วิกฤตแผ่นดินไหวในเมียนมา ขนาด 7.7 เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา ถือว่ารุนแรงมาก คาดต้องใช้ระยะเวลานานในการฟื้นตัว รวมถึงชาวเมียนมาที่ประสบความยากลำบาก ต้องการความช่วยเหลือทุกมิติอย่างเร่งด่วน
บรรพต ก่อเกียรติเจริญ ที่ปรึกษาหอการค้าจังหวัดตาก แนะชาวอาเซียน ที่ต้องการช่วยเหลือชาวเมียนมา ว่า ศักยภาพอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ถือเป็นเมืองหน้าด่านพรมแดนที่เชื่อมต่อกับจังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมา ทุกประเทศที่ต้องการส่งความช่วยเหลือ สามารถเดินทางด้วยรถยนต์ ข้ามสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ผ่านถนนทางหลวงเอเชียสาย 1 ( AH-1) เข้าไปยังเมืองมัณฑะเลย์ ระยะทางเพียง 500-600 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7-8 ชั่วโมง และเดินทางต่อไปเนปิดอว์ และย่างกุ้งได้ด้วย
สำหรับ ถนน AH1 (Asian Highway 1) หรือเส้นทางหลวงเอเชียหมายเลข 1 (AH1) ถือเป็นเส้นทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญมาก เพราะเป็นหนึ่งในโครงการ Asian Highway Network ภายใต้การริเริ่มของ UNESCAP เพื่อเชื่อมโยงการค้าระหว่างประเทศอาเซียน-ยุโรป โดยวิ่งจาก โตเกียว (ญี่ปุ่น) ผ่านจีน, เอเชียกลาง, ตะวันออกกลาง ไปจนถึง อิสตันบูล (ตุรกี) และเชื่อมต่อเข้าสู่เครือข่ายถนนในยุโรป โดยที่ AH1 มีความยาวประมาณ 20,557 กิโลเมตร
ในประเทศไทย AH1 เริ่มจากด่านชายแดนที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ซึ่งเชื่อมต่อกับเมืองเมียวดีในประเทศเมียนมาร์ผ่านสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 1
ทั้งนี้ แม้ว่าไทยจะลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน AH1 อย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหาทางการเมือง-ความมั่นคงฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้ถนนต้องถูกเปิดปิดเป็นช่วงๆ เช่น ในช่วงเมืองกอกาเลก รัฐกะเหรี่ยง ถูกทหารของสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง KNU และ กองกำลังพิทักษ์ประชาชน PDF ยึดไว้เมื่อปีก่อน รวมถึงสะพาน Kaw Nwet ถูกระเบิดทำลาย ทำให้ไม่สามารถใช้เส้นทางไปตามปกติ
ดังนั้น ทางหอการค้าจังหวัดตาก จึงอยากขอให้ทางรัฐบาลไทย ได้ประสานรัฐบาลเมียนมา และฝ่ายต่อต้าน ให้คำนึงถึงหลักมนุษยธรรม พิจารณาให้กลับมาใช้เส้นทาง AH-1 และเร่งซ่อมแซมสะพาน เพื่อกลับมาใช้เป็นเส้นทางลำเลียงขนส่งสิ่งของบริจาค และเครื่องจักร อุปกรณ์ต่างๆ จากชาติอาเซียน ได้เข้าไปช่วยเหลือชาวเมียนมาได้อย่างรวดเร็วกว่าทุกเส้นทาง
“อยากจะเรียกร้องให้อาเซียนประกาศให้เป็นถนนเชฟตี้โซน เพื่อให้ทุกประเทศได้ใช้ประโยชน์จากเส้นทางนี้เข้าไปช่วยเหลือด้านมนุษย์ธรรมแก่ชาวเมียนมา และบริเวณสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 ก็มีความพร้อมที่จะตั้งเป็นศูนย์บรรเทาความช่วยเหลืออาเซียนได้”
— บรรพต กล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า กองทัพรัฐบาลเมียนมาได้ระงับการสู้รบกับฝ่ายต่อต้านเป็นการชั่วคราว มีผลตั้งแต่วันที่ 2 เม.ย. ไปจนถึง 22 เม.ย. 2568 เพื่อเพิ่มความรวดเร็วให้แก่ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว และฟื้นฟูความเสียหาย
