ชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย , สมชาย แสวงการ อดีต สว. , นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ , นิติธร ล้ำเหลือ, ภิมะ สิทธิ์ประเสริฐ เดินทางมายื่นคำร้องเพื่อขอส่งมอบพยานหลักฐาน และข้อเท็จจริงต่างๆ กรณีที่ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้ารักษาตัวที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ ขณะถูกคุมขัง อันเป็นคำร้อง ตามที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำสั่งรับไว้ไต่สวนหาความจริงเอง ในวันที่ 13 มิ.ย.นี้
ชาญชัย กล่าวว่า แม้ศาลจะได้ยกคำร้องในส่วนของตน แต่ศาลได้เรียกหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องมาไต่สวนและให้ทุกฝ่ายทำคำชี้แจง ซึ่งตนไม่ได้รับหมายให้ส่งคำชี้แจงเพิ่ม แต่มีเอกสารที่เตรียมไว้ จึงอยากจะนำมาเสนอศาลเพื่อนำไปพิจารณาประกอบการไต่สวน ประกอบด้วยคำร้องของ สมชาย แสวงการ และ คำร้อง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ที่ร้อง ป.ป.ช. คำร้องของ นพ.ตุลย์ จึงขอให้ศาลได้ออกหมายเรียกพยานบุคคลและพยานเอกสารมาไต่สวน ซึ่งเป็นอำนาจของศาลในการเรียกไต่สวน
ชาญชัย กล่าวว่า ตนมีเอกสารชี้ชัดว่าทักษิณไปนอนที่ รพ.ตำรวจ 181 วัน ว่า ทักษิณ ไม่ได้ป่วยจริง เพื่อให้ศาลออกหมายเรียกไปกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ใบเสร็จรับเงินเวลาไปโรงพยาบาล ที่ทั้งโรงพยาบาลและทักษิณก็มีใบเสร็จ ที่พบว่าไม่มีค่ารักษาพยาบาล มีแต่ค่าห้องอย่างเดียว แล้วจะรักษาอะไร ต้องให้แพทย์ที่ออกใบเสร็จ ที่ศาลมีคำสั่งให้ชี้แจง ตนพูดตามหลักฐานที่ส่งให้ศาล
ด้าน สมชาย กล่าวว่า ตนได้นำเรื่องจากคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนและสิทธิเสรีภาพ วุฒิสภา ที่มีการนำข้อมูลจากแพทย์ รพ.ตำรวจ ผู้บัญชาการเรือนจำ ผู้อำนวยการทัณฑสถาน โรงพยายาลราชทัณฑ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม กสม. ผู้แทน ป.ป.ช. สมาชิกวุฒิสภามา ให้ข้อมูลทั้งหมด 12 ครั้ง ตั้งแต่ช่วงเดือน ก.ย. ถึง มี.ค. ระหว่างทำหน้าที่ มายื่นเป็นข้อมูลต่อศาลฎีกาฯ เป็นเอกสาร 222 แผ่น และส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. ดำเนินการกับผู้ที่เกี่ยวข้องในการช่วยเหลือทักษิณ
ประเด็นที่ยื่นส่งให้ศาลฯ เราทราบขั้นตอนทั้งหมดว่าไม่ได้มีการส่งตัวไป รพ.ราชทัณฑ์ แต่ไป รพ.ตำรวจ เลย ทรายถึงอาการต่างๆ ไม่มีการขออนุญาตศาล และการขออนุญาตอยู่ รพ.ตำรวจ ทุก 30-60-120-181 วัน และมีการพักโทษ พบข้อพิรุธจำนวนมาก ซึ่งเราไม่สามารถรู้ว่าทักษิณป่วยเป็นโรคอะไร อ้างสิทธิผู้ป่วย แต่ตาม รธน. ให้อำนาจ กมธ. เรียกข้อมูลได้ และไม่สามารถเรียกเอกสารเวชระเบียน-ใบเสร็จรับเงิน-ค่ารักษาพยาบาล-กล้องวงจรปิด-ใบรายงาน และภาพถ่ายที่ผู้คุม 4 คน ต้องรายงาน ผู้บัญชาการเรือนจำ วันละ 4 ครั้ง ก็ขาดอยู่ นอกนั้นมีเอกสารครบที่นำมายื่นให้ศาล จึงขอให้ศาลมีคำสั่งเรียกมาตรวจสอบเวชระเบียน-ใบเสร็จการรักษาตัว และกล้องวงจรปิดใน รพ.ตำรวจ มาตรวจสอบ
นพ.ตุลย์ กล่าวว่า สิ่งที่นำมาชี้แจงศาลฯ เพิ่มเติม เพราะที่ผ่านมามีการอ้างว่ามีส่งตัว ทักษิณ ไปรักษาตัวด้วยอาการป่วยวิกฤต ที่ รพ.ตำรวจ ตาม พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ฯ มาตรา 55 โดยมีการหักวันขัง แต่ทักษิณไม่ได้ป่วยวิกฤตตามที่อ้างไว้ และมีพิรุธหลายอย่าง เนื่องจากนักโทษที่จะได้รับสิทธิพักโทษนั้น จะต้องเป็นนักโทษชั้นดี แต่ทักษิณเป็นนักโทษชั้นกลางเท่านั้น ซึ่งไม่เข้าเกณฑ์ตาม พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ มาตรา 52 อีกทั้ง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ไปตอบกระทู้ในสภาผู้แทนราษฎรภาย เมื่อ 22ก.พ.66 หลังระยะเวลา 4 วัน หลังจากที่ทักษิณได้รับการปล่อยตัว ว่าทักษิณมีระดับการป่วยไม่ต่ำกว่าระดับ 11 แต่จากสภาพร่างกายทักษิณ ยังดูแข็งแรง ไม่ได้ป่วยติดเตียง
