พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวในการแถลงข่าว “รวมพลังแผ่นดิน” ว่า “ขอย้ำว่า ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องการเลียนแบบนำระบอบฮุนเซนมาใช้ ที่ยึดอำนาจการปกครองจากสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่วันนี้ยังเดินทางไม่ถึงเป้าหมาย จึงทำทุกทางที่จะใช้การเมืองให้เป็นประโยชน์กับตัวเองเพื่อไปสู่เป้าหมาย พรรคการเมืองต่างๆ ทั้งพลังประชารัฐ, รวมไทยสร้างชาติ, ประชาธิปัตย์, ไทยสร้างไทย ล้วนแล้วแต่ถูกตัดตอนทางการเมืองด้วยอำนาจเงินทั้งสิ้น ผมและทุกคนที่มาร่วมกันวันนี้ต้องช่วยกันหยุดระบอบทักษิณให้ได้
ส่วน แพทองธาร ชินวัตร ตั้งแต่มาเป็นนายกฯ ผมสงสารประเทศไทย ที่เอาคนไม่มีความรู้สามารถ หรือที่หลายคนบอกว่าโง่ มาเป็นนายกฯ แต่ผมจะต่อสู้กับทักษิณ เรามันระดับเดียวกัน อายุใกล้เคียงกัน ทำอะไรต่างๆ มาด้วยกัน มันพอจะฟัดเหวี่ยงสู้กันได้ อุ๊งอิ๊งค์แค่ระดับลูกสาวผมแค่นั้นเอง
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวต่อไปว่า “กรณีคลิปเสียงที่หลุดออกมา มันเป็นเรื่องของประเทศชาติ ที่พวกเราต้องผนึกกำลังเอานายกฯ ออกไปให้ได้ การสนทนาระหว่าง แพทองธาร กับสมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา มันคนละสถานะกัน ฮุนเซนยึดครองกัมพูชามา 30-40 กว่าปี, แพทองธาร มันเด็กเมื่อวานซืน มันสู้กันไม่ได้”
“เมื่อสถานการณ์เป็นแบบนี้ ถ้าอยู่ต่อไปจะเป็นปัญหามาก ขณะที่พรรคร่วมรัฐบาล หลังจากที่พรรคภูมิใจไทยโชว์หล่อถอนตัวออกจากพรรคร่วมฯ ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ ล่ะ ผมจะรอดูว่าจะถอนตัวหรือไม่”
คนไทยเขาคิดเป็น หากยังร่วมรัฐบาลต่อ พรรคการเมืองพวกนี้เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวทั้งนั้น แล้วรัฐบาลกำลังมีปัญหา เอาหัวแม่เท้าคิด ไม่ใช่สมองคิด คิดแต่ประโยชน์ส่วนตัว ต่อรองตำแหน่ง คิดกันอยู่แค่นี้

จวกต่อ ‘พรรคบ้า-ยึดแต่ตำแหน่ง’ จี้สถานการณ์แบบนี้ควรลาออกช่วยกันเปลี่ยนรัฐบาล อย่ายอมให้ ‘นายกฯ โง่’ บริหารประเทศต่อ
ส่วนภายหลังการแถลง ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงสถานการณ์ของรัฐบาลที่ขณะนี้ดูเหมือน “เสียงปริ่มน้ำ” แต่ล่าสุด ไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร เลขาธิการพรรคกล้าธรรม โพสต์เฟซบุ๊กเป็นตัวเลข “263++” นั้น
เรื่องนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ให้ความเห็นว่า “ตัวเลขนี้ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง พรรคของผมแม้จะมี 1 เสียง แต่ก็ได้ลาออกจากรัฐบาลมาแล้วตั้งแต่ 22 ส.ค. 2567 เพราะมองว่าอนาคตของประเทศไทย รัฐบาลจะทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ทักษิณ ตั้งใจจะนำโมเดลแบบสมเด็จฮุนเซนมาใช้ในประเทศไทย ผมจึงถอนตัวจากรัฐบาล”
แต่พรรคบ้าพวกนี้มันติดยึดอยู่กับตำแหน่ง รวมไทยสร้างชาติ ประชาชาติ ชาติไทยพัฒนา ประชาธิปัตย์ ขอให้กูได้ตำแหน่งก็เอาแล้ว
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า “ในสถานการณ์นี้ ความจริงควรลาออก แต่รวมไทยสร้างชาติ ชาติไทยพัฒนา ประชาธิปัตย์ ยังกั๊กอยู่ เพราะคาดหวังว่า ถ้าต้องเปลี่ยนนายกรัฐมนตรี สส.ฝ่ายรัฐบาลจะน้อยลง แล้วพรรคเหล่านี้จะได้ สส.มากขึ้น และหวังจะได้รับสัดส่วนรัฐมนตรี 8 ตำแหน่ง ที่พรรคภูมิใจไทยลาออกไป เพื่อจะได้เป็นรัฐมนตรี 2-3 เดือน ก่อนหมดวาระ พวกนี้สนใจแต่ประโยชน์ของผมเอง ไม่ได้คำนึงถึงประเทศชาติเลย”
พรรคภูมิใจไทยแม้จะอาศัยสถานการณ์ ก็ยังดีที่ลาออก แต่พรรคพวกนี้ควรลาออก เพื่อเปลี่ยนแปลงใหม่ เราจะยอมให้นายกรัฐมนตรีที่โง่เง่าแบบนี้บริหารประเทศชาติต่อไปอีกหรือ เราต้องช่วยกัน แต่เราไม่ยุยงปฏิวัติรัฐประหารนี่ เพราะไม่ยึดโยงกับระบอบประชาธิปไตย ลาออกเสีย ก็เป็นรัฐบาลไม่ได้ แต่พวกห่านี่ยังหวังผลประโยชน์ส่วนตัวกันอยู่
สวนปมดัน ‘พีระพันธุ์’ นั่งนายกฯ ชี้จะผ่าน ‘อนุทิน’ ไปได้อย่างไร
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงเงื่อนไขการร่วมรัฐบาลของพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ต้องการให้นายกรัฐมนตรีลาออก? พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ก็สวนขึ้นว่า “อย่าไปฟังมันพูด มันสนใจแต่ผลประโยชน์”
ส่วนเมื่อถามว่า แล้วหากพรรครวมไทยสร้างชาติเสนอชื่อ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรคฯ เป็นนายกรัฐมนตรีจะเป็นไปได้หรือไม่? พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ตอบว่า “ยัง จะผ่านอนุทินไปได้อย่างไรเล่า”
เมื่อถามต่อไปว่า แต่ตอนนี้พรรคภูมิใจไทยถอนตัวออกมาเป็นฝ่ายค้านแล้ว? พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า “แต่สมมติว่า ถึงจะเป็นฝ่ายค้าน แต่หากสมมติว่า อนุทิน จับมือกับพรรคประชาชน ทำไมเขาจะจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้”