เรื่องมันมีอยู่ว่า ‘พีระพันธุ์’ หนี ทิ้งเอกนัฏ ‘อิ๊งค์’ยังนิ่งปรับ ครม.‘อนุทิน’ออกอาการ

เรื่องมันมีอยู่ว่า รวมไทยสร้างชาติ พังแล้ว พังอยู่ พังต่อ หัวหน้าพรรคเก็บตัว หนีหน้า กับทุกปัญหาที่เกิดขึ้น จนลูกพรรคต้องลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลง <<>> เกมปรับ ครม.ที่เพื่อไทยปะทะภูมิไจไทย ขนกลยุทธ์ซ่อนดาบในรอยยิ้ม เหลี่ยมขบเหลี่ยม  มาหักกัน เกมนี้ใครอึดกว่าชนะ  พบคำตอบในเรื่องมันมีอยู่ว่า

‘พีระพันธุ์’หนี  ทิ้ง ‘เอกนัฏ’ เคลียร์ปม 21 สส. คนเดียว

ปั่นป่วนสุดๆ พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อกลุ่ม สส. นำโดย ‘มังกรเฮ้ง’ สุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ ที่ยกระดับกดดัน ‘ก่อกบฏ’ ล่าชื่อ 21 สส. ที่ล้วนแล้วเป็นเบอร์ใหญ่ของพรรคทั้งสิ้น แนบท้ายหนังสือส่งถึง ‘นายกฯอิ๊งค์’ แพทองธาร ชินวัตร

สาระสำคัญกระซวก ‘รัฐมนตรี’ ในสัดส่วน ‘รวมไทยสร้างชาติ’ ว่า ยังขาดความรู้ความสามารถในการบริหารงาน รวมถึงการผลักดันนโยบายและการสร้างผลงานของรัฐมนตรี ส่งผลให้ไม่สามารถตอบสนองต่อความคาดหวังของพี่น้องประชาชนได้อย่างเต็มศักยภาพ

แถมยังมีประเด็นด้าน ‘จริยธรรม’ ถูก ‘กกต.’คณะกรรมการการเลือกตั้ง และ ‘ป.ป.ช.’ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ตรวจสอบอยู่ เข้าข่ายกระทำการขัดรัฐธรรมนูญ และมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง อันส่งผลต่อสถานภาพและคุณสมบัติในการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี

ก่อนจะขมวดปมไม่อ้อมค้อม ขอให้ ‘นายกฯอิ๊งค์’ ใช้อำนาจปรับเปลี่ยน ‘รัฐมนตรี’ ในสัดส่วนพรรครวมไทยสร้างชาติทุกตำแหน่ง โดยเน้นคุณสมบัติ ‘ความสุจริตอันเป็นที่ประจักษ์’ เป็นหลัก

อ่านไม่ยากว่ารัฐมนตรีที่ถูกจัดหนักในหนังสือที่มีลายมือชื่อ 21 สส.แนบท้าย คงไม่พ้น ‘ชายพี’ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค ที่ปัจจุบันยังคงสวมหัวโขนรองนายกฯ และ รมว.พลังงาน อยู่ แม้ว่า ‘ท่านพี’ จะไม่ปรากฎตัวในที่สาธารณะมาพักใหญ่ จนหลายคนนึกว่า ‘ลาโรง’ กลับไปพักผ่อนอยู่บ้านแล้วด้วยซ้ำ

พลันที่ถูกรุกหนัก ทำท่าจะเอาไม่อยู่ ‘ท่านพี’​ ที่ระยะหลังเก็บตัวเงียบ หลบประเด็นส่วนตัวที่ถูกร้องจริยธรรม ต้องลนลานคาดไทร์ใส่สูทมา ทำเนียบรัฐบาล ด่วนจี๋ไปรษณีย์จ๋า

