ขณะที่เราโอดโอยกับสภาพอากาศที่ร้อนจัด แม่ไก่ก็ประสบภัยไม่ต่างกัน แถมอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นในช่วงเดือนเมษายนยังส่งผลให้บรรดาแม่(ไก่) “ไม่มีอารมณ์ไข่” จนปริมาณไข่ไก่ที่ออกสู่ตลาดลดลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งผลที่ตามมาคือ ราคาไข่ไก่ที่ขยับขึ้นอีกครั้ง
ล่าสุด เครือข่ายสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ ประกาศปรับราคาไข่คละหน้าฟาร์มขึ้นเป็นฟองละ 3.60 บาท หรือแผงละ 6 บาท มีผลตั้งแต่วันที่ 28 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นการขึ้นราคาครั้งที่สองในรอบเพียง 12 วัน หลังจากที่เพิ่งปรับขึ้นไปแล้วเมื่อวันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา (ครั้งละ 20 สตางค์ต่อฟอง)
แม่ไก่ร้อนจัด ไข่น้อยแถมเล็กลง
สมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่เปิดเผยว่า สภาพอากาศร้อนที่เกิดจากภาวะโลกร้อนกำลังส่งผลกระทบต่อสมรรถภาพการให้ไข่ของแม่ไก่ โดยไม่เพียงแค่ปริมาณไข่ลดลง แต่ยังได้ไข่ขนาดเล็กออกมาสูงถึง 60% ซึ่งไข่เบอร์เล็กนี้มีราคาขายต่ำกว่าเบอร์กลางและใหญ่ค่อนข้างมาก ส่งผลต่อรายได้ของเกษตรกรอย่างมีนัยสำคัญ
นโยบายปลดแม่ไก่ยืนกรง
อีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อปริมาณไข่ในตลาด คือการดำเนินนโยบาย “ปลดไก่ยืนกรง” ซึ่งรัฐขอความร่วมมือจากผู้เลี้ยงให้ทยอยปลดแม่ไก่อายุสูง เพื่อลดปริมาณผลผลิตไม่ให้ล้นตลาด รักษาสมดุลระหว่าง Demand-Supply ซึ่งแม้จะเป็นการบริหารจัดการที่ดีในภาพรวม แต่ก็ส่งผลให้ไข่ไก่ในตลาดลดลงในระยะสั้น
ต้นทุนพุ่ง ดันราคาไข่ตาม
ต้นทุนการผลิตก็ไม่น้อยหน้า เพราะอากาศร้อนยิ่งทำให้ฟาร์มต้องใช้พลังงานมากขึ้น ค่าไฟพุ่งสูง ขณะเดียวกันราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ก็ผันผวนตลอดเวลา ทำให้ผู้ประกอบการต้องขยับราคาขายให้สอดคล้องกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น
สุดท้ายผู้บริโภคเจอศึกหนัก แม้จะเข้าใจกลไกตลาด แต่สำหรับผู้บริโภคทั่วไปโดยเฉพาะในช่วงเปิดเทอมที่ใกล้เข้ามา การต้องซื้อไข่ไก่ในราคาที่ขยับขึ้นถึงสองรอบในเดือนเดียวคงไม่ใช่เรื่องสบายกระเป๋า โดยเฉพาะเมื่อไข่ไก่เป็นวัตถุดิบสำคัญในทุกครัวเรือน ร้านอาหาร โรงเรียน และโรงแรม
เวลานี้ยังต้องจับตาดูต่อไปว่า หากอากาศยังคงร้อนแบบไม่มีวี่แววลดลง และความต้องการไข่ไก่ยังสูงต่อเนื่อง จะมีการปรับราคาขึ้นอีกรอบก่อนเปิดเทอมหรือไม่