‘สว.’ เอาด้วยตั้งกมธ. สอบมติแพทยสภา ชั้น 14 ชี้กระทบจริยธรรมแพทย์

29 พ.ค. 2568 - 04:16

  • ‘สว.’ ขยับตั้ง ‘กมธ.ร่วมสาธารณสุข-กฎหมาย’ สอบมติแพทยสภา ชั้น 14 ป่วยไม่วิกฤตจริง ชี้กระทบจริยธรรมแพทย์และความเสมอภาค ย้ำไม่มีเหตุผลการเมืองเอี่ยวคดีฮั้ว

‘สว.’ เอาด้วยตั้งกมธ. สอบมติแพทยสภา ชั้น 14 ชี้กระทบจริยธรรมแพทย์

ที่รัฐสภา นพ.ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการสาธารณสุข แถลงข่าวถึงการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีที่แพทยสภามีมติลงโทษกรณีชั้น 14 

นพ.ประพนธ์ ระบุว่า ขณะนี้การศึกษาเรื่องกรณีชั้น 14 มีมูลเหตุจากมติของแพทยสภาครั้งที่ 5/2568 ซึ่งมีการพิจารณาเรื่องจากคดีจริยธรรมของแพทย์ ที่ถูกกล่าวโทษว่าปฏิบัติไม่ถูกต้องตามหลักจริยธรรมและวิชาชีพเวชกรรม ในการดูแลผู้ต้องขังระดับสำคัญมาก โดยเฉพาะในกรณีที่เกี่ยวข้องกับโรงพยาบาลราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจ 

โดย ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา ได้เปิดเผยในที่ประชุมว่าที่ประชุมแพทยสภาได้มีมติตักเตือนแพทย์ 1 คน และพักใช้ใบประกอบแพทย์วิชาชีพเวชกรรม 2 คน เนื่องจากการให้ข้อมูลเอกสารทางการแพทย์อันไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ข้อมูลหลักฐานที่ได้รับไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ที่ชัดเจนว่ามีภาวะวิกฤตเกิดขึ้นกับผู้ป่วยรายดังกล่าว ซึ่งข้อเท็จจริงดังกล่าวสะท้อนถึงความไม่โปร่งใสในการให้ข้อมูลทางการแพทย์และขุ่นเคืองต่อกระบวนการยุติธรรมเหลื่อมล้ำต่อการปฎิบัติต่อผู้ต้องขังรายอื่น 

จึงเป็นเหตุให้คณะกรรมการทั้งสองคณะเห็นพ้องเพื่อพิจารณาศึกษาร่วมกันในครั้งนี้ เนื่องจากคณะกรรมาธิการสาธารณสุขเล็งเห็นว่าเรื่องนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพแพทย์ซึ่งเป็นหัวใจของระบบสาธารณสุขที่ประชาชนควรคาดหวังเชื่อมั่น

นพ.ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล สมาชิกวุฒิสภา
นพ.ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล สมาชิกวุฒิสภา

ขณะเดียวกัน พลตำรวจโท บุญจันทร์ นวลสาย สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะประธานคณะกรรมธิการทางกฏหมายและการยุติธรรม ได้พิจารณาแล้วว่าการให้ข้อมูลที่ไม่ตรงกับความเป็นจริงอาจกระทบต่อหลักนิติธรรมและความเสมอภาคความเป็นธรรมในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งจากมติดังกล่าวคณะกรรมการสองคณะจึงมีกำหนดให้ประชุมร่วมกันในวันนี้ เพื่อกำหนดแนวทางการดำเนินงานร่วมกันในประเด็นจริยธรรมทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการเพื่อกำหนดแนวทางใช้ผู้ที่เกี่ยวข้อง ก่อนส่งต่อไปยังหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่โดยตรงเพื่อดำเนินการต่อไป 

ทั้งนี้ พลตำรวจโท บุญจันทร์ ยืนยันไม่มีการแทรกแซงสองหน่วยงานทั้งโรงพยาบาลราชทัณฑ์และกรมราชทัณฑ์ เพียงแต่เป็นการศึกษาในแนวทางข้อกฎหมายว่าให้อำนาจกับกรมราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลตำรวจทำสิ่งใดได้บ้างหลังจากนั้นจะมานำเสนอให้กับประชาชนรับทราบ โดยคาดว่าใช้เวลาศึกษาไม่เกินเดือนครึ่ง  ยืนยันไม่มีการโจมตีทางการเมือง หลังเกิดเหตุการณ์เรียก สว.ที่ถูกกล่าวหาในคดีการฮั้วเลือก สว.ไปรับทราบข้อกล่าวหา

 พลตำรวจโท บุญจันทร์ นวลสาย สมาชิกวุฒิสภา
พลตำรวจโท บุญจันทร์ นวลสาย สมาชิกวุฒิสภา

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์