แต่ก็มาเพื่อขอเข้าพบนายกฯ ผู้ถืออำนาจปรับ ครม. เพื่อเคลียร์ประเด็นที่ถูก 21 สส.ลูกพรรค‘ตะเพิด’ลงจากเก้าอี้รัฐมนตรี

ปรากฏคุยจบ ‘พีระพันธุ์’ ชิ่งออกจากทำเนียบรัฐบาลทันที เหมือนไม่ได้ใส่ใจว่า กำลังจะมีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทำเอา ‘นายกฯอิ๊งค์’ ในฐานะผู้บังคับบัญชาถึงกับพูดไม่ออก

ย้ำชัดๆว่า ‘ท่านพี’ มองเรื่องส่วนตัวเหนือกว่าทุกสิ่งบนโลก เหมือนกับที่หลังโดนตรวจสอบ 2 เรื่อง ทั้งแจกถุงยังชีพ-ถือหุ้นบริษัท ไม่ค่อยมีความเคลื่อนไหว แทบไม่ออกจากที่ตั้งเลย โดยเฉพาะภารกิจ กระทรวงพลังงาน ที่งานคั่งค้าง เพราะพี่เล่น ‘ไม่รับนัด-เลื่อนนัด’ จนข้าราชการบ่นอุบ

ไม่ใช่แค่นั้น ใครที่ติดตาม หรือไปย้อนความดูความขัดแย้งภายในพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็เห็นว่า ตัวปัญหาของบรรดาลูกพรรคก็คือ ‘หัวหน้าพี’ แต่ก็ไม่ได้นำพา หรือคิดจะแก้ไขปรับปรุง ปล่อยให้ ​‘ขิง สุดซอย’ เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค ต้องออกหน้าเคลียร์ตลอด

ครั้งนี้ก็เช่นกัน ที่โดนหนักแค่ไหน ‘หัวหน้าพี’​ ก็ยังเลือกจะหลบเข้าถ้ำ ปล่อยให้ ‘เลขาฯขิง’ ต้องรับหน้าอย่างโดดเดี่ยว จนกลายเป็นคู่กรณีกับ ‘เสี่ยเฮ้ง’ ไปซะอย่างนั้น

<<<<<<<>>>>>>>>> 

‘อิ๊งค์’ ยังนิ่งปรับ ครม. ทำ ‘อนุทิน’ ออกอาการ

ยังไม่รู้ชะตากรรม ‘ค่ายเซราะกราว’ พรรคภูมิใจไทย พรรคร่วมรัฐบาลอันดับ 2  ที่เคยมั่นใจว่า 69 เสียง สส. ที่มีปัจจุบัน กับ ‘สว.สีน้ำเงิน’ มากพอที่ ‘ค่ายบ้านจันทร์ฯ’ พรรคเพื่อไทย แกนนำรัฐบาล จะไม่กล้าหือ กล้าอือด้วย จนบางจังหวะเผลอไผลโดดขี่คอข่ม ‘พรรคนายใหญ่’ ด้วยซ้ำ

แต่สถานการณ์หนนี้ ชักไม่แน่ซะแล้ว หลัง ‘เถ้าแก่’ ทักษิณ ชินวัตร ออกปากทวงคืน กระทรวงมหาดไทยที่เป็น ‘หัวเชื้อ’ ให้เชื่อว่าการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะมีในเวลาอันใกล้

จากที่เคยทรนงว่า ไม่ใช่เป้าหมาย แล้วยังเป็นขาประจำเข้าออก ‘บ้านใหญ่จันทร์ส่องหล้า’ ก็ชักหายใจไม่ทั่วท้อง

ทว่าจนแล้วจนรอด แกนนำ-แกนตามรัฐบาล ก็ยังคงประสานเสียงพร้อมเพรียงว่า ยังไม่มีสัญญาณใดๆจาก ‘น้องอิ๊งค์’ แพทองธาร ชินวัตร ถึงการปรับ ครม.แต่อย่างใด

