50 ปีตลาดทุนไทย สู่ยุคข้อมูล-ความเชื่อมั่น-ยั่งยืน

1 ก.ค. 2568 - 04:07

  • ตลาดหลักทรัพย์ฯ 5 ทศวรรษ สะท้อน ‘มรดก’ (Legacy) ของความเชื่อมั่นที่สั่งสมมา ตั้งแต่ปี 2518

  • ชี้ระบบการกำกับดูแล กลไกซื้อขาย และความโปร่งใส เป็นรากฐานที่ยังมีความหมายในปัจจุบัน

  • ตอกย้ำ บทบาทตลาดทุนในฐานะ ‘สถาบันกลาง’ ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยมาหลายยุค

50 ปีตลาดทุนไทย สู่ยุคข้อมูล-ความเชื่อมั่น-ยั่งยืน

ตลาดทุนไทย 50 ปี สู่อนาคตที่ยั่งยืน ‘Legacy & Future’ เวทีรวมพลังรัฐ-เอกชน ขับเคลื่อนความเชื่อมั่นสู่เศรษฐกิจใหม่

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) จัดงานสัมมนาใหญ่ “Legacy & Future : 50 Years of Thai Capital Market” เพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 50 ปี นับจากวันก่อตั้งในปี 2518 ภายใต้แนวคิด “ต่อยอดคุณค่าที่สั่งสม และสร้างตลาดทุนที่เข้มแข็งในอนาคต” โดยมีบุคคลสำคัญจากภาครัฐ ภาคเอกชน และแวดวงการเงินเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง พร้อมร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองต่อบทบาทใหม่ของตลาดทุนในยุคดิจิทัลและเศรษฐกิจยั่งยืน

การจัดงานครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อสื่อสารความสำเร็จของตลาดทุนไทยตลอด 5 ทศวรรษที่ผ่านมา และสร้างภาพอนาคตของตลาดทุนที่เปิดกว้าง โปร่งใส และเท่าทันการเปลี่ยนแปลงของโลก ทั้งในด้านเทคโนโลยี การลงทุนอย่างรับผิดชอบ และการเป็นกลไกสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ

ตลาดทุนต้อง “เข้าถึงได้ โปร่งใส เท่าทันการเปลี่ยนแปลง”

อัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เผย ตลท. มุ่งเน้นการยกระดับบทบาทตลาดทุนให้เป็นโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ ‘ทุกคนเข้าถึงได้’ โดยเฉพาะในโลกดิจิทัลที่ผู้ลงทุนต้องมีข้อมูลและเครื่องมืออย่างเท่าเทียม

set-legacy-future-50-years-of-thai-capital-market-SPACEBAR-Photo03.jpg

“50 ปีที่ผ่านมา เราสร้างโครงสร้างพื้นฐานมาอย่างต่อเนื่อง และวันนี้เรากำลังก้าวสู่การพัฒนาระบบข้อมูลและเครื่องมือการลงทุนที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี เช่น AI และระบบวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง จะช่วยให้นักลงทุนทุกระดับสามารถตัดสินใจอย่างมีคุณภาพ ขณะเดียวกันเรากำลังขยายผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ตอบโจทย์โลกยุคใหม่ เช่น DRx, ETF และ ESG-linked products”

อัสสเดช กล่าว

กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังเน้นว่า ตลาดหลักทรัพย์ไทยจะไม่หยุดเพียงการเป็นตลาดซื้อขายหุ้น แต่จะเป็นกลไกขับเคลื่อนทุนในระดับชุมชน เช่น ผ่านโครงการ ‘ตลาดทุนเพื่อสังคม’ (Social Exchange) ที่เชื่อมโยงธุรกิจและความยั่งยืนเข้าด้วยกัน

คลังหนุนตลาดทุนเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจเติบโตคู่สังคม

ด้าน พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะผู้นำทิศทางเศรษฐกิจของประเทศ ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “ธุรกิจไทยโตคู่สังคม” โดยชี้ว่า ตลาดทุนไม่ควรเป็นเพียงแหล่งระดมทุนของบริษัทขนาดใหญ่เท่านั้น แต่ต้องเป็น ‘เครื่องยนต์ร่วม’ ของการเปลี่ยนผ่านเศรษฐกิจไทย

set-legacy-future-50-years-of-thai-capital-market-SPACEBAR-Photo02.jpg

“ตลาดทุนไทยมีพัฒนาการที่โดดเด่น จากจุดเริ่มต้นเพียง 8 บริษัทจดทะเบียนในปี 2518 สู่มากกว่า 800 แห่งในปัจจุบัน … ใน 50 ปีข้างหน้า หรือตลท. ครบ 100 ปี อยากเห็นตลาดหลักทรัพย์ฯ พัฒนาฟื้นฟูความเชื่อมั่น ให้กลับมาแข็งแรงให้ได้”

