วิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของ ทักษิณ ชินวัตร เปิดเผยภายหลังเข้าฟังการไต่สวนของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งการเมือง ในคดีพักรักศษาตัวนอกเรือนจำ รพ.ตำรวจ ชั้น 14 ว่า วันนี้เป็นวันที่ตนเองในฐานะทนายฝ่ายจำเลย ที่ศาลได้มีหมายนัดแจ้งมา เพื่อจะนัดพร้อมและนัดไต่สวน จากเดิมที่ยังไม่รู้ว่าศาลจะดำเนินกระบวนการพิจารณาอย่างไร วันนี้ศาลได้กำหนดแนวทางที่ชัดเจนแล้ว และศาลได้ไต่สวนพยาน 1 ปาก คือ ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และมีการซักถามพยาน แต่ศาลเห็นว่ายังมีข้อเท็จจริงอีกพอสมควรที่จะต้องแสวงหาความจริง และหลักฐานมาประกอบการวินิจฉัย
ทั้งนี้มีพยานบุคคลอีกกว่า 20 ปาก ที่ศาลเตรียมเรียกมาไต่สวน และให้โอกาสจำเลยด้วย โดยตนได้ยื่นเสนอพยานบุคคลเพื่อประกอบการชี้แจงต่อศาล และศาลก็ให้เขียนคำร้องเข้าไป และศาลจะพิจารณาว่าจะอนุญาตหรือไม่
วิญญัติ ย้ำว่า ศาลไม่ได้ฟังกระแสสังคมอย่างเดียว แต่ฟังพยานหลักฐานและพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องจริงๆ เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง แต่ยังบอกไม่ได้ว่าแนวทางเหล่านี้จะเป็นคุณหรือเป็นโทษ แต่ความจริงคือทักษิณมอบตัว ถูกหมายจำคุก และได้ถูกนำตัวเข้าเรือนจำ ไปอยู่ในแดนที่อยู่ในบริเวณของเรือนจำ ถือว่าได้อยู่ในกระบวนการบังคับโทษเบื้องต้นแล้ว
ต่อมาทักษิณป่วย ได้รับการตรวจอย่างน้อย 3 เวลา ตามมาตฐาน แต่แพทย์เห็นว่าเป็นโรคที่ต้องเฝ้าระวัง ก่อนจะถูกส่งตัวไปโรงพยาบาล และกระบวนการหลังจากนี้ก็เป็นการถูกจำคุกตาม มาตรา 55 ของ พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ฯ ถือว่าโรงพยาบาลเป็นสถานที่คุมขัง และยังอยู่ในความควบคุมของกรมราชทัณฑ์
เมื่อมีสิทธิประโยชน์ของผู้ต้องขัง เช่น การขอพระราชทานอภัยโทษ ทักษิณก็ใช้กระบวนการนั้น เมื่อถึงเวลาคณะอนุกรรมการพิจารณาการพักโทษ ซึ่งจะต้องเข้าเกณฑ์เป็นผู้ถูกคุมขังและเป็นนักโทษเด็ดขาด ซึ่งก็ผ่านกระบวนการของรัฐมาหมด จนทักษิณได้รับการพักโทษออกมา และต่อมาก็ได้รับการปล่อยตัวคุมประพฤติ เท่ากับทักษิณผ่านกระบวนการที่เกิดขึ้นภายใต้กฎหมายของประเทศไทยทั้งหมด
ทั้งนี้วิญญัติยังให้ขีดเส้นใต้ย้ำว่า "ทักษิณเป็นนักโทษเด็ดขาด ที่มีคุณสมบัติครบถ้วน ถึงผ่านการพิจารณาอภัยโทษ จึงได้รับการพิจารณาปล่อยตัว" ส่วนเรื่องมติแพทยสภา เป็นเรื่องหมอกับหมอ ก็ว่ากันไป มีข้อบังคับของตนเอง และจริยธรรมต่างๆ

เมื่อถามว่าแพทยสภาจะมีข้อเคลือบแคลงถึงความไม่เป็นกลาง หรือมีนัยยะใดหรือไม่ วิญญัติ กล่าวว่า ตนไม่มีความเห็น ขอยืนยันเพียงว่าเป็นคนละประเด็นกับที่ศาลไต่สวน เนื่องจากแพทยสภาก็ไม่เคยปฏิเสธว่านายทักษิณไม่ได้ป่วย มีเพียงเรื่องอาการวิกฤติหรือไม่ ซึ่งก็ไม่ใช่ประเด็น เพราะในกฎหมายไม่มีคำนี้ ดังนั้นแพทยสภาจะมีมติอย่างไร ก็เป็นเรื่องของแพทยสภา
แต่ตนเองเชื่อว่านายแพทย์ที่รักษาทักษิณ ใช้ดุลพินิจส่วนตัววินิจฉัยร่างกายของผู้ป่วย และดุลพินิจสามารถแตกต่างกันได้ในแพทย์แต่ละคน หากเป็นเรื่องผิดจริยธรรม ก็อาจเป็นมาตรฐานใหม่ของแพทยสภาหรือไม่ อย่างไรก็ตามแพทย์ทั้ง 3 คน ยังสามารถเรียกร้องความเป็นธรรมผ่านการยื่นศาลปกครองได้อยู่
