‘ปชน.’ ติง ‘ขอเยียวยาแผ่นดินไหว’ มากขั้นตอน

24 เม.ย. 2568 - 05:19

  • ‘ศุภณัฐ’ มอง ‘เงินเยียวยาแผ่นดินไหว’ ต่ำไปไม่สอดคล้องความเป็นจริง

  • ถึงกับร้อง ‘โห’ ชี้บางคน ‘เสียหายหลักแสน’ แต่ได้มา ‘หลักพัน’

  • พร้อมติง ‘มากขั้นตอน’ จ่อขอยืดระยะเวลาขอเยียวยาไปอีก 1 เดือน

Suphanat_criticizes_the_process_of_requesting_compensation_for_earthquake_SPACEBAR_Hero_2ad1b47cf6.jpg

ศุภณัฐ มีนชัยนันท์ สส.กทม. พรรคประชาชน ในฐานะเลขานุการคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีติดตามความคืบหน้าการเยียวยาประชาชนจากเหตุแผ่นดินไหว ว่า ทราบมาว่าเมื่อวันที่ 22 เมษายนที่ผ่านมา แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เรียกหน่วยงานไปสั่งการว่าให้ราคาการประเมินให้สอดคล้องกับความเสียหายจริง

โดยในส่วนของ กมธ.พัฒนาเศรษฐกิจฯ ที่ติดตามคือในส่วนของกระบวนการก่อนการเยียวยา เช่น เรื่องที่จะต้องไปแจ้งความก่อนที่จะไปสำนักงานเขต เรื่องที่ต้องใช้เอกสารเยอะเกินไป หรือแม้กระทั่งการไม่เปิดให้มีการยื่นออนไลน์ ซึ่งทำให้เกิดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ก็ต้องเดินทางมาประเมินสถานที่ ค่าดำเนินการต่าง ๆ อย่างต่ำอาจจะเป็น 1,000–2,000 บาท แต่สิ่งที่ได้รับกลับต่างกันไป

เงินที่รัฐบาลสนับสนุนมาเป็นค่าวัสดุอย่างเดียว ราคาอาจจะต่ำไปด้วยซ้ำ และค่าแรงนั้นไม่มีให้ จึงเป็นที่มาให้นำเรื่องนี้เข้า กมธ. เพื่อเรียกหน่วยงานมาพูดคุยกันว่าหลักเกณฑ์เป็นเช่นไร สามารถปรับให้สอดคล้องกับความเสียหายของประชาชนได้หรือไม่

ศุภณัฐ มีนชัยนันท์

เมื่อถามว่า การปรับค่าเสียหายนั้นสามารถแก้ไขข้อกฎหมายได้หรือไม่? ศุภณัฐ กล่าวว่า จริง ๆ ที่เข้าใจคือเป็นเรื่องระเบียบ สามารถแก้ไขได้เลย รัฐมนตรีเซ็นก็ออกมาได้เลย ไม่ได้อยู่ในระดับพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ดังนั้น สามารถดำเนินการได้เลย ก็เชียร์ให้ทำ และควรครอบคลุมค่าแรงบางส่วนด้วย ควรมีเรื่องเงินเยียวยาขั้นต่ำ เพราะเรามีค่าดำเนินการก่อนที่จะได้รับเงินเยียวยาจำนวนมาก ซึ่งเงินที่เยียวยานั้นอาจจะไม่ได้ตอบโจทย์”

เมื่อถามว่า ค่าเยียวยาที่ตั้งไว้สูงสุด 49,500 บาท จากการสำรวจมีคนได้รับมากที่สุดเท่าไหร่? ศุภณัฐ ถึงกับอุทานว่า โห...ผมเห็นบางคนเสียหายเป็นแสน แต่ได้มาไม่ถึงพัน พูดง่าย ๆ คุณคงต้องมีสภาพคล้ายตึกสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ก่อน จึงจะได้ 49,500 บาท แต่เชื่อว่าความตั้งใจที่สภาฯ ตั้งไว้ เราก็อยากให้รัฐบาลได้จ่ายจริงในส่วนของคนที่มีความเสียหายเยอะ แต่เมื่อหลักเกณฑ์ไปออกโดยรัฐบาล ก็กลายเป็นว่าไปออกหลักเกณฑ์ที่กดราคาลงมา ทำให้สุดท้ายการจ่ายจริงอาจไม่ตรงตามเป้าประสงค์ที่สภาฯ ได้ออกไปก่อนหน้านี้”

เมื่อถามว่า ยอดตกค้างที่ยังไม่ได้ยื่นมีอีกเยอะหรือไม่? ศุภณัฐ กล่าวว่า สำหรับคนที่ยังไม่ได้ยื่น มีกรอบเวลาถึงวันที่ 27 เมษายนนี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในประเด็นที่ กมธ. จะมีการพูดคุยกับหน่วยงานว่า อยากให้มีการขยายระยะเวลาที่ยื่นไปอีก 1 เดือนได้หรือไม่ เพื่อให้ประชาชนที่อาจจะไม่ทราบข่าวสามารถยื่นได้ทัน หรือหากไม่ทันจริง ๆ รัฐบาลก็ต้องเร่งประชาสัมพันธ์

แต่หากเร่งประชาสัมพันธ์ก็จะขัดกันตรงที่ว่า เงินที่ประชาชนได้รับการเยียวยาในขณะนี้ไม่ตอบโจทย์ อาจจะทำให้ประชาชนเปลี่ยนใจ

