เรื่องมันมีอยู่ว่า ‘ทางรอด เพื่อไทย’ ในวันที่ยังมีทางเลือก

19 มิ.ย. 2568 - 00:21

  • เรื่องมันมีอยู่ว่า เปิดความหมายที่ซ่อนเร้น

  • คลิปเสียง ลุง หลาน กลายเป็นเครื่องมือทำลายรัฐบาลเพื่อไทย

  • เสียงถามหาความรับผิดชอบกับข้อหาร้ายแรงมีแค่ ยุบสภาหรือลาออก

เรื่องมันมีอยู่ว่า ‘ทางรอด เพื่อไทย’  ในวันที่ยังมีทางเลือก

เรื่องมันมีอยู่ว่า   ทางเลือกของพรรคเพื่อไทย ในเรื่องคลิปลุงหลาน  กับความรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้นมีไม่มาก  ท่ามกลางการเรียกร้องแสดงท่าทีให้ชัดเจน 2  ทางเลือกคือ ลาออก หรือยุบสภา พรรคร่วมรัฐบาลที่ถูกถีบออกอย่างภูมิใจไทย  ก็ถีบคืนด้วยการประกาศถอนตัวออกจากรัฐบาล พบคำตอบในเรื่องมันมีอยู่ว่า

สถานการณ์พลิกผันอย่างไม่คาดฝันจาก ‘คลิปหลุด’  บทสนทนาที่ชัดเจนระหว่าง ‘ลุง-หลาน’ ที่ไม่จำเป็นต้องสืบสวนหรือฟังคำสารภาพให้เสียเวลา

เนื้อหาสาระไม่ซับซ้อน ฝ่ายหนึ่งพยายามแสวงหาทางออกเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งและป้องกันความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น โดยหลงลืม ‘โปรโตคอล’ ของการทูต การเมือง ระหว่างประเทศ  และเลือกใช้ ‘ลูกอ้อน’ เป็นอาวุธหลัก เพราะมองอีกฝ่ายเป็น ‘เพื่อนพ่อ’ นับถือเป็นญาติผู้ใหญ่ตามสถานะ ‘Uncle’ ที่ได้ยินตลอดคลิป

ขณะที่อีกฝ่ายกลับสงวนท่าที ไร้ซึ่งอารมณ์ ‘เอ็นดู’ อย่างน่าประหลาด มีแต่ชั้นเชิงอย่างผู้อาวุโส สลับกับยื่นข้อเสนอที่ล้วนแล้วแต่ตั้งใจ ‘ข่ม’ คู่สนทนาที่ยังไม่พ้นเลเวล ‘ละอ่อน’  ก่อนจะเฉลยในภายหลังว่าเป็นการขุดบ่อเพื่อ ‘ล่อ’ ให้อีกฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ

เรื่องทั้งหมดนี้จะไม่เป็นปัญหาเลย หากปลายสายฝั่งหนึ่งไม่ได้ชื่อ แพทองธาร ชินวัตร และไม่ได้‘สวมหมวก’ นายกรัฐมนตรีประเทศไทย

หลังเกิดเรื่อง ประเด็นแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วและไกลเกินกว่าที่จะไล่เบี้ยหาเหตุผลว่าเหตุใดแพทองธารจึงเดินไปตกหลุมพราง ‘เพื่อนพ่อ’ เข้าอย่างจัง

แต่กลายเป็นความอยากรู้ถึง ‘แอ็กชัน’ ของแพทองธาร ที่จะมีต่อกระแสสังคมซึ่งระดมถามหา ‘ความรับผิดชอบ’ ควบคู่ไปกับเสียงครหา ‘ขายชาติ’  ที่ดังกระหึ่มขึ้นเรื่อย ๆ

พร้อมกับปัจจัยเร่งอย่างการที่ ‘ค่ายสีน้ำเงิน’ พรรคภูมิใจไทย ฉวยจังหวะถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล ทั้งที่ลึก ๆ แล้วเหตุผลที่แท้จริงไม่ได้ใกล้เคียงกับเรื่องนี้เลย

ตามมาด้วยกระแสกดดันที่มีไปยัง ‘ฝ่ายขวา’ ในรัฐบาล ทั้งพรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคประชาธิปัตย์ ตลอดจนทุกองคาพยพที่เกาะเกี่ยวอยู่กับฝ่ายอำนาจ

