‘พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง’ รมว.ยุติธรรม และหัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวถึงกรณีจะมีการถอนร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ออกจากวาระการประชุมในสภา ว่า จะเป็นผลดี และทราบว่า รัฐบาลจะมีการประชุมในวันนี้เพื่อขอให้ถอนร่าง ซึ่งรัฐบาลได้วิเคราะห์สถานการณ์ช่วงนี้ว่า อะไรที่สื่อสารแล้วทำให้ประชาชนเข้าใจคลาดเคลื่อน เพราะไม่อยากจะเติมเรื่องความขัดแย้ง ซึ่งการแถลงนโยบายเดิมคือ การสร้างสถานบันเทิงครบวงจร ไม่ใช่กาสิโน แต่ในร่างกฎหมายอาจมีคำนี้อยู่ การถอนจึงถือว่า เป็นเรื่องที่ดี
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองว่า ไม่ควรนำเสนอร่างดังกล่าวเข้ามาใหม่อีกใช่หรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า การบริหารประเทศวันนี้ต้องแก้ปัญหาวิกฤต กระทรวงยุติธรรมต้องแก้ไขปัญหาเรื่องหนี้สิน ยาเสพติด และการปราบปรามทุจริต ไม่ให้ใช้อำนาจอยู่เหนือกฎหมายทุกชนิด
พร้อมกล่าวถึงการออกหมายจับ ‘KOK AN’ คนสนิท ‘สมเด็จฮุน เซน’ ประธานวุฒิสภากัมพูชา ซึ่งเป็นขบวนการคอลเซ็นเตอร์ ว่า เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งคดีเกี่ยวกับการโกงออนไลน์ บัญชีม้ามีจำนวนมาก มีผู้ต้องขังที่รออยู่ระหว่างการพิจารณาถึง 80,000 คน และคนที่ได้รับโทษบัญชีม้าอาจจะเป็นเหยื่อด้วยซ้ำ
"การจัดการกับผู้ที่บงการ ผู้ที่อยู่เบื้องหลัง จึงมีความจำเป็น ซึ่งขบวนการคอลเซ็นเตอร์ต่างๆ ในไทยเราปราบปรามได้ แต่การปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ เราต้องทำตามกฎหมาย และอาจจะมีคดีอื่นๆ ที่ขยายผลตาม"
เมื่อถามถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์บุคคล 19 จุดทลายเครือข่ายนายทุนขบวนการคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ ‘KOK AN’ เชื่อมโยงฐานปฏิบัติการในเมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา และสามารถอายัดเงินได้กว่า 27 ล้านบาท พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เราไม่สามารถที่จะแก้เรื่องขบวนการคอลเซ็นเตอร์ที่มีความคล้ายกับเรื่องยาเสพติด เนื่องจากมีฐานการผลิตอยู่ในต่างประเทศ จึงต้องดำเนินการตามพยานหลักฐาน เมื่อถามว่า ‘KOK AN’ มีความใกล้ชิดกับสมเด็จฮุน เซน หรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เราดูตามหลักฐานว่าเป็นผู้กระทำความผิด
พ.ต.อ.ทวี กล่าวถึงการเร่งปราบปรามยาเสพติด ว่า เรื่องปัญหายาเสพติด ปัญหาใหญ่ของไทยคือ ยาบ้า ซึ่งไม่ได้ผลิตในประเทศ เราร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน และประเทศต่างๆ ที่ถูกตราหน้าว่า เป็นที่ตั้ง หรือเมืองหลวงของยาเสพติดให้มาช่วยกันปราบปราม รวมถึงพืชที่เรายกเลิกออกจากยาเสพติดคือ กัญชา วันนี้รัฐบาลได้ส่งสัญญาณว่า จะมีกฎหมายคุมเข้ม และทุกคนเห็นด้วยว่า การร่างกฎหมายใช้เวลาเป็นปีเพื่อมีมาตรการคุมเข้ม จึงต้องนำกฎหมายอื่น เช่น กัญชาเพื่อการแพทย์ เนื่องจากเรายังไม่มีกฎหมายห้ามนำกัญชามาจำหน่ายตามท้องถนน เช่นเดียวกับการขายน้ำกระท่อม ซึ่งถือว่า มีความผิด โดยได้รับการตอบรับจากทั้งนักวิชาการและประชาชน และที่สำคัญ มีความห่วงใยถึงตัวเลขผู้ที่ต้องเข้าไปบำบัดในเรื่องนี้ ซึ่งมีจำนวนสูงมาก หากปล่อยไว้ประชาชนจะอ่อนแอ ทั้งนี้ ยาเสพติดไม่ใช่ภัยแทรกซ้อน แต่ปัญหาภัยความมั่นคงแห่งชาติ เพราะถ้าคนไทยยังอ่อนแอ เต็มไปด้วยคนที่ติดยาเสพติด จะเป็นปัญหาใหญ่