จากที่เห็นหลายคนรีวิวว่า ได้เพียง 700 กว่าบาท ก็อาจจะเปลี่ยนใจไม่ยื่นแล้ว ฉะนั้น รัฐบาลจึงต้องให้ความมั่นใจว่าสามารถปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์ได้ทันหรือไม่ในช่วงระยะเวลาเดดไลน์ (Deadline) หรือหากจะปรับเปลี่ยนหลังจากนี้ สามารถมีผลย้อนหลังได้หรือไม่

ศุภณัฐ มีนชัยนันท์

เมื่อถามว่า การจ่ายเงินเยียวยาอาจจะไม่ทันกรอบ 3 เดือน มีข้อเสนอแนะใดหรือไม่? ศุภณัฐ กล่าวว่า ความโชคร้ายอย่างหนึ่งคือต้องให้เจ้าหน้าที่โยธาไปดูแต่ละบ้านเป็นจำนวนมาก ทำให้กว่าจะสามารถนัดกันได้ เวลาไม่ตรงกัน ทำให้เกิดความวุ่นวาย

คิดว่าหากดูในภาพรวมแล้ว ความเสียหายไม่ได้เยอะ อาจจะให้ส่งแค่คลิปวิดีโอไปได้หรือไม่ เพราะหลายคนซ่อมเรียบร้อยแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ก็ดูจากวิดีโอที่ส่งไปว่าใช่หลังเดียวกันหรือไม่ โดยหากอัดคลิปดี ๆ ตั้งแต่หน้าห้อง ให้เห็นเลขห้องในกรณีที่ความเสียหายไม่เยอะ เจ้าหน้าที่ก็ไม่จำเป็นต้องไปพิสูจน์ที่หน้างาน ก็จะทำให้สามารถลดระยะเวลาการไปพิสูจน์ความเสียหายของเจ้าหน้าที่ได้ เช่น เขตจตุจักร คนยื่นเยอะมากประมาณ 5,000 เคส ซึ่งหากไม่ใช้คนอื่นเข้ามาช่วย จะได้รับการพิจารณานาน แต่ในบางเขต เช่น เขตบางเขน มีเคสแค่ไม่กี่ร้อย การพิจารณาก็ทัน

ศุภณัฐ มีนชัยนันท์

เมื่อถามว่า นอกจากในส่วนของ กมธ.พัฒนาเศรษฐกิจแล้ว คณะกรรมการชุดใหญ่ที่พรรคปชน. ตั้งมาจะดำเนินการอะไรหรือไม่? ศุภณัฐ กล่าวว่า มีการติดตามและเรียกร้องไปตามสื่อมวลชน และอีกส่วนหนึ่งอาจจะต้องมีการทำหนังสือยื่นไปยังหน่วยงานต่าง ๆ ซึ่งได้ยื่นไปแล้ว เนื่องจากได้รับมอบหมายจากพรรคให้ดูแลเรื่องเงินเยียวยาโดยตรง

เมื่อถามถึงกรณีที่มีการเปิดเผยเรื่องแปลนตึก สตง. ก่อนหน้านี้ ความคืบหน้าในการตรวจสอบเป็นอย่างไรบ้าง? ศุภณัฐ กล่าวว่า เรื่องนี้ สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เป็นคนตรวจสอบ ไปหาใครมีข้อมูลอะไรก็ส่งไป เพราะเรามีคณะทำงานร่วมกัน

เมื่อถามว่า มองการทำงานหน้างานในการกู้ซากตึก สตง. เป็นอย่างไร? ศุภณัฐ กล่าวว่า ก็โอเค...ผู้ว่าฯ กทม. ก็ทำงานได้ดี เพราะเป็นสถานการณ์ที่ไม่เคยมีใครเจอมาก่อน ถือเป็นงานยาก โดยที่เจ้าหน้าที่ต่างชาติที่เข้ามาช่วยก็บอกว่า เป็นเรื่องใหญ่มากที่อาคารทั้งหลังและมีขนาดใหญ่เช่นนี้จะร่วงลงมาทั้งหมด”

ส่วนที่มีข้อวิจารณ์ว่าเศษปูนที่ถล่มลงมา เมื่อโดนฝนแล้วทำให้เกาะตัวกันมากขึ้น แล้วรื้อถอนได้ยาก มีข้อกังวลหรือไม่? ศุภณัฐ กล่าวว่า ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญที่อยู่หน้างานเป็นคนดู แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นข้อกังวลคือการสืบหาข้อเท็จจริง เพราะบางอย่างอาจต้องใช้หลักฐานอยู่หน้างาน เพราะหากไม่มีการแบ่งหน้าที่กันที่ชัดเจน สุดท้ายหลักฐานบางอย่างอาจได้รับผลกระทบ

เมื่อถามว่า จุดประสงค์ของ กมธ. คือต้องการให้รัฐบาลเยียวยาประชาชนโดยเร็วใช่หรือไม่? ศุภณัฐ กล่าวว่า โดยเร็วด้วย และสอดคล้องกับความเสียหายที่เกิดขึ้น และรอบหน้าควรมีการยื่นออนไลน์ได้แล้ว แม้ครั้งนี้เราอาจจะพลาดไป แต่ขอพลาดเป็นครั้งสุดท้าย เพราะเอกสารบางอย่าง รัฐก็มีอยู่แล้ว

อย่างบัตรประชาชนหรือทะเบียนบ้าน หน่วยงานรัฐต้องมีอยู่แล้ว โฉนดที่ดินก็มีอยู่ในระบบอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องให้ประชาชนเตรียมใหม่ แค่ให้ส่งภาพความเสียหาย ซึ่งแบบฟอร์มไม่ควรมี 6 แบบฟอร์ม แต่ควรมีแค่ 1 แบบฟอร์ม ไม่เช่นนั้นค่าดำเนินการก็จะสูงเกินไป

ศุภณัฐ มีนชัยนันท์

อ้างอิง

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์