‘ทวี’ ตีกรรเชียงบอกไม่เคยได้ยิน “ยิ่งลักษณ์” จะกลับไทย

28 มี.ค. 2568 - 03:43

  • ‘ทวี’ ถามกลับทันที คาใจใคร! ลั่น “ฝ่ายค้าน” ก็อภิปรายแล้ว ปมชั้น 14 ปรามไม่มีหน้าที่ชี้มูล

  • บอกเปิดเวชระเบียนเพื่อใคร แพทยสภาก็เอาไปแล้ว โบ้ยถาม ‘ป.ป.ช.-แพทยสภา’ เอง

  • ตีกรรเชียงบอกไม่เคยได้ยิน ‘ยิ่งลักษณ์’ จะกลับไทย

  • ไม่กังวล ‘ศาลรัฐธรรมนูญ’ รับวินิจฉัยฝ่าฝืนจริยธรรม แทรกแซงรับคดี ‘ฮั้วเลือกสว.’

Tawee_gave_an_interview_about_Yingluck_returning_to_Thailand_SPACEBAR_Hero_9d91df004f.jpg

'พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง' รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีชั้น 14 ที่นายกรัฐมนตรีระบุว่าพร้อมเปิดเผยเวชระเบียน 'ทักษิณ ชินวัตร' อดีตนายกรัฐมนตรี ถามกลับว่า เปิดเพื่อใคร แพทยสภาก็เอาไปแล้ว ชื่อฝ่ายตรวจสอบก็ดำเนินการแล้ว จึงต้องส่งให้ฝ่ายตรวจสอบ คือคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และแพทยสภา  

เมื่อถามว่าทั้งสององค์กรนี้ได้รับเวชระเบียนแล้วหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี ระบุว่า ต้องไปถามทั้ง 2 องค์กร เพราะโดยหลัก ผู้มีอำนาจตรวจสอบจะดูพยานหลักฐานว่ามีแค่ไหนจึงจะไต่สวนได้ ก่อนจะถามกลับทันทีว่า คาใจใคร เพราะฝ่ายค้านก็ได้อภิปรายไปแล้ว ซึ่งฝ่ายค้านก็ทำหน้าที่ได้ดี แต่ไม่มีหน้าที่ ไปชี้ถูกชี้ผิดใคร ซึ่งในรัฐธรรมนูญกำหนดให้ ป.ป.ช. และแพทยสภาเป็นคนชี้มูลในเรื่องนี้  

ผู้สื่อข่าวถามว่าไม่จำเป็นต้องเปิดเผยเวชระเบียนใช่หรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ไม่มีหน้าที่และอำนาจต้องไปเปิด ต้องไปถามเอง  ส่วนเร็วๆ นี้ แพทยสภาจะมีการลงมติและหากผลออกมามีข้อพิรุธ สามารถใช้เป็นหลักฐานในชั้น ป.ป.ช.ได้หรือไม่ พ.ต.อ.ทวี ระบุว่าให้ไปถาม ป.ป.ช. ว่าจะใช้ได้หรือไม่ เพราะถ้าเป็นเรื่องแพทย์ ก็เป็นส่วนของแพทยสภา ส่วนตัวไม่กังวล เพราะทำตามกฎหมาย หน้าที่และอำนาจ ไม่มีอะไรที่ทำนอกเหนือ

เมื่อถามถึงการกลับมาของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ไม่เคยได้ยินเรื่องนี้

ปัดหนีประชุม ครม. เห็นชอบ Entertainment Complex แจง มีภารกิจล่วงหน้าอยู่แล้ว 

ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงการลาประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ว่าเกี่ยวข้องกับกรณีเรื่อง ร่างพระราชบัญญัติ  Entertainment Complex หรือไม่ ว่า ไม่เกี่ยวกัน แต่เนื่องจากก่อนหน้านั้นประมาณ 2 สัปดาห์ มีคนไทยใน 10 จังหวัดถูกกักอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย เพราะหนังสือเดินทางขาดเหมือนเป็นการหลบหนีเข้าเมือง ซึ่งเรื่องนี้มีการทำงานร่วมกันมานาน จึงไม่ทราบล่วงหน้ามาก่อนว่าจะมีประชุมคณะรัฐมนตรีในวันพุธ ซึ่งต้องนำตัวกลับมาในวันที่ 27 มี.ค. จึงได้ลาประชุมไว้ก่อนวาระการประชุมจะมา  

