มงคล พ่วงเภตรา รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยในวันนี้ยังมีแนวโน้มผันผวน จากความไม่แน่นอนทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะสถานการณ์สงครามตะวันออกกลาง การเมืองภายในประเทศ และความสัมพันธ์ไทย–กัมพูชา
ปัจจัยภายนอก: สงครามอิหร่าน–อิสราเอลส่งสัญญาณบวก (ชั่วคราว)
ข่าวดีล่าสุดที่ส่งผลบวกต่อตลาด คือคำประกาศของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าอิหร่านและอิสราเอลตกลงหยุดยิงชั่วคราวภายใน 6 ชั่วโมงข้างหน้า แม้ยังไม่มีการยุติสงครามอย่างเป็นทางการ แต่ก็เป็นสัญญาณบวกระยะสั้นต่อตลาดการเงินทั่วโลก อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังต้องติดตามผลการเจรจาต่อไป โดยเฉพาะสถานการณ์บริเวณช่องแคบฮอร์มุส ซึ่งหากมีการปิดการเดินเรือ จะส่งผลต่อราคาน้ำมันทันที
ปัจจัยภายใน: การเมืองไทยกดดันตลาดต่อเนื่อง
ความไม่แน่นอนทางการเมืองภายในประเทศยังคงกดดันตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกรณีคลิปเสียงหลุดระหว่าง “อิ๊งค์–ฮุนเซน” ที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบของ ป.ป.ช. ภายใน 10 วัน และการที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดประชุมในวันที่ 1 กรกฎาคม เพื่อพิจารณาคำร้องที่อาจนำไปสู่การวินิจฉัยความชอบธรรมของนายกรัฐมนตรี ซึ่งหากมีคำวินิจฉัยในทางลบ อาจสร้างแรงกระแทกเชิงลบต่อตลาดหุ้นไทยได้
ปัจจัยเพื่อนบ้าน: ความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา
สถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชาตึงเครียดมากขึ้น หลังจากกองทัพภาคที่ 2 สั่งยกระดับการควบคุมบริเวณชายแดน 3 จุดหลัก ซึ่งอาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อมูลค่าการส่งออกของไทยไปยังกัมพูชา โดยเฉพาะสินค้าสำคัญอย่างอัญมณี น้ำมัน น้ำตาลทราย เครื่องดื่ม และเคมีภัณฑ์
ปัจจัยเศรษฐกิจโลก: Fed ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ย หนุนตลาดทั่วโลก
กรรมการธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) อีกหนึ่งราย ออกมาแสดงความเห็นว่า มีโอกาสสูงที่ Fed จะปรับลดดอกเบี้ยในการประชุม FOMC วันที่ 16 กรกฎาคม ซึ่งถือเป็นปัจจัยหนุนเชิงบวกต่อตลาดทุนทั่วโลก
ค่าเงินบาทอ่อนค่าหนักจากการเมืองไทย
เงินบาทล่าสุดอ่อนค่ามาที่ระดับ 32.99 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ถือเป็นการอ่อนค่าต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 ติดต่อกัน หรือราว 1.8% โดยมีแรงกดดันหลักจากความไม่แน่นอนทางการเมืองภายในประเทศ
กลยุทธ์การลงทุน: กลับมา “ทยอยซื้อ” หุ้นพื้นฐานดี ราคาลงลึก
คุณมงคลแนะนำว่า แม้ภาวะตลาดยังผันผวน แต่ดัชนี SET ปัจจุบันซื้อขายที่ระดับ P/E ต่ำสุดในรอบ 12 ปี ราว 14 เท่า ถือเป็นระดับที่ “ถูก” ทางเชิงมูลค่า จึงควรใช้โอกาสนี้ “ทยอยสะสม” หุ้นพื้นฐานดีที่ราคาปรับตัวลงแรง
กลยุทธ์แนะนำวันนี้:
• เลือกลงทุนในหุ้นกลุ่ม Deep Discount ได้แก่:
• CPALL, BH, BDMS, MTC
• และหุ้น High Dividend Yield ได้แก่:
• SCB, PTT
แนวรับสำคัญของดัชนี:
• 1,056 จุด (ระดับต่ำสุดเดิม)
• หากปรับลดลงอีก จะอยู่ที่ระดับ 1,034 และ 1,000 จุด ซึ่งสอดคล้องกับ FWD P/E ที่ 13.0–13.4 เท่า
พอร์ตแนะนำ DAOL วันนี้:
• CPALL (10%)
• BDMS (10%)
• AOT (10%)
• SCC (10%)
• SCB (10%)
Technical Picks: BTG, COM7