เรื่องมันมีอยู่ว่า การจัดการปัญหาความขัดแย้งกับกัมพูชารอบนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นรัฐบาลล้มเหลวอย่างชัดเจน ทหารที่เคยถูกด้อยค่า สามารถลบล้าง และกลับมาได้ในที่สุด <<>> ตัวเก็งคว้าเก้าอี้ผู้ว่าแบงก์ชาติคนใหม่ พุ่งเป้าไปที่ วิทัย รัตนากร ว่ากันว่าผู้ที่สมัครวันสุดท้าย คนสุดท้าย จะเป็นผู้ชนะ พบคำตอบในเรื่องมันมีอยู่ว่า
ทหาร ผู้ชนะตัวจริง
แค่วันเดียวหลังจากกองกำลังบูรพา กองกำลังสุรนารี และนาวิกโยธิน สั่งห้ามคนไทยเข้าไป‘เล่นการพนัน’ ปรับลดเวลา คุมเข้ม การเข้าออกด่านชายแดนไทย – กัมพูชา ตั้งแต่จังหวัดสุรินทร์ สระแก้วไปถึง จันทบุรี กัมพูชาก็‘สั่งถอน’ กำลังทหาร ที่จุดปะทะช่องบก ออกจากชายแดน กลบสนามเพลาะที่ขุดเอาไว้
เป็นชัยชนะโดยใช้อำนาจทางเศรษฐกิจที่เหนือกว่าของไทย ตามหลัก ‘พลังอำนาจแห่งชาติ’ ที่กองทัพบก เผยแพร่เป็นครั้งแรกผ่านเพจ Royal Thai Army
เป็นชัยชนะในทางการเมืองของกองทัพที่ทำให้สถานะของกองทัพ‘โดดเด่น’ เป็นที่ยอมรับของประชาชน ในขณะที่สถานะของรัฐบาล คือ นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในสายตาคนไทยที่เดิมก็ย่ำแย่อยู่แล้ว‘ยิ่งดิ่งลงเหว’
บทบาทของกองทัพในครั้งนี้ มีคนไม่สบายใจ อึดอัดที่คนไทยทุกหมู่เหล่าหันมาเชียร์ทหาร คือ ‘ฝ่ายซ้าย’ ซึ่งหมายถึงพวกนักวิชาการ อินฟลูเอนเซอร์เรื่องการเมือง สังคม ที่มีคนแนวความคิดต่อต้านอนุรักษ์นิยม ต่อต้านกองทัพ รวมทั้ง สส. พรรคประชาชนบางคน เพราะวาทกรรม ‘ทหารมีไว้ทำไม’ ที่ถูกปั่นเป็นกระแสในสื่อโซเชียลมานานหลายปี ใช้ไม่ได้แล้ว
‘สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล’ นักประวัติศาสตร์ ที่ลี้ภัยไปอยู่ที่ฝรั่งเศส และมีเฟซบุ๊กที่มีแฟนติดตามเป็นจำนวนมาก โพสต์เฟซบุ๊กติง วิโรจน์ ลักขณาอดิศร, ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ และรังสิมันต์ โรม ว่า
‘น่าจะมีท่าทีที่ดีกว่านี้ ไม่บ้าไปตามกระแสทหาร เราสามารถมีจุดยืนที่เป็นอิสระได้ เบรกกระแสทหาร วิจารณ์ความเชื่องช้าของรัฐบาลไปพร้อมๆกันได้’
อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯคนหนึ่ง ใช้วาจา ‘ด้อยค่า’ คนที่สนับสนุนทหารว่าเป็นพวก ‘คลั่งชาติ’ และชมเชย ‘ฮุนเซน’ว่า เล่มเกมการเมืองระหว่างประเทศเก่ง รู้จักใช้เวทีนานาชาติ มาสู้กับไทย
หลายๆ คนไม่กล้าโจมตีทหารตรงๆ เพราะกลัวทัวร์ลง เลยเสียดสีโซเชียลมีเดียของกองทัพบก ที่ โพสต์ขอแรงสนับสนุนจากประชาชน และกล่าวหาว่า กองทัพ ‘ฉวยโอกาส PR’ แต่ก็หนีไม่พ้นทัวร์ลง
‘ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ’ หลีกเลี่ยงที่จะแสดงความเห็นตรงๆ แต่ไปอ้างอิงเรื่องที่เคยพูดถึงหนังสือเกี่ยวกับช่างสักเลขประจำตัวเชลยศึก ในค่ายกักกันนาซี
ความขัดแย้งเรื่องดินแดนระหว่างไทย - กัมพูชา ยังไม่จบ แค่ ‘สงบชั่วคราว’รอวันที่จะปะทุขึ้นมาใหม่
แต่สำหรับความขัดแย้งครั้งนี้ ทหารคือผู้ชนะตัวจริง
<<<<<>>>>>>>>>
มาช้าแต่มาแรง
วิทัย รัตนากร เต็งหนึ่งผู้ว่าแบงก์ชาติ
ผู้ว่าแบงก์ชาติคนใหม่จะเป็นใคร เขาว่าให้ดูว่า ‘ใครมายื่นใบสมัคร เป็นคนสุดท้าย’ ก่อนปิดรับสมัคร
