เรื่องมันมีอยู่ว่า สมการการเมืองสูตรใหม่ กำจัดพลพรรคสีน้ำเงิน มีทั้งแขวน และแจกใบแดง แลกกับรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ เรื่องที่ดูไม่เกี่ยวกัน แต่ก็เชื่อมต่อกัน สกาย ไอซีที ขาใหญ่งานรัฐด้านไอที เพิ่งเปลี่ยนมาเป็นสีน้ำเงิน ก็โดนแล้ว คราวนี้เปลี่ยนเป็นสีอะไรดี พบคำตอบในเรื่องมันมีอยู่ว่า
สมการการเมืองสูตรใหม่
แขวน ‘10 สส.ภูมิใจไทย’ แจกใบแดง สว. สีน้ำเงิน
ไม่ว่าจะ 48 ชั่วโมง หรือ 84 ชั่วโมง เส้นตายที่พรรคเพื่อไทย โยนไปให้พรรคภูมิใจไทย ยอมคายกระทรวงมหาดไทยแลกกับ 1 ใน 2 กระทรวงอย่าง ‘สาธารณสุข-พาณิชย์’ เชื่อว่าคำตอบก็ยังเหมือนเดิม
ด้วย ‘ดีล’ ที่อ้างกันว่า ‘นายกฯน้องอิ๊งค์’ แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทยเรียก ‘พี่หนู’ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ไปยื่นคำขาดวันก่อน ก็เป็นดีลเดิมๆที่วนเวียนอยู่บนหน้าสื่อมาร่วม 3 สัปดาห์
ที่ถ้า ‘ขาใหญ่เขากระโดง’ เอาด้วยก็คงเช็คแฮนด์ เซย์เยส กันไปนานแล้ว แต่เป็นเพราะรู้ดีว่าเกมนี้ที่ ‘บ้านใหญ่จันทร์ส่องหล้า’ ถึงขั้นออกตัวเองนั้น ก็เพราะไม่ได้อยากแลกเปลี่ยนกระทรวงอะไรหรอก แต่ต้องหาเหตุ ‘ถีบส่ง’ พรรคภูมิใจไทย พ้นรัฐบาลมากกว่า
เบื้องแรก ‘เนวิน ชิดชอบ’ ครูใหญ่ภูมิใจไทย คำนวณตัวเลขจำนวนมือ สส.ในหัว ถึงกับกระหยิ่มยิ้มมุมปากคิดว่า ‘เถ้าแก่เพื่อไทย’ คงไม่กล้าเสี่ยง เพราะหากขาด 69 เสียงสีน้ำเงิน ตัวเลขจะเป็น ‘รัฐบาล 255 เสียง ฝ่ายค้าน 240 เสียง’ แม้มีช่องว่าง 15 เสียง แต่เป็นจำนวนที่ทำให้พรรคเพื่อไทยหายใจไม่ทั่วท้อง
สำคัญที่สภาฯ อาจจะทำงานไม่ได้ เพราะ 255 เสียงของรัฐบาล มากกว่ากึ่งหนึ่งหรือ 248 เสียงในปัจจุบันแค่ 7 เสียง หากฝ่ายค้านไม่ร่วมเป็นองค์ประชุม อาจเปิดประชุมแต่ละครั้งไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
จากที่มั่นอกมั่นใจว่าต้องผูกขากันไป แต่สัญญาณจาก ‘บ้านจันทร์ฯ’ ก็แรงไม่ผ่อน ทำเอา ‘พี่น้อง 2 น.’ นั่งไม่ติด ต้องแก้เกมก่อนโดยชวน ‘ทีมเพชรบูรณ์’ พรรคพลังประชารัฐ ที่มีกันอยู่ 6 เสียง นำโดย ‘สันติ พร้อมพัฒน์’ มาร่วมซีนแสดงพลัง แม้จะไม่ได้มีผลเปลี่ยนแปลงคะแนนเสียง เพราะ ‘ค่ายลุงป้อม’ อยู่ซีกฝ่ายค้านอยู่แล้ว แต่ก็เพื่อตีกันไม่ให้ พรรคเพื่อไทยดูด ‘กลุ่มสันติ’ ไปเติมเสียง
ที่พอสะเทือนบ้างคงเป็นคิวที่ ‘อนุทิน’ ไปลงพื้นที่ จ.อุดรธานี โดยมี 2 สส.พรรคไทยสร้างไทย ที่แสดงตัวฝักใฝ่รัฐบาลแล้วไปร่วมต้อนรับ นัยว่าเปิดตัวกับพรรคภูมิใจไทยแล้ว และหาก 2 เสียงนี้ข้ามฟากไปเป็นฝ่ายค้านกับ ‘ค่ายสีน้ำเงิน’ ก็ทำให้รัฐบาลจะเหลือเสียงแค่ 253 เสียง มากกว่ากึ่งหนึ่งแค่ 5 เสียง ขณะที่ฝ่ายค้านเพิ่มเป็น 242 เสียง ห่างกัน 11 เสียง
