การประชุมวุฒิสภา โดยมี มงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณาวาระเรื่องด่วน ซึ่งเลื่อนญัตติ เรื่อง ขอให้ชะลอการตั้งคณะกรรมาธิการสามัญ (กมธ.) เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ รวมทั้งให้ความเห็นชอบกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จนกว่ามีคำตัดสินใจคดีที่ สว.จำนวนมากตกเป็นผู้ถูกร้องและผู้ร้องในคดีฮั้วเลือก สว. เสนอโดย เทวฤทธิ์ มณีฉาย สว.กลุ่มพันธ์ใหม่
ทั้งนี้ เทวฤทธิ์ เสนอญัตติว่าเป็นความจำเป็นที่ต้องพิจารณาเรื่องดังกล่าวและถือเป็นบรรทัดฐานที่ก่อนหน้านี้ พบว่า กมธ.ตรวจสอบประวัติฯ ของผู้ที่ได้เสนอชื่อให้เป็น ป.ป.ช. ได้ลาออก จำนวน 13 คน เพราะกังวลต่อการมีผลประโยชน์ขัดกันเนื่องจากมีเรื่องยื่นตรวจสอบที่ ป.ป.ช. ทั้งนี้ กรณีการชะลอดังกล่าวจะไม่มีผลกระทบต่อการทำหน้าที่กรรมการองค์กรอิสระ
ขณะที่การอภิปรายของสว. ที่ลงชื่อไว้ 24 คนนั้น พบว่า เสียงส่วนใหญ่อภิปรายสนับสนุนญัตติให้ชะลอกระบวนการดังกล่าวโดย นันทนา นันทวโรภาส สว.กลุ่มพันธ์ใหม่ อภิปรายสนับสนุนญัตติว่า ขณะนี้มี สว. 92 คนที่ถูกยื่นเรื่องร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. เนื่องจากพบการใช้อำนาจแทรกแซงการทำงานของหน่วยงานตรวจสอบ คือ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และ กกต. จากกลุ่มสว.สำรอง จึงถือว่า สว.กลุ่มที่ถูกร้องตกเป็นจำเลย ดังนั้น หาก สว.เดินหน้าลงมติ อาจทำให้เป็นประเด็นที่ถูกร้องว่า มีผลประโยชน์ขัดกันและ สว.อาจถูกร้องเรียนว่า ผิดจริยธรรมได้
ส่วน นพ.เปรมศักดิ์ เพียรยุระ สว.กลุ่มสีขาว อภิปรายสนับสนุนตอนหนึ่งว่า กรณีที่มีสว.ระบุว่าหากชะลอการลงมติอาจถูกยื่นร้องต่อการทำผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ได้ แต่ตนมองว่าการลงมตินั้นผู้ที่จะได้รับความเห็นชอบต้องสง่างาม
“เรามีอำนาจแต่งตั้งองค์กรอิสระทั้ง 4 องค์กรตามที่ระบุไว้ในระเบียบวาระ หากทำแบบสุกเอาเผากินไม่ฟังเสียงทักท้วงจะเหมือนบูมเบอร์แรง ที่อาจเก็บไว้เพื่อรอทำประโยชน์ได้ แต่หากรีบขว้างออกไปแรง จะกลับมาตัดคอคนที่ขว้าง” นพ.เปรมศักดิ์ อภิปราย
ขณะที่ น.ต.วุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ สว. อภิปรายสนับสนุนให้ชะลอกระบวนการไปจนกว่าถึงการประชุมสมัยสามัญ ในเดือน ก.ค. เพราะสังคมติเตียนอยู่ และต้องเรียกร้องให้องค์กรตรวจสอบสว. เร่งตรวจสอบให้แล้วเสร็จ ทั้งนี้ ไปไหนมีแต่คนถามว่า ลงชื่อหรือยัง ก็บอกว่า ไม่ได้ลง เพราะเป็นเรื่องที่ต้องพูดคุยในวุฒิสภา เพราะเป็นพี่น้อง กินข้าวด้วยกัน ไปไหนไปด้วยกันตลอด บางคนเป็นเพื่อนตั้งแต่เด็กวันนี้ไม่มองหน้า เพราะทุกคนกังวล เครียด มองว่าอีกกลุ่มเป็นฝ่ายหนึ่ง กลุ่มที่ไม่มีค่ายถูกกล่าวหา คนที่มีค่ายถูกกล่าวหา
“เราเหมือนปลาที่อยู่ในข้องเดียวกัน เอาตัวเน่าออกมา แต่ถูกว่าเน่าทั้งหมด วันนี้ไปไหนมาไหนปัญหาเดียวกัน ถูกถามว่าสีไหน ทั้งที่ไม่มีสี มีข่าวลือไปแถวซอยรางน้ำ หรือเมืองที่มีสเตเดี้ยมใหญ่ ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่ และไม่มีใครชี้แจง สิ่งที่ดีที่สุดต้องออกมาชี้แจง ไม่ใช่บอกว่าคนที่พูดความจริงรับผิดชอบด้วยการบูชายันต์ ไม่ว่าได้รับคำสั่งจากใคร ขอให้งดฟังคำสั่งที่มาโดยไม่ถูกต้อง ใช้สมองและหัวใจของตนเองทำตามนั้น” น.ต.วุฒิพงศ์ อภิปราย
