวต่อไปว่า “ไม่ได้ไปสู้รบปรบมือ เพียงแต่จะไปติดตามดู และไปให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ โดยเชื่อว่ากรมอุทยานฯ เก่งอยู่แล้ว, อธิบดีฯ เป็นบุคคลที่มีความสามารถ รู้เรื่องนี้ดี กมธ.ฯ จะไปสนับสนุนการทำหน้าที่ ด้วยมีความเป็นห่วงเกี่ยวกับทรัพยากรของประเทศ ซึ่งในบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา มีพื้นที่อุทยานหลายแห่งที่อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า”


ไทยเหมือนถูกรังแก! จี้ ‘สทนช.’ แก้สนธิสัญญา MRC ดึง ‘เมียนมา-จีน’ ร่วมแก้ปัญหาปล่อยสารพิษ ‘แม่น้ำโขง’


ชีวะภาพ ยังเผยถึงการประชุม กมธ.ทรัพยากรธรรมชาติฯ ในวันนี้ (10 มิ.ย.) จะคุยกันเรื่องมิติของมลพิษในแม่น้ำกก แม่น้ำสาย จังหวัดเชียงราย รวมถึงแม่น้ำกระบุรี จังหวัดระนอง ซึ่งทาง สส.ระนอง พรรคภูมิใจไทย ได้มายื่นเรื่องให้ กมธ.ฯ พิจารณา และทราบว่ามาจากการทำเหมืองเช่นเดียวกัน


เพราะเรื่องการทำทรัพยากรธรรมชาติวันนี้เรามีปัญหากับประเทศเพื่อนบ้าน เป็นสิ่งหนึ่งที่เป็นปัญหามานานแล้ว ตั้งแต่เรื่องไม้พะยูง การล่าสัตว์ เขาพระวิหาร ที่มีคดีลักลอบการล่าสัตว์ป่า ผมจึงมีความห่วงใยต่อทรัพยากรธรรมชาติของเรา


สำหรับกรณีแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำกระบุรี ต้นเหตุมาจากการทำเหมืองทอง หรือเหมืองอะไรก็ตามที่มีการปนเปื้อนสารพิษ ซึ่งเรามีความวิตกกังวล วันนี้ทาง กมธ.ฯ ได้มีการเชิญกรมควบคุมมลพิษ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลทางนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งเราต้องดูในเรื่องของนิติวิทยาศาสตร์ แล้วต้องคุยกันว่าจะใช้วิธีการตรวจแบบใด และใครจะเป็นคนตรวจ ตรวจจุดไหนบ้าง ต้องคุยให้จบและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ไม่เช่นนั้นคนที่เดือดร้อนคือประชาชน หากได้ผลนิติวิทยาศาสตร์ที่ถูกต้องมาวิเคราะห์ ก็จะพบว่าเกิดผลกระทบอย่างไรบ้าง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับผลกระทบเหล่านั้นก็ต้องออกมาดำเนินการให้ไปในทิศทางเดียวกัน สุดท้ายต้องมาดูว่าประชาชนจะปรับตัวและอยู่อย่างไร

ชีวะภาพ ยังกล่าวว่า “ขณะที่ฝ่ายราชการเองก็ต้องปรับตัวด้วยเช่นกัน เพราะวันนี้ยังไม่เห็นการประชุมอะไรเลย การลงนามในสนธิสัญญาคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง หรือ Mekong River Commission (MRC) ที่มี 4 ประเทศ ที่เกี่ยวข้องกับแม่น้ำโขง และการบริหารจัดการน้ำประกอบโดย ไทย ลาว กัมพูชา และเวียดนาม แต่ยังขาดประเทศพม่าและประเทศจีนที่เป็นต้นทางของแม่น้ำโขง ซึ่งสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ต้องแก้ไขปัญหาในสนธิสัญญา คือนำประเทศพม่าและจีนเข้ามาร่วมประชุมด้วย เพราะปัญหาสารปนเปื้อนในแม่น้ำกก แม่น้ำสายมีมาตั้งแต่ปีที่แล้ว”


ผมจึงขอถามไปยังรัฐบาลว่า ได้ประชุมอะไรบ้างหรือยัง เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องระหว่างประเทศ ต้องมีการประชุม MRC แต่ตอนนี้ยังไม่เห็นความคืบหน้า และมองว่าเรื่องนี้ต้องแก้ที่ต้นตอ เราอยู่กลางน้ำ แต่ต้นน้ำมีการปล่อยสารพิษตลอด เราก็สู้ไม่ได้

เมื่อถามว่ารัฐบาลแก้ปัญหาล่าช้าใช่หรือไม่? ชีวะภาพ กล่าวว่า “บางหน่วยงานก็ตื่นตัว อย่างกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขณะที่หน่วยงานระหว่างประเทศ ยังไม่ได้มีการประชุม MRC สทนช. ตอนนี้ทำอะไรอยู่ เชิญมาให้ข้อมูลก็อ้อม ๆ แอ้ม ๆ”


ส่วนการประชุมกรรมาธิการจะผลักดันการแก้ปัญหาไปจนให้สำเร็จหรือไม่ เพราะขณะนี้ทางรัฐบาลจะสร้างเขื่อนเพื่อกักตะกอนสารพิษ ซึ่งใช้เวลาถึง 3 เดือน? ชีวะภาพ กล่าวว่า “การทำเขื่อนเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ เขื่อนป้องกันตะกอนน้ำแบบนี้ ถามว่าได้ 100% หรือไม่ แล้วตอนนี้ต้นน้ำที่เป็นแหล่งกำเนิดสารพิษได้มีการพูดคุยกันแล้วหรือไม่”


ต้นน้ำยังแก้ไม่ได้ เราอยู่กลางน้ำก็ลำบาก ผมไม่เห็นด้วยที่จะสร้างฝายดักตะกอน มันช่วยได้แต่ไม่ 100% วันนี้ไม่มีนักวิชาการคนไหนแอ่นอกตอบได้ว่าการสร้างเขื่อนดักตะกอนแบบนี้ได้กี่เปอร์เซ็นต์ การันตีได้หรือไม่ สร้างเสร็จแล้วเอาน้ำเอาปลามากินตรงนั้นได้หรือไม่ เมื่อสร้างแล้วก็ตอบไม่ได้ว่าตกตะกอนกี่เปอร์เซ็นต์ วันนี้เราเหมือนถูกรังแก เพราะเป็นแม่น้ำระหว่างประเทศ คุณมาทำให้ปนเปื้อน เรามีผลกระทบ เราเสียหาย เราเรียกร้องใครได้บ้าง

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์