และในฐานะผู้เชี่ยวชาญระดับเจ้าของ ‘ฟาร์มงูเห่า’ ก็อ่านว่า ขณะนี้ในซีกฝ่ายค้านไม่มีงูเห่าให้ชอปปิ้งอีกแล้ว ที่อาจพอดีลได้ ก็เป็น 20 สส.พรรคพลังประชารัฐ แต่ทุกคนเหนียวแน่นกับ ‘ลุงป้อม’ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค เพราะหากจะย้าย ก็คงตาม ‘ก๊วนผู้กอง’ ไปตั้งแต่ต้น
เป็นสถานการณ์ที่ไม่เอื้อให้พรรคเพื่อไทย เดินตาม ‘ธง’ บ้านจันทร์ส่องหล้าเลย แต่เจ้าของรหัส ‘V1’ ก็ยังทุบโต๊ะยืนยันเหมือนเดิม แถมยังมั่นใจว่าสามารถประคองให้ ‘รัฐนาวาลูกสาว’ แล่นชิวได้ด้วย
ก่อนจะมาเฉลยสูตร หลัง กกต.ออกหมายเรียกลอตใหญ่ 7 คดีฮั้ว สว.ที่ปรากฏชื่อ ‘บิ๊กเนมสีน้ำเงิน’ ที่มี ‘หลาย’ คนเป็น สส.อยู่ในปัจจุบัน รวมกับ 2 สส.ในลอตก่อนหน้า รวมกันเป็น 10 สส.ปัจจุบัน
ตั้งแต่ ‘หัวหน้าหนู’ อนุทิน ชาญวีรกูล สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรค
‘รองฯแบด’ ภราดร ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2
‘ลูกนก’ ไชยชนก ชิดชอบ สส.บุรีรัมย์ เลขาธิการพรรค
‘หนุ่มแชมป์’ กรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง
‘หนุ่มอ๋อง’ธนยศ ทิมสุวรรณ สส.เลย
‘หนุ่มเจ’ เจเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี
‘โฆษกแนน’ บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี
‘โกแพ’ วรศิษฎ์ เลียงประสิทธิ์ สส.สตูล
‘เจ๊รวย’ สุขสมรวย วันทนียกุล สส.อำนาจเจริญ
‘กำนันชัย’ พิชัย ชมภูพล สส.สุราษฎร์ธานี
ด้วยข้อหาอุกฉกรรจ์ในขบวนการฮั้ว สว. ทำให้เชื่อได้ว่า หากกระบวนการทางคดีไปถึงศาล ทั้ง 10 สส.จะถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรฐาน ซึ่งก็จะทำให้ฝ่ายค้านถอยลงเหลือ 232 เสียง
แล้วหากจะให้ครบลูป ฝ่ายนิติบัญญัติ ทำงานได้ไม่สะดุด ก็ต้องมีความเปลี่ยนแปลงในชั้น ‘สภาสูง’ ที่ต้องลุ้นให้ ‘สว.สีน้ำเงิน’ ถูกแทนที่ด้วย ‘สว.สำรอง’ ให้มากที่สุด
ด้วยข้อหาอุกฉกรรจ์ ที่มองมาจากดาวอังคารก็เห็น ก็เชื่อลึกๆว่า มีโอกาสสูง ที่สุดท้ายก่อนอำนาจจะพ้นมือ กกต. จะมีเทศกาลแจกใบแดงว่อน ‘สภาสูง’ จนสีน้ำเงินที่ฉาบเคลือบอยู่จางลงไปเอง
กลายเป็นสูตรที่ทำให้ ‘นายใหญ่เพื่อไทย’ มองข้ามช้อตไปถึงการผลักดันร่างกฎหมายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ หรือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องเสียงในสภาฯ
เพราะต้องเอาเวลามาคิดว่า 8 เก้าอี้รัฐมนตรีที่ว่างลง จะแบ่งกันอย่างไร
<<<<<<<>>>>>>>>
จาก ‘Golden BOY’ สู่ ‘Blue BOY’
‘สกาย ไอซีที’ ต้องเปลี่ยนสีอีกแล้ว
โตแบบก้าวกระโดด ทะยานติดลมบน ตลอดช่วงทศวรรษที่ผ่านมา บริษัท สกายไอซีที จำกัด (มหาชน) (SKY) หรือ ‘สกาย กรุ๊ป’ ที่ขายความเป็นมืออาชีพด้านเทคโนโลยีสื่อสาร โดยมีคอนเนกชันระดับวีวีไอพีเป็นแบ็กอัปหลังฉาก
รับสมญา ‘Golden Boy’ หนุ่มน้อยดาวรุ่งแห่งยุคไม่นาน ก็เก็บเลเวลขึ้นชั้น ‘ขาใหญ่’ แห่งวงการประมูลงานรัฐ เรียกว่าถ้าได้จ้องงานไหน ไม่มีพลาด จนมาวันนี้เติบใหญ่สยายปีกแตกไลน์หลากหลายธุรกิจ
