ท่ามกลางย่านธุรกิจที่พลุกพล่านใจกลางเมืองอย่างราชประสงค์ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ ได้ริเริ่มโครงการ “From Rooftop Farm to Table” ด้วยการเปลี่ยนพื้นที่ว่างบนชั้น 26 ให้กลายเป็นแหล่งปลูกผักออร์แกนิกใจกลางกรุง ท่ามกลางวิกฤตโลกร้อน และความท้าทายด้านความมั่นคงทางอาหารที่ทวีความรุนแรงขึ้น โดยการใช้ทรัพยากรเมืองอย่างสร้างสรรค์เพื่อช่วยลดคาร์บอนฟุตพรินต์จากการขนส่งอาหาร พร้อมสอดรับกับ SDGs (Sustainable Development Goals) หรือเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งเป็นกรอบแนวทางการพัฒนาโลกที่กำหนดโดยองค์การสหประชาชาติ และแนวทาง ESG (Environmental, Social, Governance) ที่หลายภาคส่วนให้ความสำคัญมากขึ้น นับเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการออกแบบอนาคตอย่างมีวิสัยทัศน์ผ่านแนวทางสีเขียวที่ลงมือทำได้จริง

พลิกดาดฟ้าเป็นสวนผัก ใช้ทรัพยากรแนวตั้งอย่างชาญฉลาด
บนพื้นที่ขนาด 1,296 ตารางเมตรของดาดฟ้าชั้น 26 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ ได้จัดสร้างโรงเรือนปลูกผักระบบเปิด โดยออกแบบให้มีหลังคาโปร่งแสงและช่องระบายอากาศเพื่อให้เหมาะสมกับการเพาะปลูกแบบธรรมชาติ ที่นี่กลายเป็นแปลงผักออร์แกนิกที่ไม่ใช้สารเคมีตลอดกระบวนการปลูก ตั้งแต่การเตรียมดินจนถึงการเก็บเกี่ยว
สำหรับผักที่ปลูกมีหลากหลายชนิด อาทิ บัตเตอร์เฮด เคล กรีนโอ๊ค เรดโอ๊ค กรีนคอส และอิตาเลียนเบซิล ซึ่งทั้งหมดถูกดูแลและเก็บเกี่ยวโดยทีมงานของโรงแรม ก่อนจะส่งตรงสู่ห้องอาหารภายในโรงแรมเพื่อให้แขกได้ลิ้มรสผักสดจากฟาร์มแบบ “Zero Mile”
ผลผลิตจริง ลดต้นทุนจริง เพิ่มคุณค่าทางธุรกิจ
ข้อมูลจากปี 2567 ระบุว่าโครงการ From Rooftop Farm to Table สามารถผลิตผักออร์แกนิกได้มากถึง 3,776 กิโลกรัมตลอดทั้งปี และช่วยลดต้นทุนจัดซื้อวัตถุดิบของห้องครัวโรงแรมได้กว่า 897,000 บาท เมื่อเปรียบเทียบกับราคาท้องตลาด

“สิ่งที่เราทำไม่ใช่แค่การปลูกผัก แต่คือการปลูกความยั่งยืนที่เห็นผลได้จริง และตอบโจทย์การดำเนินธุรกิจในระยะยาว”
— คุณอรรณพ แก้วพุฒตาล ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไปศูนย์การประชุมและฝ่ายอาหารและเครื่องดื่มของโรงแรม กล่าวถึงโครงการ From Rooftop Farm to Tabl
อาหารสดที่ดีต่อสุขภาพและดีต่อโลก
แนวคิดเบื้องหลังโครงการนี้ไม่ได้หยุดอยู่แค่การให้บริการอาหารที่สดใหม่และปลอดภัย แต่ยังมุ่งลดคาร์บอนฟุตพรินต์ของแต่ละจาน ด้วยการลดระยะทางในการขนส่งวัตถุดิบ และใช้ทรัพยากรในพื้นที่อย่างคุ้มค่า
ที่สำคัญ โรงแรมยังพัฒนา “ระบบปิดแบบหมุนเวียน” โดยนำเศษอาหารจากห้องอาหารพนักงานมาเปลี่ยนเป็นปุ๋ยหมักอินทรีย์ ใช้สำหรับการเพาะปลูกรุ่นถัดไป ลดปริมาณขยะอินทรีย์ และลดการปล่อยก๊าซมีเทนจากการฝังกลบ ทั้งยังสอดคล้องกับนโยบายสิ่งแวดล้อมในระดับเมืองที่ต้องการลดขยะอินทรีย์จากกรุงเทพฯ ซึ่งผลิตมากถึง 9,000 ตันต่อวัน

สร้างต้นแบบให้ธุรกิจบริการในยุคเปลี่ยนผ่าน
จากการเป็นโครงการนำร่อง “From Rooftop Farm to Table” กำลังพัฒนาไปสู่ต้นแบบของ “โรงแรมสีเขียว” ที่สามารถขยายผลได้ทั้งในเครือเซ็นทาราและภาคธุรกิจบริการอื่นๆ โรงแรมมีแผนติดตั้งเครื่องผลิตปุ๋ยหมักเพิ่มเติม เพื่อยกระดับการจัดการทรัพยากรแบบครบวงจร รวมถึงจัดกิจกรรมส่งเสริมความรู้ด้านเกษตรอินทรีย์แก่พนักงาน และอาจขยายสู่ชุมชนในอนาคต
ในมุมมองของสิ่งแวดล้อม โครงการนี้สอดคล้องกับหลายข้อของเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ไม่ว่าจะเป็น
- SDG 2: ขจัดความหิวโหย ด้วยอาหารปลอดภัยจากแหล่งผลิตในเมือง
- SDG 11: เมืองและชุมชนที่ยั่งยืน ด้วยการใช้พื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ
- SDG 12: การบริโภคและการผลิตที่ยั่งยืน
- SDG 13: รับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ด้วยการลดของเสียและการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

เปลี่ยนดาดฟ้าให้เป็นแรงบันดาลใจ
แม้ From Rooftop Farm to Table จะเป็นเพียงจุดเล็กๆ บนตึกสูง แต่โครงการปลูกผักบนดาดฟ้าของเซ็นทาราได้สะท้อนถึงพลังของการลงมือทำ ที่สามารถเปลี่ยน “พื้นที่ว่าง” ให้กลายเป็น “พื้นที่มีคุณค่า” ทั้งในเชิงเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม
ในโลกที่การพัฒนาอย่างยั่งยืนไม่ใช่แค่เรื่องของนโยบาย แต่เป็นสิ่งที่ต้องลงมือทำจริง โครงการนี้จึงอาจกลายเป็นต้นแบบให้โรงแรม อาคารพาณิชย์ หรือแม้แต่ที่อยู่อาศัยในเมือง หันมาใช้ทรัพยากรที่มีอยู่รอบตัวอย่างคุ้มค่า
เพราะในวันที่โลกต้องการทางออกใหม่ การปลูกผักบนฟ้าอาจกลายเป็นก้าวเล็กๆ ที่เปลี่ยนเกมของธุรกิจ…สร้างคววามมั่นคงทางอาหาร และเปลี่ยนเมืองให้ยั่งยืนไปพร้อมกัน