ตลาดหุ้นไทยเปิดรับกระแสบวกจากปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ หลังสหรัฐฯ ส่งสัญญาณชัดว่าไทยคือหนึ่งในพันธมิตรยุทธศาสตร์โลกใหม่ ร่วมกับญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินโดนีเซีย และไต้หวัน จุดประกายความหวังการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการลงทุนในระยะยาว ท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก
ไทยไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่คือตัวเลือกหลักของโลก
กรภัทร วรเชษฐ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ หัวหน้าสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุว่า การที่รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ เอ่ยชื่อไทยในกลุ่มพันธมิตรยุทธศาสตร์ ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ โดยเฉพาะการขยับตัวของไทยในฐานะศูนย์กลางการผลิตเทคโนโลยีระดับกลาง (Mid-tech Manufacturing) และจุดหมายใหม่ของ FDI จากฝั่งตะวันตก
พร้อมแนะหุ้นเด่นรับธีมนี้ ได้แก่ AMATA, WHA, PTTEP, PTT, และกลุ่มโลจิสติกส์อย่าง SJWD และ WICE
SET แนวโน้มขยับในกรอบ 1200–1240 จุด
ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ หัวหน้าสายงานวิจัย บล.กรุงศรี ประเมินดัชนีหุ้นไทยวันนี้มีแนวรับ 1,200–1,206 จุด และแนวต้าน 1,231–1,240 จุด โดยตลาดกำลังตอบรับการเข้าสู่ช่วงเจรจาการค้าไทย-สหรัฐฯ ที่อาจส่งผลต่อเงินทุนต่างชาติและค่าเงินบาทในระยะกลาง
ความเสี่ยงยังไม่จบ – พักรบไม่ใช่จบศึก
ด้านคุณวทัญญ์ จิตต์สำนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) เตือนว่าการพักรบทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนเป็นเพียงปัจจัยบวกระยะสั้น และยังไม่เพียงพอจะแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างของเศรษฐกิจไทย
“ผลประกอบการ บจ. ไทยยังไม่กระจายตัว รายได้หลักยังคงกระจุกในกลุ่มค้าปลีก สื่อสาร ขณะที่อสังหาฯ และกลุ่มท่องเที่ยวเริ่มส่งสัญญาณอ่อนแรง”
เศรษฐกิจภายในยังชะลอตัว – การท่องเที่ยวเริ่มหดตัว
ข้อมูลล่าสุดชี้ว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติในเดือนมกราคมลดลง 1% ซึ่งเป็นครั้งแรกในปีนี้ ขณะที่กลุ่มอาหารและวัสดุก่อสร้างก็เผชิญภาวะกำไรลดลงแรง เช่น SCC, MINT และ MK พร้อมแนะนักลงทุนให้อดทน รอจังหวะ SET ย่อตัวที่ระดับ 1,000–1,100 จุด ซึ่งอาจเป็นจุดน่าสนใจมากกว่า “อย่าตัดสินใจเร็วเกินไปในขณะที่ภาพรวมยังไม่ชัดเจน” วทัญกล่าว