สมัยนั้นฮือฮากันทั้งวงการว่า ที่ทางสะดวกขนาดนั้น เพราะแปะยี่ห้อ ‘หลานลุงป้อม’ เป็นใบเบิกทาง หลายครั้งโดนลูกหลงการเมือง จับขึงพืดขึ้นจอเวทีอภิปรายไม่ไว้วางใจหลายครั้ง แต่ภูมิคุ้มกันดี เลยรอดปลอดภัยมาตลอด
ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ สกาย ไอซีที คือ วรพจน์ อำนวยพล หรือ ‘บอย สกาย’ ที่ใช้ความเป็นหลานลุงป้อม กวาดงานไอทีภาครัฐ มูลค่าหลักร้อยหรือไม่กี่พันล้านต่อปี แต่เป็นโครงการ ‘กินยาว’ ผูกพันต่อเนื่องกันหลายปี โดยเฉพาะโครงการที่ขอใช้เงินทุนจากกองทุนดิจิทัล ของกระทรวงดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี ที่เป็นโควตาของพรรคพลังประชารัฐ ในรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
การเมืองเปลี่ยนยุค อำนาจผลัดมือ ‘ลุงป้อม’ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ผู้เป็นที่รักและเคารพ ฝันไกลไปไม่ถึง อยู่ในวัยอัสดงเหลือหัวโขนแค่ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพลังประชารัฐ นั่งจ๋องเป็นฝ่ายค้าน นับถอยหลังรอวันรีไทร์ แต่ ‘หลาน บอย สกาย’ ที่ฟูมฟักมาแต่อ้อนแต่ออกก็ยัง ‘ไม่แผ่ว’
จากผลประกอบการไตรมาส 1/2568 (มกราคม-มีนาคม 2568) ที่โชว์รายได้รวม 2,384 ล้านบาท ทุบสถิติ ‘New High’ เติบโตขึ้น 72% กำไรสุทธิ 205 ล้านบาท เติบโตขึ้น 86% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
มองตัวเลขแดนบวกอย่างริษยา สวนทางเศรษฐกิจที่บักโกรกกันทั้งประเทศ ก็ต้อง ‘ยกนิ้ว’ ให้ ‘สกาย กรุ๊ป’ ที่ยังคงยืนเด่นอย่างท้าทาย แต่เมื่อคุ้ยที่มาที่ไป ก็ยังเป็นอานิสงส์จากยุคที่อาคม ‘หลวงพ่อป้อม’ ยังคงเข้มขลัง
ด้วยรายได้ส่วนใหญ่ที่โชว์เป็นโครงการผูกพันกินยาวๆ มารับรู้รายได้ในปีนี้ ซึ่งก็แค่ ‘ส่วนน้อย’ เท่านั้น ที่ต้องร้อง ‘อู้..หูววว’ ก็ตรง Backlog งานรอส่งมอบตามสัญญาในอนาคต รอรับเข้ากระเป๋าเหนาะ ๆ อีกกว่า 2.2 หมื่นล้านบาท
เส้นทางเติบโตชัดเจนขนาดนี้ ‘สกาย กรุ๊ป’ รู้ดีว่า จะเดินต่อสายโครงการรัฐ จำเป็นต้องหา ‘การเมือง’ มาแอบอิงแทน ‘ลุงป้อม’ ที่คุ้มกะลาหัวมานาน จนถึงวัยปลดระวาง
ตั้งแต่ปลายสมัยรัฐบาลก่อน ก็เลยเริ่มเห็น ‘สกาย กรุ๊ป’ แตกไลน์เข้าเทคโนโลยีการบิน คว้างานใหญ่ของ การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย (ทอท.) รวมไปถึงหลายหน่วยงานที่มีเงา พรรคภูมิใจไทย พาดผ่านแสดงความเป็นเจ้าของอยู่ เรียกว่าฉาบ ‘สีน้ำเงิน’ ไว้เต็มคราบ ว่ากันยาวๆอย่างน้อยสิ้นรัฐบาลนี้
แม้พรรคภูมิใจไทยไม่ได้ว่าการกระทรวงคมนาคมแล้ว ก็ไม่เป็นไร เพราะล่าสุดสกาย ตามไปเอางานศูนย์การเรียนรู้ ของกระทรวงศึกษาธิการ มาไว้ในมือได้ งบประมาณปีละแค่ 2,000 กว่าล้าน แต่เป็นงบผูกพัน ‘หลายปี’
มาวันนี้การเมืองทำท่าจะเปลี่ยนกลางเทอม สีน้ำเงินของ ‘พ่อหนุ่มสกาย’ ยังไม่แห้งดี อาจต้องเปลี่ยนสีอีกรอบหรือเปล่า
<<<<<<<>>>>>>>>