‘ทักษิณ ชินวัตร’ อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าร่วมงาน SPLASH – Soft Power Forum 2025 ซึ่งจัดโดยรัฐบาลไทย ร่วมกับ สำนักงานส่งเสริมวัฒนธรรมสร้างสรรค เพื่อโชว์วิสัยทัศน์ในหัวข้อ Crafting the Future: From OTOP to ThaiWORKS and Beyond ภายในงาน SPLASH soft power forum 2025



อย่างไรก็ตามการปรากฏตัวของ ‘ทักษิณ’ ในวันนี้ถือเป็นการปรากฏตัวต่อสื่อมวลชนอย่างเป็นทางการครั้งแรก ภายหลังเงียบหายจากวงสัมภาษณ์สื่อไปนาน ตั้งแต่เกิดข้อพิพาท ระหว่างไทย-กัมพูชา เกี่ยวกับปมคลิปเสียงนายกฯที่คุยกับสมเด็จฮุนเซน หลุดออกมา และเมื่ออดีตนายกฯ เดินทางมาถึง ได้ทักทายแฟนคลับ ที่มารอต้อนรับ และยิ้มแย้ม โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆ กับสื่อมวลชน
อย่างไรก็ตามในงานดังกล่าว มี ‘แพทองธาร ชินวัตร’ นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อม ‘ปิฎก สุขสวัสดิ์’ คู่สมรา รวมถึง ‘พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์’ พร้อม ‘ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์’ สามี ร่วมรับฟังการโชว์วิสัยทัศน์ ในครั้งนี้ด้วย



โดยทักษิณ กล่าวแสดงวิสัยทัศน์บนเวทีว่าจุดเริ่มต้นของโอทอป รวมถึงได้มีการพูดถึงประเด็นที่เชื่อมโยงกับ ‘กระทรวงมหาดไทย’ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่เพิ่งผ่านกระแสเชื่อโยงกรณี ‘พรรคภูมิใจไทย’ ถอนตัวจากรัฐบาลด้วย
"วันนี้การแก้ปัญหาเศรษฐกิจยากกว่าสมัยก่อนเพราะหมักหมมมานาน แต่ก็ต้องแก้ เมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัวและงานไทยเวิร์คหรือโอทอปของเราขับเคลื่อนได้ วันนั้นคนรุ่นใหม่จะหันกลับเป็นช่องทางทำมาหากินอีกช่องทางหนึ่ง วันนี้มันอยู่ที่การเอาจริงเอาจัง หากรัฐเอาจริงเอาจัง ข้าราชการก็ร่วมมือ เมื่อข้าราชการร่วมมือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเมื่อก่อนนี้ไม่ให้ความร่วมมือ วันนี้กระทรวงมหาดไทยต้องร่วมมือเต็มที่ เป็นกระทรวงสำคัญที่จะนำนโยบายไปสู่ประชาชน นั่นคือผู้ว่าฯ นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เขาอยู่ติดชาวบ้านที่สุด ถ้าเขาร่วมมือปุ๊บทุกอย่างจะขับเคลื่อนได้ คนที่ช่วยขับเคลื่อนคือกระทรวงมหาดไทยต้องมูฟ”
— ทักษิณ กล่าว
อีกทั้งช่วงหนึ่งได้กล่าวถึง ‘อุตสาหกรรมภาพยนตร์’ ที่ตอนนี้คนใน Hollywood เริ่มซื้อสคริปต์หนังไทยไปแปลแล้ว เพราะคนไทยเขียนนิยายเก่งโดยเฉพาะ ‘การเมือง’ นิยายน้ำเน่าเยอะ ดังนั้นหากเราทำหนังดีๆ มีคุณภาพและเปิดตลาดให้กว้างขึ้นแล้วรัฐช่วยสนับสนุน โดยคุยกับสถาบันการเงิน ว่าต้องไฟแนนซ์กัน จะทำให้หนังไทยโตได้ ตลาดจะกว้างขึ้น ส่วนเรื่องการคืนภาษี ทำให้ต่างประเทศได้ก็ทำให้ คนไทยได้เช่นกัน สำหรับผู้สร้างภาพยนตร์ วันนี้ต้องทำสมองให้พัฒนาในการทำงาน อย่าไปพัฒนาการทำร้ายซึ่งกันและกันประเทศมันอยู่ไม่ได้



ทักษิณ ยังกล่าวด้วยว่า เด็กในสังคมเกาหลี มั่วสุม กันอย่างสร้างสรรค์ ถ้าเด็กเราถ้าส่งเสริมให้ไปสุมหัวกันเล่นดนตรีแข่งกันหรือซ้อมดนตรีเราควรต้องกระจาย เหมือนกับมวยต้องกระจาย ถ้าไปกระจุกที่เดียวก็ลำบาก ในเรื่องของบางกอกแฟชั่นเวฟวันนี้กำลังจะกลับมาเมืองไทยควรจะมีทุกอย่างที่ในโลกสากลมี
เมื่อถูกถามถึงการมองอนาคต Soft Power ของไทย มีอนาคตแค่ไหน ต้องขับเคลื่อนอย่างไร และจะขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยได้จริงหรือไม่ ทักษิณ กล่าวว่า
"ก่อนอื่นเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศนั่นคือความไม่สามัคคีมีความอิจฉา ริษยา ถ้าเราอยู่ด้วยความอยู่ด้วยความสามัคคีไม่อิจฉาริษยาเกื้อกูลกัน Soft Power จะมีพลังมหาศาล ถ้าคนไทยมีสิ่งเหล่านี้เมื่อรวมกันแล้วจะสามารถสร้างพลัง Soft Power ได้หลากหลายสาขาหลากหลายช่องทางนั่นคือช่องทางทำมาหากินทั้งนั้น แม้โลกจะมีเทคโนโลยีใหม่ ทันสมัยแค่ไหนก็หนีคำว่า Soft Power ไม่ได้ creative ยังใช้ได้ในโลกใบนี้ ทุกอย่าง ต้องไม่ทิ้งแกนเดิม เรามีของดีอยู่แล้ว เรามีคนไทยถึงมีสายเลือดใน ต้องเอามาใช้ให้เกิดประโยชน์ แต่สำคัญคือพอสร้างขึ้นพอคนนั้นเริ่มโตคนนี้มาอิจฉากันตรงนี้ต้องทิ้งไปบ้างเข้าวัดหน่อย"