พิชัย กล่าว

ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีหน้าที่สำคัญในการส่งเสริมผู้ระดมทุน ส่งเสริมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ พร้อมทั้งจัดทำโครงสร้างพื้นฐานให้อำนวยความสะดวกในการลงทุน รวมทั้งให้ประสานการทำงานร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ( ก.ล.ต.) ปรับปรุงหลักเกณฑ์และลดอุปสรรค เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม และ เป็นผลดีต่อนักลงทุนรายย่อยและประชาชน ในการสร้างโอกาสและทางเลือกที่หลากหลาย เพื่อให้นักลงทุนมีข้อมูลที่เพียงพอในการลงทุน เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่ยั่งยืน

เขายังเน้นย้ำแนวนโยบายของกระทรวงการคลัง ที่จะปฏิรูปโครงสร้างตลาดทุนให้โปร่งใส เป็นธรรม และยืดหยุ่นรองรับโลกการเงินที่ซับซ้อนมากขึ้น เช่น การออกกฎหมายเพื่อเอื้อให้เกิดผลิตภัณฑ์ลงทุนใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ยุค Green Economy และ Digital Assets

ความเชื่อมั่น คือมรดกที่ต้องรักษา

ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวในฐานะประธานพิธี ว่า ตลาดทุนในฐานะสถาบันหลักทางเศรษฐกิจ ต้องไม่เพียงให้ความสำคัญกับการเติบโตเชิงปริมาณ แต่ต้องเน้น ความน่าเชื่อถือ ความเป็นธรรม และธรรมาภิบาล ซึ่งเป็น ‘Legacy’ ที่ตลาดทุนไทยสะสมมาอย่างต่อเนื่อง

set-legacy-future-50-years-of-thai-capital-market-SPACEBAR-Photo04.jpg

“ความเชื่อมั่นเป็นสิ่งที่ไม่มีตัวเลขชี้วัด แต่เป็นรากฐานของทุกการลงทุน และคือคุณค่าที่เราต้องรักษาให้แข็งแรงต่อไป โดยตลาดทุนในอนาคตจะต้องตอบโจทย์ความคาดหวังใหม่ของสังคม โดยเฉพาะเรื่อง ESG และการพัฒนาทุนมนุษย์ในวงการการเงิน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันในระยะยาว”

ดร.ประสาน กล่าว

เขาชี้ว่า เส้นทางจากอดีตสู่อนาคตของตลาดทุนไม่อาจแยกออกจากบทบาทต่อสังคม โดยเฉพาะในเรื่อง ESG (สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล) ที่จะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของการประเมินคุณค่าบริษัทในอนาคตอันใกล้

set-legacy-future-50-years-of-thai-capital-market-SPACEBAR-Photo05.jpg

เสวนาภาคเอกชน “ข้อมูล-เทคโนโลยี-ความโปร่งใส” คือกุญแจสำคัญ

ภายในงานยังมีการเสวนาจากผู้บริหารภาคเอกชนและนักลงทุนสถาบัน ในหัวข้อ “ทิศทางใหม่ของตลาดทุนไทย” โดยมีประเด็นสำคัญ เช่น
- การใช้เทคโนโลยีข้อมูล (Big Data & AI) เพื่อยกระดับการวิเคราะห์หลักทรัพย์
- ความจำเป็นของการสร้างระบบสื่อสารข้อมูลที่เป็นกลาง และลดอิทธิพลของข่าวลือ
- การพัฒนาความรู้ทางการเงินระดับฐานราก เพื่อเสริมความเข้มแข็งของผู้ลงทุนรายย่อย

บทเรียนจากอดีต พลังสู่อนาคต

งาน “Legacy & Future : 50 Years of Thai Capital Market” นับเป็นจุดเริ่มต้นของการทบทวนเส้นทางตลาดทุนไทยอย่างจริงจัง ทั้งในมิติของความสำเร็จ และความท้าทายที่ต้องเผชิญในอนาคต ในโลกที่ความมั่นคงของเศรษฐกิจพึ่งพา ‘ความเชื่อมั่น’ เป็นพื้นฐานมากกว่าตัวเลข และแม้ ‘บางเหตุการณ์’ จากอดีตจะยังไม่ถูกกล่าวถึงในงานนี้ แต่เสียงสะท้อนจากทุกภาคส่วนต่างเรียกร้องให้ตลาดทุนไม่เพียงก้าวไปข้างหน้า แต่ต้อง ‘ก้าวอย่างมีสติ’ ด้วยบทเรียนที่ไม่ถูกลืม

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์