ส่วนประวัติการรักษาตัวของทักษิณที่รักษาตัวในต่างประเทศ วิญญัติ ยืนยันว่า มีแน่นอน แต่ถือว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลสุขภาพ ที่ต้องได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย ที่ใครจะเอามาเปิดเผยได้ และทักษิณก็ไม่ยินดีที่จะเปิดเผยหรือให้ใครคัดลอกสำเนาแต่ได้มีการยื่นให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์และแพทย์ที่ทำการตรวจร่างกายแล้ว แพทย์มีการบันทึกไว้ในประวัติผู้ป่วยแล้ว ก่อนจะคืนประวัติให้เจ้าของ
ตอนนี้เมื่อศาลต้องการเห็นประวัติและร้องขอให้กรมราชทัณฑ์ส่งให้ ก็ต้องรอดูทางกรมราชทัณฑ์ ซึ่งศาลไม่ได้เรียกจากตนเอง แต่เรียกจากกรมราชทัณฑ์ แต่หากเรียกจากตนเอง ก็ต้องส่งให้ ซึ่งนายทักษิณก็มีสงวนสิทธิ์ไม่ส่งได้
ส่วนเรื่องใบเสร็จรักษาตัว ต้องถาม ชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ กับพวกว่าได้มาอย่างไร ซึ่งใบเสร็จเป็นเอกสารราชการ จึงขอให้ รพ.ตำรวจ ตรวจสอบเอาผิด คนที่ปล่อยเอกสารให้บุคคลภายนอก
ส่วนที่ชาญชัย ระบุว่า ใบเสร็จมีแต่ค่าห้อง ไม่มีค่ายานั้น วิญญัติ ชี้แจงว่า อย่าลืมว่า โรคของนายทักษิณ เป็นโรคเฉพาะด้าน ที่รักษาตั้งแต่อยู่ต่างประเทศแล้ว ไม่มีกฎหมายใดห้ามไม่ให้ใช้ยารักษาของต่างประเทศหรือหมอข้างนอก
สำหรับหลักฐานที่ศาลเรียกเพิ่มในวันนี้ มี 2 อย่าง คือ ประวัติการรักษาของนายทักษิณ เมื่อครั้งอยู่ต่างประเทศ และหลักฐานการเบิกจ่ายค่าตอบแทนในการเข้าเวรของผู้คุมเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ
ส่วนทีมทนายจะยื่นศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ วิญญัติ กล่าวว่า ถ้าเป็นเรื่องที่ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ อาจจะใช้สิทธิ์นั้น แต่ขณะนี้ยังอยู่ในกระบวนการที่อาจคิดได้ และมีช่องทางใดที่จะดำเนินการได้ ก็ต้องทำ

เมื่อถามว่าที่ศาลระบุว่าจำเลยไม่จำเป็นต้องมาแสดงตัวต่อศาล มีแนวโน้มที่ทักษิณจะไม่มาศาล จนจบกระบวนการไต่สวนใช่หรือไม่ วิญญัติ กล่าวว่า จำเลยมีสิทธิ์ที่จะปกป้อง การมาปรากฏตัวของทักษิณ ไม่ใช่สาระสำคัญ แต่นายทักษิณได้ปกป้องสิทธิ์ของตัวเองและชี้แจงแล้ว และการจะมาปรากฏตัวของทักษิณก็มีอย่างน้อย 2 ด้าน อยู่ที่ศาลจะมีหมายเรียกหรือไม่ เพราะมีกลุ่มคนที่จะนำไปขยายผลทางการเมือง และศาลก็ต้องเพิ่มมาตรการรักษาควมปลอดภัยให้มากขึ้น ซึ่งตนเห็นว่า ไม่ใช่เรื่องที่ต้องทำ แต่ศาลก็ย้ำแล้วว่าทนายมาทำหน้าที่แทนได้ เพราะได้แต่งตั้งมาแล้ว
เมื่อถามย้ำว่าแสดงว่าทักษิณจะไม่หลบหนีใช่หรือไม่ วิญญัติ กล่าวว่า “ผมไม่ทราบ ผมไม่ใช่ท่านครับ”
เมื่อถามย้ำว่าวันที่ 4 ก.ค.นี้ ในการไตสวนพยานเพิ่ม จะยื่นหลักฐานเพิ่มหรือไม่ วิญญัติ กล่าวว่า วันที่ 4 ก.ค. น่าจะเตรียมหลักฐานพร้อมหมดแล้ว
วิญญัติ กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนจะต้องรายงานให้ทักษิณทราบ ถึงผลการไต่สวนในวันนี้ ส่วนทักษิณมีท่าทีสบายใจ ไม่เครียดใช่หรือไม่ หลังเมื่อคืนนี้ (12มิ.ย.) ไปทานมื้อค่ำย่านท่าเตียน กทม. วิญญัติ กล่าวว่า ทักษิณ ยังอยู่ในเมืองไทย เพราะเป็นปุถุชนคนหนึ่ง เป็นประชาชาชนคนไทย ขออย่าเอาประเด็นของนายทักษิณ มาเป็นจุดศูนย์รวมของจักรวาล ควรไปฟ้องคนอื่นบ้าง ไปมองเรื่องอื่นบ้าง และทักษิณเข้ามา เพื่อทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติ ตามที่มีพระราชหัตถเลขา ทักษิณมีความรู้ ความสามารถ เป็นถึงอดีตนายกฯ จึงต้องทำให้ประเทศชาติบ้าง อย่าเอาบ้านเมืองหรือประเด็นอะไร มาทำให้ทักษิณเป็นเหยื่อทางการเมืองเลย
เมื่อถามว่าหลังจากนี้ทักษิณมีกำหนดการเดินทางไปต่างประเทศเพื่อช่วยนายกฯทำงานหรือไม่ วิญญัติ กล่าวว่า ต้องไปถามทักษิณเอง