TAKUNI บุกตลาด EV ลุยมอร์ไซด์-จย.ไฟฟ้า ครบเช่าซื้อ

6 พ.ค. 2568 - 06:09

  • TAKUNI กลยุทธ์ใหม่! จากบริษัทขนส่งก๊าซธรรมชาติ สู่ผู้เล่นรายใหม่ในสมรภูมิ EV

  • ประกาศแผน บุกตลาด EV ขาย “จักรยาน-มอร์เตอร์ไซด์ไฟฟ้า” แบรนด์ TAILG ที่ราคาเข้าถึงง่าย เจาะตลาดต่างจังหวัดก่อน

  • พร้อมจับมือพันธมิตรสินเชื่อ หนุนแผนเช่าซื้อ หวังปั้นยอดขายปีนี้ 400 ล้าน

takuni_srategy_2025_ev_motorcycle_bicycle_electric_purchase_SPACEBAR_Hero_9ef9c6b2a7.jpg

จากบริษัทขนส่งก๊าซธรรมชาติสู่ผู้เล่นรายใหม่ในสมรภูมิยานยนต์ไฟฟ้า โดย ‘ทาคูนิ กรุ๊ป’ (TAKUNI GROUP PCL) บริษัทสัญชาติไทยแท้ จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ยกระดับภาพลักษณ์ครั้งใหญ่ในปี 2568 โดยประกาศเปิดเกมบุกตลาด จักรยานไฟฟ้า–มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า พร้อมโมเดลธุรกิจที่ชูจุดขาย “เช่าซื้อเข้าถึงง่าย ขายง่าย ขยายเร็ว”

TAKUNI ผู้เล่นรายใหม่ในสมรภูมิ EV

ดร.กฤตพงศ์ อรชัยพันธ์ลาภ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัททาคูนิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TAKUNI เผย ‘ทาคูนิ กรุ๊ป’ ประกาศรุกตลาดยานยนต์ไฟฟ้าเต็มตัวในปี 2568 เริ่มด้วยจักรยานไฟฟ้าและมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ภายใต้แบรนด์ TAILGที่เป็นพันธมิตรระดับโลกจากจีน โดยเตรียมเปิดตัวสินค้าหลากหลายรุ่นในราคาจับต้องได้ พร้อมขยายเครือข่ายพันธมิตรและโชว์รูมให้ครบ 100 แห่งภายในปีนี้

takuni_srategy_2025_ev_motorcycle_bicycle_electric_purchase_SPACEBAR_Photo01_45e981cdba.jpg

“ตลาด EV ในไทยยังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านพลังงาน ‘ไฟฟ้าเข้ามาแทนน้ำมัน’ โดยเฉพาะจักรยานไฟฟ้าที่ได้รับความนิยมในต่างจังหวัด คาดว่าตลาดนี้มีขนาดกว่า 200,000 คันต่อปี TAKUNI จึงวางกลยุทธ์เริ่มต้นจากตลาดราคาประหยัดก่อนสร้างการรับรู้ และใช้บริการหลังการขายที่ครอบคลุมเป็นแต้มต่อ มองว่า ประมาณอีก 10 ปี จะมีความเป็นไปได้ ส่วนอีก 2 ปีข้างก็คิดว่าน่าจะทดแทนได้เต็มที่คงไม่เกิน 10% และขึ้นอยู่กับว่าใครจะมีส่วนแบ่งการตลาดเท่าไหร่”

ดร.กฤตพงศ์ กล่าวว่า ในส่วน ธุรกิจรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าของ กลุ่มทาคูนิ ตามแผนเดิมอาจล่าช้าออกไปบ้าง เพราะมีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อยทั้งในส่วนของตลาดมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่เติบโตช้ากว่าที่คิด และการหาพันธมิตรเพื่อสอดรับกับกลยุทธ์ทางธุรกิจที่เปลี่ยนไป ซึ่งทุกอย่างเริ่มอยู่ในทิศทางที่ดีขึ้นและมีแนวโน้มที่จะปรับตัวดีขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคตเขามองว่า ปัญหาที่ทำให้ตลาดมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในไทยเติบโตช้ากว่าที่ควรจะเป็น โดยเฉพาะในต่างจังหวัดเติบโตค่อนข้างช้า เนื่องด้วยระยะทาง ราคา และสถานีชาร์จหรือสถานีสลับแบตเตอรี่ยังไม่รองรับการใช้งาน แม้แต่ในกรุงเทพฯเองก็ตาม แม้จะมีระบบรองรับแต่ก็ยังไม่ครอบคลุมเพียงพอ

TAKUNI ผนึกพันธมิตร ‘สินเชื่อเช่าซื้อ’

อีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญคือการร่วมมือกับพันธมิตรด้านการเงินเพื่อปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อ ซึ่งปัจจุบันเป็นรูปแบบที่ผู้บริโภคนิยมถึง 80% ของการซื้อรถจักรยานยนต์ทั้งหมด โดย TAKUNI ตั้งเป้ายอดขายจักรยานและมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารวม 15,000 คันในปี 2568 หรือคิดเป็นรายได้ประมาณ 400 ล้านบาท

ดร.กฤตพงศ์ กล่าวว่าในช่วงครึ่งปีแรกจะกระจายรถจักรยานไฟฟ้าในราคาที่เข้าถึงได้ก่อน โดยเบื้องต้นจะเน้นกระจายสินค้าผ่านตัวแทนจำหน่ายและเครือข่ายพันธมิตร เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ในวงกว้าง เนื่องจากตัวแทนจำหน่ายมีเครือข่ายในการกระจายสินค้าอยู่เป็นจำนวนมากและสร้างการมองเห็นได้ไวยิ่งขึ้น

takuni_srategy_2025_ev_motorcycle_bicycle_electric_purchase_SPACEBAR_Photo03_a2c11a4362.jpg

“ภาพเล็กของเราในปีนี้คือการทำให้ลูกค้ารู้จักเราก่อน และภาพใหญ่ต่อจากนั้นคือตลาดรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าไทยที่ประมาณ 1.8 ล้านคัน เราทำทุกอย่างเพื่อก้าวขึ้นไปอีกขั้นในปีต่อไป โดยทาคูนิคาดหวังว่าการเติบโตจะเป็นไปตามที่คาดภายในปีนี้ จะออกผลิตภัณฑ์ให้ครอบคลุมทุกการใช้งาน ขยายสาขาเครือข่ายพันธมิตร 100 แห่ง พร้อมยอดขายของจักรยานไฟฟ้าและมอเตอร์ไซด์ไฟฟ้ารวม 15,000 คัน”

“นอกจากนี้ เพื่อให้บริการครบวงจรยิ่งขึ้น การมีพันธมิตรในการปล่อยสินเชื่อให้จึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจ เนื่องจาก การซื้อจักรยานยนต์ในปัจจุบันเป็นสัดส่วนการเช่าซื้อกว่า 80% ซึ่งพันธมิตรที่เป็นที่รู้จักในธุรกิจเช่าซื้อ จะเข้ามาสนับสนุนการปล่อยสินเชื่อ และจะช่วยกระตุ้นให้ผู้บริโภคสามารถตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น”

ดร.กฤตพงศ์ กล่าว

takuni_srategy_2025_ev_motorcycle_bicycle_electric_purchase_SPACEBAR_Photo02_9791b67dec.jpg
อ้างอิง

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์