พลันที่เวลาทอดออกมาเรื่อยๆ ‘อนุทิน’​ ที่มีร่างเงา ‘น้าเน’ เนวิน ชิดชอบ ครูใหญ่ภูมิใจไทย ทาบทับอยู่ ก็เริ่มกลับมามั่นใจในแต้มต่อตัวเอง เปิดเกมเคาเตอร์แอกแท็ก อ้างไปถึง ‘ดีลช็อกมินต์’ เพื่อย้ำว่า อย่ามายุ่งกับโควตาเก้าอี้ที่ตกลงกันไว้แล้ว พร้อมเอาหลังพิง ‘นายกฯน้องอิ๊งค์’ ว่าเป็นผู้มีอำนาจแต่เพียงผู้เดียว

แล้วยังเหิมเกริม ‘ลำเลิกบุญคุณ’ ทำเอา ‘บ้านใหญ่จรัญฯ 69’​ เดือดปุดๆ จนรังสีอำมหิตสาดไปถึง ‘ค่ายเขากระโดง’

สะท้อนมาเป็นภาษากาย ‘เสี่ยหนู’ ที่เคยทำทีมั่นใจได้แค่ 2 วัน ต้องกลับเข้าโหมด ‘ว้าวุ่นใจ’​ อีกครั้ง

อย่างการประชุม ครม.เมื่อวาน ก็มีคนสังเกตอากัปอาการ ‘เสี่ยหนู’ ที่ดูไม่ปกติ ตั้งแต่การที่ ‘รัฐมนตรีสีน้ำเงิน’ ที่ยังนัดชักแถวเดินขึ้นตึกบัญชาการสถานที่ประชุม ครม.พร้อมกันเหมือนเคย แต่กลับขึ้นตึกหลังนายกฯ เกือบครึ่งชั่วโมง

ไม่เท่านั้นยังมีคนสังเกตว่า ในระหว่างการประชุม ครม. ที่เดิม ‘ค่ายสีน้ำเงิน’ มักมีบทบาทในการแสดงความเห็น หรือตั้งข้อสังเกต กลับสงวนวาจา แทบไม่มีส่วนร่วมใดๆ เลย ทำเอาบรรยากาศในห้องประชุม ‘อึมครึม’ ชอบกล

กระทั่งเลิกประชุม ที่ตามธรรมเนียมแล้วรัฐมนตรีน้อยใหญ่ต้องมาเรียงหน้าให้กำลังใจ ‘นายกฯอิ๊งค์’ ระหว่างแถลงข่าวกับสื่อมวลชน ซึ่ง ‘เสี่ยหนู’ ก็เป็นสมาชิกขาประจำ หลายครั้งประกบข้างเอาซีนด้วยซ้ำ

แต่ที่แปลกไปก็คงเพราะคราวนี้ ‘พี่หนู’ ไม่ได้ลงจากตึกพร้อม ‘น้องอิ๊งค์’​ เหมือนสัปดาห์ก่อนๆ แล้วต้องมายืนรอแบบทำตัวไม่ถูก และแทบไม่มีปฏิสัมพันธ์คอยหยอกเย้าผู้สื่อข่าวตามถนัดเลย แล้วยังไม่พยายามแทรกไปยืนข้าง ‘นายกฯอิ๊งค์’ อย่างเคย

ที่ ‘เสี่ยหนู’​ ดูว้าวุ่นใจขนาดนี้ ก็ไม่รู้ว่าเพราะยังไม่มีสัญญาณจาก ‘นายกฯอิ๊งค์’ หรือรู้ตัวแล้วว่า รอบนี้จะไม่ได้สัญญาณ แล้วต้องย้ายไปฝั่งตรงข้าม ตามธงที่ตีออกมาจาก ‘บ้านจันทร์ส่องหล้า’ ตั้งแต่ต้น.

<<<<<<<>>>>>>>>>