ตรีชฎา ศรีธาดา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ฝ่ายการเมือง เปิดเผยว่า หลังจาก สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษใช้สิทธิ์วีโต ยับยั้งมติแพทยสภา กรณีลงโทษแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลรักษา ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าพักรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ
โดย สมศักดิ์ได้ส่งหนังสือไปยังแพทยสภา เพื่อแสดงความไม่เห็นด้วยกับมติที่ลงโทษพักการใช้ใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมการแพทย์ 2 รายฐานผิดจริยธรรม ปรากฎมีการออกมาวิพากษ์วิจารณ์กล่าวหาสมศักดิ์ เช่น รังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน , นพ.ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล สมาชิกวุฒิสภา , สุริยะใส กติศิลา คณบดีวิทยาลัยผู้นำ และนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลับรังสิต , นันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ซึ่งมิใช่เรื่องแปลก หรือน่าตื่นเต้นอะไร
เพราะ ปกติคนเหล่านี้หลายคนโกรธเกลียดและอาฆาตแค้นทักษิณ ไม่พอใจพรรคเพื่อไทย-คนเสื้อแดง มาตลอดเกือบ 20 ปี ไม่ว่าจะเหตุการณ์อะไร ก็จะพากันออกมาหากล่าวหา โจมตีอยู่ร่ำไป โดยไม่สนใจว่า บ้านเมืองไปไกลถึงไหนแล้ว ขาประจำก็จะยังติดหล่มอยู่กับการจะเล่นงานทักษิณไม่จบไม่สิ้น ที่น่าเสียใจอย่างยิ่งก็คือ อารมณ์ความรู้สึกแห่งมิจฉาฐิติเช่นนี้ปรากฎในหมู่สมาชิกแพทยสภา เป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้ ควรจะต้องมีการตรวจสอบ สอบสวนให้ได้ข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินการทางจริยธรรมวิชาชีพแพทย์ต่อไป
ชี้แชทหลุดแพทยสภา กระทบความน่าเชื่อถือ ปมลงโทษแพทย์ไม่โปร่งใส
ตรีชฎา ยังระบุถึงกรณีแชทหลุดกลุ่มไลน์แพทยสภา ที่มีเนื้อหาเชิงการเมืองและอาฆาตทักษิณ ซึ่งอาจกระทบความเป็นธรรมในการลงมติลงโทษแพทย์ 3 ราย และบั่นทอนความน่าเชื่อถือของแพทยสภา
ส่วนกรณีที่ รมว.สาธารณสุข ใช้อำนาจวีโต้ มติแพทยสภา ตาม พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม มาตรา 25 นั้น เป็นการใช้สิทธิ์ภายหลังได้รับร้องเรียนจากแพทย์ที่ถูกลงโทษ พร้อมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ พบกระบวนการบางส่วนไม่โปร่งใส และขอเอกสารจากแพทยสภาแล้วไม่ได้รับการตอบกลับ
ทั้งนี้ หากกรรมการแพทยสภายืนยันจะลงโทษพักใช้ใบอนุญาต 2 แพทยสภาต้องมีมติไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 หรือไม่น้อยกว่า 46 คน และไม่ว่าผลออกมาเป็นเช่นไรก็ต้องปฏิบัติไปตามนั้นตามกฎหมาย
“กลุ่มคนเกลียดอาฆาตแค้นนายทักษิณที่กล่าวหา โจมตีนายสมศักดิ์นั้นไม่ศึกษา ไม่เข้าใจกฎหมาย และมีแต่อคติ ต้องการความสะใจเพียงอย่างเดียว อยากให้แต่ละคนย้อนกลับไปดูตัวเองเสียก่อนว่าปฏิบัติตน ทำหน้าที่ได้เป็นปกติหรือมีปัญหาอะไรหรือไม่ การที่จะออกมากล่าวหาคนอื่น และขั้นตอนจากนี้ไปเป็นหน้าที่ของแพทยสภาว่าผลจะออกมาเป็นเช่นไร ไม่ควรเอาการเมืองเข้ามาเกี่ยว”
— ตรีชฎา กล่าว