การสรรหาผู้ว่าแบงก์ชาติครั้งก่อน เพื่อมาแทน ‘วิรไท สันติประภพ’ มีการขยายเวลารับสมัครออกไปอีกเกือบเดือน เพื่อรอผู้สมัครชื่อ ‘เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ’ ที่มายืนใบสมัคร ก่อนหมดเวลา 10 นาที
คราวนี้ ‘วิทัย รัตนากร’ ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน มายื่นใบสมัครเป็นคนสุดท้าย ในวันสุดท้ายของการรับสมัคร 4 มิถุนายน
ที่ต้องรอจนถึงนาทีสุดท้าย ไม่ใช่เรื่อง‘ฤกษ์พานาที’ เป็นเพราะเจ้าตัว ‘ไม่ได้อยากเป็น’ ผู้ว่าแบงก์ชาติ แต่ถูกดันให้มาเป็น ก็ต้องใช้เวลาในการตัดสินใจเตรียมตัว เลยมายื่นใบสมัครเป็นคนสุดท้าย ซึ่งบรรดาคนในแวดวงตลาดเงิน-ตลาดทุน ก็แทบจะ ‘ฟันธง’ ว่า เขาคือ ‘ตัวเก็ง’ ในตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยคนใหม่
เรื่องมันมีอยู่ว่า ผู้มีอำนาจตัวจริงในรัฐบาล มองภารกิจผู้ว่าแบงก์ชาติคนใหม่ว่าต้อง‘ไฟแรง’ และพร้อมถกแขนเสื้อลงไปลุยแก้ปัญหา เรื่องหนี้ครัวเรือน และการสู้รบตบมือกับบรรดาแบงก์พาณิชย์ ที่ให้ความสำคัญกับกำไรสูงสุด มากกว่าการเป็นกลไกกระจายสินเชื่อให้ลงไปถึงประชาชนในอัตราดอกเบี้ยที่เป็นธรรม และต้องการให้แบงก์ชาติใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายเพื่อทำให้เศรษฐกิจขยายตัว
วิทัย จึงเป็นตัวเลือกที่ถูกเสนอขึ้นมา ผ่านแรงหนุนของ ‘เศรษฐา ทวีสิน’ และ ‘พิชัย ชุณหวิชร’ รมต.คลัง ซึ่งทั้งสองคนเคยคิดที่จะให้วิทัยไปเป็นผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ ฯ มาก่อน โดยมี กิติรัตน์ ณ ระนอง ร่วมด้วยช่วยเชียร์อีกคนหนึ่ง จนได้รับไฟเขียว
วิทัย เป็นผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ตั้งแต่ปี 2563 ได้รับการต่ออายุเป็นวาระที่ 2 จนถึงปัจจุบัน เป็นผู้ที่ผลักดันให้ธนาคารออมสิน เป็น ‘ธนาคารเพื่อสังคม’ คือสนับสนุนสินเชื่อให้ประชาชนในระดับรากหญ้า และ เอสเอ็มอี ไม่ใช่ธนาคารที่จะเอาแต่ทำกำไร แต่ใช้ธนาคารเป็นเครื่องมือสนองนโยบายรัฐในการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือน
แต่เพราะไม่มีดีกรีการศึกษาระดับดอกเตอร์ จากมหาวิทยาลัยชั้นนำในต่างประเทศ ที่อาจเป็น‘จุดอ่อน’ เมื่อถึงเวลาแสดงวิสัยทัศน์แข่งกับ ‘แคนดิเดต’ คนอื่นๆ ที่เป็นดอกเตอร์ รวมทั้งลูกหม้อวังบางขุนพรมอย่าง ‘ดร.รุ่ง มัลลิกะมาส’ รองผู้ว่าฯแบงก์ชาติ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ทำให้ต้องมีการติวเข้มกันขนานใหญ่ ก่อนที่จะไปแสดงวิสัยทัศน์ 24 มิถุนายนนี้ โดยจะมุ่งเน้นจุดเด่นในฐานะ ‘นักปฎิบัติ’ ที่มีผลงานเชิงประจักษ์ที่ออมสิน
แต่สุดท้ายบทหนักคงไปอยู่ที่ คณะกรรมการสรรหาที่มีอดีตปลัดคลัง ‘สถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์’ ว่าจะยกเหตุผลอะไรที่จะมีน้ำหนักมากพอที่จะเสนอชื่อ วิทัย เพราะอาจจะถูก‘แรงต้าน’จากคนในวังบางขุนพรหม และบรรดานักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ที่กำลังหวาดระแวงเรื่องความเป็นอิสระจากการเมือง และที่สำคัญต้องเสนอชื่อแคนดิเดตอีกคนเป็นคู่เทียบ เพื่อให้ รมว.พิชัย ตัดสินใจขั้นสุดท้าย
2 กรกฎาคมนี้มีคำตอบ...
<<<<<>>>>>>>>>