ส่วนจุดยืนเรื่อง Entertainment Complex ของพรรคประชาชาตินั้นเป็นอย่างไร พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า สส. มุสลิมในสภาฯที่ไม่ใช่แค่พรรคประชาชาติก็มองว่าขัดกับหลักศาสนา ซึ่งกฎหมายเข้าในสภาฯ ก็จะเป็นดุลพินิจของ สส. อยู่แล้ว ซึ่งต้องดูในทุกมาตรา เพราะกฎหมายฉบับนี้ผ่านการรับฟังความเห็นมาหลายรอ อย่างครั้งที่แล้วพรรคประชาชาติ ก็ได้ขออนุญาตพรรคร่วมรัฐบาลในส่วนของ สส. ที่เป็นมุสลิม 

เมื่อถามว่าย้ำจุดยืนของนายทวี มองเรื่องนี้ว่าจะมีผลดีหรือผลเสียมากกว่ากันนั้น พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ขอดูในตัวกฎหมายก่อน แต่รวม ๆ ในสมัยที่ยังเป็นการศึกษาเรื่องนี้ เห็นว่ากฎหมายเกี่ยวกับกาสิโนจะขัดกับหลักศาสนา แต่ก็ต้องขอดูในรายละเอียดก่อน  

ไม่กังวล ศาลรัฐธรรมนูญรับวินิจฉัยฝ่าฝืนจริยธรรม แทรกแซงรับคดีฮั้วเลือกสว. 

ขณะเดียวกันได้กล่าวถึงกรณที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 8 ต่อ 0 รับคำร้องของประธานวุฒิและสมาชิกรวม 92 คน ที่ขอให้วินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของ 'ภูมิธรรม เวชยชัย' รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ 'พ.ต.อ.ทวี' เหตุไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์และมีพฤติกรรมฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมร้ายแรง 

ว่าไม่มีความกังวล กระบวนการที่ส่งไปถึงศาลรัฐธรรมนูญเป็นกระบวนการที่ชอบจึงมีมติ 8 ต่อ 0 รับคำร้อง ถ้าไม่รับไม่ได้ เราต้องเคารพในศาลรัฐธรรมนูญ แต่เรามั่นใจในการปฏิบัติหน้าที่ และทำตามกฎหมาย ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องแรกที่ทำให้คณะกรรมการคดีพิเศษ หรือ กคพ. ถูกฟ้อง และศาลฎีกาเคยบอกไว้ว่า กคพ. เป็นคณะกรรมการโดยกฎหมาย ความเห็นที่ออกมาจึงไม่สามารถนำฟ้องร้องทางแพ่งได้ 

แต่กรณีเป็นการร้องด้านจริยธรรม ซึ่งเมื่อวานนี้เพิ่งได้รับหนังสือจากศาลรัฐธรรมนูญ พบว่าผู้เซ็นคำร้องเป็นประธานวุฒิสภา ซึ่งเป็นหนึ่งในรายชื่ออยู่ในโพยฮั้ว โดยปกติการฟ้องร้องคดีหากเป็นผู้ที่เป็นผลประโยชน์ทับซ้อนควรจะให้ผู้อื่นเซ็น  แต่อย่างไรก็ตามฝ่ายกฎหมายได้ทำหนังสือขอรายชื่อสมาชิกสว.ที่เป็นผู้ร้องทั้งหมด เพราะในคำร้องมีแต่รายเซ็น ไม่มีชื่อ เพื่อนำไปตรวจสอบว่าทั้ง 92 คน เป็นคนที่อยู่ในโพยฮั้วเลือก สว. หรือไม่ เพื่อจัดทำคำชี้แจงภายใน 15 วัน แต่ถ้าเอกสารบางอย่างยังไม่ได้ก็ต้องขอขยายเวลาเพิ่ม  

พ.ต.อ.ทวี ยังกล่าวว่า คำร้องของสว. หลายประเด็นคาดเคลื่อน แต่ถ้าจะบอกพูดเท็จก็แรงไป เช่น อ้างว่าเคยอยู่พรรคเพื่อไทยมาก่อน เหมือนพยายามจับโยงเพื่อทำให้เข้าใจคาดเคลื่อน และการกล่าวหาว่าเป็นการใช้อำนาจแทรกแซกฝ่านนิติบัญญัติน่าจะเข้าใจผิด เพราะกกต. ได้ทำหนังสือถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษ   หรือ ดีเอสไอให้เข้าไปช่วยเหลือในคดีฮั้วเลือกสว. ซึ่งเรามีหนังสืออยู่ในมือแล้ว ส่วนจะใช้เป็นข้อต่อสู้ด้วยหรือไม่ขอดูก่อน และในคำร้องหลายประเด็นมีการไปวินิจฉัยแทนศาลรัฐธรรมนูญในหลายเรื่อง

ดังนั้นจึงอยากเห็นข้อเท็จจริงก่อนทำคำชี้แจง อย่างไรก็ตามส่วนตัวเคารพศาล แต่ก็มีหน้าที่ในการทำคำชี้แจงข้อเท็จจริงให้ศาลวินิจฉัย

อ้างอิง

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์