ทางด้าน ประทุม วงศ์สวัสดิ์ สว.อภิปรายเห็นแย้งว่า การชะลอกระบวนการดังกล่าว ไม่ควรทำโดยง่ายหรือมีเหตุผลทางการเมือง เคารพหลักการประชาธิปไตยและยึดมั่นในการทำหน้าที่ของรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวอาจทำให้เกิดความขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญเพราะต้องการให้เกิดการหมุมเวียนในองค์กรอิสระ ทั้งนี้ มีข้อเสนอตั้งคณะกรรมการติดตามเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้ขอให้ใช้ดุลยพินิจของตนเอง โดยซื่อสัตย์กับตนเอง คดีความที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องถูกกล่าวหามีสิทธิต่อสู้ในกระบวนการ แต่ไม่ควรนำมาเป็นเหตุผลหลักในการเลื่อน ทั้งนี้ มองว่าเลื่อนไปก่อนไม่เสียหาย
“สงสัยว่าหากเสียงส่วนใหญ่ไม่เลื่อนวันนี้ ไม่ต้องกังวลว่าการเลือกองค์กรอิสระ เชื่อได้อย่างไรว่าคนที่เลือก จะอยู่ใต้อำนาจพรรคหรือนักการเมือง ทำไมสบประมาทเขา คนที่ผ่านการสรรหาต้องมีดีเอ็นเอเป็นประชาธิปไตย” ประทุม อภิปราย
ขณะที่ฝ่ายเห็นแย้งกับญัตติ ย้ำถึงการใช้หน้าที่ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ อีกทั้งคดีที่ถูกตรวจสอบยังไม่มีการชี้ผลเป็นที่สิ้นสุด ทั้งนี้ พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร สว. อภิปรายโต้แย้ง ว่า สว.ที่ถูกเรียกให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาคดีฮั้วเลือกสว. มีจริยธรรม เพราะกระบวนการที่ไต่สวนในคดีฮั้วสว. นั้นเป็นกระบวนการที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ เราจึงเป็นผู้ที่ถูกกระทำจากอำนาจที่ไม่ชอบ ดังนั้น ถือว่า เป็นสว.ที่ได้รับการเลือกด้วยความสุจริตเที่ยงธรรมตามที่ กกต. ประกาศรับรอบ จีงไม่อาจที่จะชะลอการดำเนินการที่จะแต่งตั้งกมธ.ตามวาระได้ เพราะการตั้งกมธ.สอบประวัติ มีขั้นตอนดำเนินงานตามระเบียบข้อบังคับวุฒิสภาและไม่สามารถทำอะไรนอกเหนือจากระเบียบได้ มองว่า มีกรอบระยะกำหนดไว้ชัดเจนในรัฐธรรมนูญ ไม่เช่นนั้นกรรมการสรรหาคงไม่ยึดกรอบในการทำงาน
“การตรวจสอบประวัติ ไม่ได้ทำเฉพาะกมธ.เท่านั้น ยังตรวจสอบไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายหน่วยงาน ใช้เวลาทำงานประมาณ 15 วันทุกอย่างมีกรอบทำงาน ทุกองค์กรต้องรักษา และทำให้ทันในกรอบเวลาของตนเอง ดังนั้นเมื่อรับเรื่องต้องทำตามหน้าที่และอำนาจที่รัฐธรรมนูญกำหนด อย่าพะวงเรื่องจริยธรรม ตราบใดที่ผมไม่เชื่อมั่นในองค์กรที่สอบสวนไต่สวนผมผมถือว่าผมเป็นผู้ที่มีจริยธรรม รวมถึงสว.ที่ถูกกล่าวหาทุกคน จึงไม่อาจชะลอตามญัตติที่เสนอได้” พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ อภิปราย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากที่ สว. อภิปรายครบถ้วนแล้ว ได้ให้ลงมติเพื่อชี้ขาด โดยมติของที่ประชุมวุฒิสภาไม่เห็นด้วย 125 ต่อ 37 เสียง งดออกเสียง 12 เสียง ดังนั้น จึงเดินหน้าพิจารณาเรื่องตามที่กำหนดไว้ในระเบียบวาระต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่การลงมติดังกล่าวแล้วเสร็จ พบว่า นพ.เปรมศักดิ์ ,นันทนา รวมถึงสว.เสียงข้างน้อย แจ้งต่อที่ประชุมว่า ไม่ร่วมสังฆกรรมกับการประชุมสว. ในกระบวนการเห็นชอบองค์กรอิสระในวันนี้ (30 พ.ค.) จากนั้น นันทนา ได้วอร์กเอาท์ออกจากห้องประชุม