มงคล พ่วงเภตรา รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยยังคงมีแรงซื้อต่อเนื่อง แม้จะเผชิญแรงขายทำกำไรบ้าง หลังดัชนีฯ ปรับตัวขึ้นเกือบ 150 จุดภายใน 15 วันทำการ โดยเชื่อว่าหากไม่มีปัจจัยลบหรือเหตุการณ์ไม่คาดคิด ดัชนีฯ มีโอกาสปรับขึ้นไปแตะระดับ 1,220 จุดภายในสัปดาห์นี้
รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนฯ บล.ดาโอ ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีฯ หุ้นไทยในสัปดาห์นี้ที่ระดับ 1,180–1,220 จุด โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการคลี่คลายของสถานการณ์สงครามการค้า ที่ได้รับแรงหนุนจากท่าทีที่อ่อนลงของจีนต่อสหรัฐฯ ล่าสุด จีนส่งสัญญาณเปิดทางการเจรจาเพิ่มเติม ถือเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นเอเชีย รวมถึงไทย โดยกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมและกลุ่มปิโตรเคมีจะได้รับอานิสงส์โดยตรง อาทิ WHA, AMATA, SCGP และ IVL
ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องจับตาในสัปดาห์นี้ ได้แก่ การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของสหรัฐฯ (FOMC) วันที่ 6–7 พ.ค. โดยตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 4.25–4.50% และอาจส่งสัญญาณการปรับลดประมาณการ GDP ตามแนวโน้มที่คล้ายคลึงกับของไทย ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยคาดการณ์ GDP ปีนี้ไว้ในกรอบ 1.3–2.0%
ด้านราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง หลัง OPEC+ ตัดสินใจเพิ่มกำลังการผลิต 411,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนมิถุนายน ส่งผลเชิงลบต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน เช่น PTTEP และกลุ่มโรงกลั่น แต่ส่งผลบวกต่อกลุ่มปิโตรเคมี
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นไทยเริ่มเข้าสู่ช่วงประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน โดยคาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 1/2568 จะอยู่ที่ประมาณ 2.01 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% จากไตรมาสก่อน แต่ลดลง 25% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
อีกหนึ่งแรงกดดันต่อดัชนีฯ คือ การขึ้นเครื่องหมาย 'XD' ของหุ้นกว่า 135 ตัวในสัปดาห์นี้ ซึ่งจะมีผลกระทบเชิงเทคนิคต่อ SET Index ประมาณ -5.08 จุด โดยหุ้นขนาดใหญ่ที่มีการขึ้น XD ได้แก่ CPALL, CPF, CRC, BAY, MINT, WHA และ IVL เป็นต้น

กลยุทธ์การลงทุน
รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนฯ บล.ดาโอ ระบุว่า แม้ปัจจัยบวกจะช่วยหนุนตลาด แต่ราคาหุ้นหลายตัวปรับขึ้นมาค่อนข้างมากแล้ว โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มนำตลาดเดิมอย่าง DELTA จึงอาจเห็นการสลับตัวเล่นในรอบนี้ พร้อมแนะนำให้ถือหุ้นต่อในกลุ่มที่ยังมีแนวโน้มดี หรือเลือกขายทำกำไรเพื่อสลับไปยังหุ้นที่ยัง Laggard โดยหุ้นเป้าหมายของการเปลี่ยนตัวเล่น ได้แก่ BDMS, SCGP และ WHA
อีกทั้งยังแนะนำให้จับตาหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและดิจิทัล ซึ่งจะได้อานิสงส์จากนโยบายตั้งคณะกรรมการ AI แห่งชาติของรัฐบาล เช่น DELTA, GULF, ADVANC, TRUE, WHA, SYMC, SIS, EPG และ STECON โดยการปรับตัวลงของหุ้นกลุ่มนี้น่าจะเป็นโอกาสในการสะสมเพื่อการลงทุนระยะยาว
ส่วนการปรับพอร์ตการลงทุนที่แนะนำในสัปดาห์นี้ ประกอบด้วย WHA (10%), SCGP (10%), GULF (10%), GLOBAL (10%), KKP (10%), SCB (10%) พร้อมปรับพอร์ตโดยถอด DELTA และ CPF ออก
ในเชิงเทคนิค แนะนำให้ติดตามหุ้น BCPG และ AMATA ที่มีสัญญาณบวกต่อเทคนิคัลชาร์ต