‘ศุภชัย’ จี้ออกหมายจับนำ ‘ณฐพร’ ‘คดีฟอกเงิน’ ให้ทันก่อนสิ้นอายุความ

27 พ.ค. 2568 - 08:15

  • ยังนิ่งเจอร้อง ‘ป.ป.ช.’ แน่ !‘บังซุป’ โชว์เอกสารจากอัยการ 2 รอบ จี้ ‘ดีเอสไอ’ ออกหมายจับนำตัว ‘ณฐพร’ มาฟ้องศาลคดี ‘ฟอกเงิน ส.คลองจั่น’ ให้ทันก่อนหมดอายุความ 15มิ.ย.นี้

  • บี้ ‘ชูศักดิ์’ กำกับดูแลนำผู้ต้องหามาลงโทษ - สอบ ‘อธิบดีกรมสอบสวนฯ’ ส่อละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

‘ศุภชัย’ จี้ออกหมายจับนำ ‘ณฐพร’  ‘คดีฟอกเงิน’ ให้ทันก่อนสิ้นอายุความ

‘ศุภชัย ใจสมุทธ’ ฝ่ายกฎหมายพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า จากการติดตามข้อมูลพบว่าสำนักงานอัยการสูงสุดได้หนังสือจาก ‘ไวยกาญจน์ จามิกรณ์’  อัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ  4  จำนวน 2 ฉบับ ถึง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ   (ดีเอสไอ)   เพื่อนำตัวผู้ต้องหา มาดำเนินคดี ฟอกเงินการขายที่ดิน ของ ‘ศุภชัย ศรีศุภอักษร’ อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น วงเงิน 477 ล้านบาท  โดยมี  ‘ณฐพร โตประยูร’ อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน  เป็น 1ใน 14 ผู้ถูกกล่าวหาด้วย

โดยหนังสือฉบับแรกลงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2568 เรื่อง “ขอให้จัดการให้ได้ตัวผู้ต้องหา”  โดยมีรายละเอียด  ว่า  พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 4 ได้พิจารณาสำนวนคดีดังกล่าวแล้วมีคำสั่งฟ้อง ณฐพร  ผู้ต้องหาที่ 2   และ ผู้เกี่ยวข้อง ในความผิดฐานสมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542   และ  ประมวลกฎหมายอาญา  แต่เนื่องจากมีพฤติการณ์หลีกเลี่ยงไม่มารายงานตัวต่อพนักงานอัยการตามกำหนดนัด   ด้วยเหตุดังกล่าว จึงขอให้ท่านจัดการติดตามให้ได้ตัวณฐพร มาฟ้องต่อศาล หากไม่สามารถติดตามตัวณฐพร  มาได้ให้ดำเนินการขอออกหมายจับผู้ต้องหาดังกล่าว เพื่อให้ได้ตัวมา ยื่นฟ้องต่อศาล ภายในกำหนดอายุความ15 ปี นับแต่วันกระทำความผิด และหากตรวจสอบแล้วพบว่าผู้ต้องหา ดังกล่าวอยู่ต่างประเทศให้จัดการให้ได้ตัวมาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา   โดยเคร่งครัด และตรวจสอบประวัติการกระทำความผิดให้ครบถ้วน อนึ่ง คดีนี้มีกำหนดขาดอายุความในวันที่ 15 มิถุนายน 2568   

ศุภชัย กล่าวต่อว่า จากนั้นมีหนังสือฉบับที่สอง ลงวันที่  1 พ.ค. 2568   ถึง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ  เรื่อง  “เตือนให้จัดการให้ได้ตัวผู้ต้องหาและขอออกหมายจับ”  ที่ได้ขอให้ ดำเนินการจัดการให้ได้ตัวณฐพร และ ผู้เกี่ยวข้อง  มาดำเนินคดี "ร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน"  หรือขอออกหมายจับ เพื่อพนักงานอัยการจะได้นำตัวผู้ต้องหาฟ้องต่อศาลต่อไป และบัดนี้ระยะเวลาได้ล่วงเลยมาเป็นเวลาพอสมควรแล้ว แต่พนักงานสอบสวนมิได้ดำเนินการ อย่างหนึ่งอย่างใด้ ทั้งมิได้รายงานหรือแจ้งผลการดำเนินการให้พนักงานอัยการทราบ เนื่องจากคดีนี้จะครบ กำหนดอายุความในการกระทำความผิดตามบทกฎหมายข้างต้นในวันที่15 มิถุนายน2568 ดังนั้น จึงขอให้ท่านดำเนินการจัดการให้ได้ตัว ณฐพร  และผู้เกี่ยวข้อง  มาเพื่อฟ้องต่อศาล  

จากเอกสารดังกล่าว ที่สำนักงานอัยการพิเศษ 4 สอบถามถึง2 ครั้ง แสดงว่าดีเอสไอ เพิกเฉยที่จะนำตัวณฐพร  มาให้อัยการ ดำเนินคดีฐานฟอกเงิน  ทั้งที่คดีดังกล่าวจะหมดอายุความในวันที่   วันที่ 15 มิถุนายน 2568   และทั้งๆ ที่ดีเอสไอก็พบเห็นบุคคลดังกล่าวอยู่ตลอด โดยณฐพรมาปรากฎตัวยื่นร้องเรียนเรื่องตามสถานที่ต่างๆ เป็นที่รับรู้โดยตัวไป นอกจากนี้นายณฐพรยังยืนยันด้วยว่าได้ข้อมูลเรื่องการสอบสวน ‘คดีฮั้วสว.’ มาจากดีเอสไอ โดยแสดงเอกสารให้เห็น จึงชี้ให้เห็นว่า อธิบดีเอสไอ หรือพนักงานสอบสวน ดีเอสไอพบกับ ณฐพร ดังนั้นการที่มีเหตุการดังกล่าวขึ้น แต่ไม่ดำเนินจับกุมตัวมาดำเนินคดี จึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ของดีเอสไอ  

“ขอเรียกร้องนายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ สั่งการให้ดีเอสไปนำตัว นายณัฐพร เพื่อส่งให้อัยการเพื่อดำเนินคดีฐานฟอกเงิน   ขณะเดียวกันให้เรียกร้อง กระทรวงยุติธรรม สั่งการให้ตรวจสอบเรื่องนี้ในทันทีและแถลงให้ประชาชนทราบ”

ฝ่ายกฎหมายพรรคภูมิใจไทย กล่าว

ศุภชัย กล่าวด้วยว่า หากยังมีการเพิกเฉยอยู่ตนก็จะไปร้องทุกข์กล่าวโทษอธิบดีดีเอสไอในฐานความผิดปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ในทันที 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์