ด้วยสถานการณ์เช่นนี้ หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงในระดับที่มี ‘นัยสำคัญ’ พรรคเพื่อไทยที่ยังอุ้ม ‘ทายาทนายใหญ่’ ไว้ คงกอดสถานะแกนนำรัฐบาลได้อีกไม่นาน อาจถูกบีบจนต้องตัดสินใจ ‘ล้างไพ่’ ไปว่ากันใหม่ในสนามเลือกตั้ง

ซึ่งเป็นทางเลือกที่หากเลือกได้คงไม่มีพรรคการเมืองไหนเลือก เพราะแต่ละพรรคคงยังไม่พร้อมที่จะกลับไป‘สาดกระสุน’ ใส่กัน บางพรรคแผลเก่าจากการเลือกตั้งปี 2566 ป่านนี้ก็ยังเคลียร์ไม่จบเลยด้วยซ้ำ

โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยเองที่เรตติงต่ำเตี้ย แถมยังไม่มีจังหวะตุนเสบียงได้ถนัดถนี่ หากรีบร้อนพกข้อหา ‘ขายชาติ’ ลงสนาม คงหมดสภาพ ‘มวยหลัก’

ทางรอดของพรรคเพื่อไทยจากสถานการณ์นี้คือต้องยอม ‘ตัดอวัยวะรักษาชีวิต’ แม้จะเป็น ‘แก้วตา-ดวงใจ’ ของ ‘เถ้าแก่’ อย่าง ‘นายกฯลูกอิ๊งค์’ ที่ไม่พ้นถูกเพรียกหา ‘ความรับผิดชอบ’ ไปจนกว่าจะเลือกทางใดทางหนึ่ง ‘ลาออก’ หรือ ‘ยุบสภา’

ในเมื่อการยุบสภาไม่ใช่ทางออกฉุกเฉินที่ดี ก็ต้องประเมินว่า หาก แพทองธาร ยอมลงจากบัลลังก์จริง ก็น่าจะยืดอายุรัฐบาลไปได้เป็นปี โดยสลับเอา ‘ชัยเกษม นิติสิริ’ แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย ขึ้นมาขัดตาทัพ

ตามด้วยสเตปแรกในการผลักดันร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ปี 2569 ที่สำคัญให้ผ่านและมีผลบังคับใช้ตามปฏิทิน

ตามด้วยสเตป 2 ถ่างเวลาให้ยาวไปอีก ด้วยการประกาศโรดแมปการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก่อนนำไปสู่การยุบสภา เพื่อลงสนามภายใต้กติกาใหม่ เนื่องจากกติกาปัจจุบันจำเป็นต้องปะผุหลายจุด สุ่มเสี่ยงเจอ ‘เกมนอกกติกา’ ที่อาจทำให้นักการเมืองต้องตกงานไปอีกหลายปี

การแก้ไขรัฐธรรมนูญภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ซึ่งมีการศึกษาแนวทางไว้แล้วว่า ต้องมีการทำประชามติถึง 3 รอบด้วยกัน

คาดการณ์ด้วยสายตา หากการแก้ไขรัฐธรรมนูญราบรื่นไร้ ‘ภาวะแทรกซ้อน’ แค่การทำประชามติก็กินเวลาไปเกินกว่า 1 ปี เมื่อบวกลบคูณหารก็เกือบครบเทอมของสภาฯ ชุดนี้

จึงน่าสนใจว่า ‘เถ้าแก่บ้านจันทร์ส่องหล้า’ ที่ยังพอมีโอกาสได้เลือกอยู่ จะเลือก ‘เกมสั้น’ ด้วยการกดปุ่มยุบสภาเพื่อเลือกตั้ง หรือ ‘เกมยาว’ ด้วยการเปลี่ยนคัวนายกฯ พร้อมผลักดันวาระแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นวาระแห่งชาติ

หากชักช้า ‘พ่อนายกฯ’ ไม่รีบให้ ‘ลูกอิ๊งค์’ ตัดสินใจ ก็น่ากลัวว่า จะมีใครเข้ามาตัดสินใจแทน

แต่ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับพรรคร่วมรัฐบาลที่ยังเหลืออยู่ โดยเฉพาะพรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคประชาธิปัตย์ว่า จะร่วมหัวจมท้ายด้วยหรือไม่

เพราะเสียงเรียกร้องจากกองเชียร์ เอฟซีของทั้งสองพรรคตามพรรคภูมิใจไทยกำลังดังขึ้นเรื่อยๆ

<<<<<<<>>>>>>>> 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์