‘มงคล สุระสัจจะ’ ประธานวุฒิสภา นำทีมคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา(วิปวุฒิสภา) ร่วมกันแถลงข่าวถึงผลการประชุมวิปวุฒิสภา เพื่อขอให้นายกรัฐมนตรี เปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ ให้มีการอภิปรายทั่วไปในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาเกี่ยวกับปัญหาข้อพิพาทเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา
มงคล กล่าวว่า ตามสถานการณ์ความขัดแย้งบริเวณชายแดนระหว่างประเทศไทยและกัมพูชา เมื่อวันที่28พ.ค.2568 จนถึงปัจจุบัน สถานการณ์ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ขณะที่ฝ่ายบริหารยังไม่มีความชัดเจนถึงแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่เหมาะสมกับสถานการณ์ ก่อให้เกิดความวิตกกังวลในประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ส่งผลกระทบต่ออำนาจอธิปไตยของประเทศและการรักษาผลประโยชน์ของชาติ โดยข้อเท็จจริงพบว่ามีกำลังทหารของกัมพูชาได้ล้ำเข้ามาบริเวณ ‘ช่องบก’ ในระยะทางถึง 200 เมตรพร้อมทั้งขุดแนว คูเรดซึ่งเป็นพื้นที่ที่อยู่ในราชอาณาจักรไทย แม้จะมีสัญญาณที่ดีจากฝั่งกัมพูชายินยอมถอยกำลังทหารกลับออกไปแต่เป็นเพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไม่ใช่การแก้ไขปัญหาระยะยาวอย่างถาวร
ประธานวุฒิสภา กล่าวต่อว่า วุฒิสภาตระหนักถึงแนวทางในการเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหาข้อพิพาทโดยสันติ แต่ต้องยืนบนหลักการแห่งความเคารพซึ่งกันและกันรวมทั้งปฏิบัติต่อกันด้วยความจริงใจและเท่าเทียมกันในฐานะมิตรประเทศจึงขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลให้ปฏิบัติหน้าที่และใช้อำนาจตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญอย่างเข้มแข็ง เพื่อรักษาเกียรติภูมิของประเทศโดยรับฟังความเห็นจากทุกฝ่ายและขอให้รัฐบาลยืนยันในการสงวนสิทธิ์ ไม่ยอมรับเขตอำนาจศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ
พร้อมกันนี้ ขอเรียกร้องไปยัง นายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าฝ่ายบริหารให้ดำเนินการเปิดสมัยประชุมวิสามัญตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยมาตรา 122 ประกอบมาตรา 175 เพื่อที่คณะรัฐมนตรีจะได้ดำเนินการเปิดอภิปรายทั่วไปในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อให้ฝ่ายบริหารได้แถลงข้อเท็จจริงทั้งหมดเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชา รวมถึงสาเหตุของปัญหาและแนวทางในการแก้ไขปัญหาทางระยะสั้นและระยะยาวและเปิดโอกาสให้สมาชิกรัฐสภาในฐานะผู้แทนปวงชนชาวไทยได้ร่วมกันเสนอแนวคิดแนวทางในการคลี่คลายสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อให้รัฐบาลได้นำไปเป็นข้อพิจารณาประกอบการตัดสินใจ ซึ่งต้องกระทำการอย่างเร่งด่วนเนื่องจากสถานการณ์ขณะนี้ไม่สามารถรอให้ถึงวันเปิดสมัยประชุมสามัญ ในวันที่ 3 กรกฎาคม 2568 ได้
นอกจากนี้ ขอส่งกำลังใจให้ข้าราชการทหารตำรวจและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในพื้นที่พิพาท ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ด้วยความกล้าหาญอิสระและเข้มแข็งเพื่อรักษาเกียรติคุณและปรับปรุงของประเทศในการรักษาความมั่นคงตามแนวชายแดนและรักษาผลประโยชน์ของประเทศลาวแบบประชาชน รวมทั้งส่งกำลังใจให้กับพี่น้องประชาชนชาวไทยที่อาศัยอยู่ในพื้นที่บริเวณนิ้วปลายนิ้วไทย- กัมพูชาให้คุณขวัญและกำลังใจที่เข้มแข็งและเชื่อมั่นว่าผู้ที่มีหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นความสามารถ เพื่อรักษาอำนาจอธิปไตยและผลประโยชน์ของชาติให้คงอยู่สืบไป ด้วยความเชื่อมั่นในศรัทธา "ไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด"
เมื่อถามว่ามีกรอบเวลาให้รัฐบาลพิจารณาหรือไม่ ประธานวุฒิสภา กล่าวว่า หากเป็นไปได้โดยเร็วที่สุดจะยิ่งดี อย่างน้อยเป็นพลังอันหนึ่งที่จะช่วยสนับสนุน ให้รัฐบาลได้มีความมั่นใจ และมีความมั่นคงว่า คนไทยทุกคน พร้อมที่จะร่วมมือร่วมใจกันกับรัฐบาล ในการรักษาผลประโยชน์อำนาจอธิปไตยของประเทศไทย
เมื่อถามถึงกรณีที่ขณะนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว มีการปรับกำลังพลในฝั่งกัมพูชาแล้ว มงคล กล่าวว่า เป็นเพียงปรากฏการณ์สถานการณ์เฉพาะพื้นที่ในหลักการจริงๆ แล้วยังไม่มีความชัดเจนเราจึงต้องติดตามสถานการณ์ต่อไปอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้คณะกรรมาธิการชุดที่เกี่ยวข้องของวุฒิสภา จะลงพื้นที่พบปะประชาชนตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เพื่อรับฟังความเห็น และสร้างความอบอุ่นใจให้แก่ประชาชน
แม้เบื้องต้นสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทางวุฒิสภามีข้อเรียกร้อง อะไรถึงรัฐบาลเพื่อไม่ให้เหตุการณ์เกิดขึ้นซ้ำ มงคล กล่าวว่า เราใช้วิธีการปรึกษาหารือให้กำลังใจซึ่งกันและกันเพราะนี่คือผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเราในฐานะเป็นองค์กรฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหารต้องรับผิดชอบร่วมกัน
ส่วนที่ว่าจะมีการกำหนดกรอบว่าจะต้องจัดประชุมวิสามัญภายในสัปดาห์นี้หรือภายใน 2 สัปดาห์นี้หรือไม่ มงคลกล่าวว่า เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องพิจารณา ส่วนการบริหารจัดการของฝั่งไทยนั้น ตนเชื่อว่าในการทำงานโดยเฉพาะฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายผู้ปฏิบัติในพื้นที่มีความชัดเจน ส่งผลให้การ ตัดสินใจของฝ่ายบริหารมั่นใจมากยิ่งขึ้น ผู้สื่อข่าวจึงถามต่อว่า ผู้ปฏิบัติหน้างานทำได้ดีกว่าฝ่ายบริหารใช่หรือไม่ มงคล กล่าวว่า ไม่ใช่เช่นนั้น แต่ทุกฝ่ายร่วมมือกันเปิดมีการปรึกษาหารือกัน
เมื่อถามต่อว่า หากมีการเปิดประชุมดังกล่าว จะมีการหารือถึงข้อพิพาท การแบ่งผลประโยชน์ทางทะเลหรือไม่ มงคล กล่าวว่า คงเป็นทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของประเทศ และประชาชน เป็นบูรณาภาพของประเทศ ที่ประชาชนต้องรับรู้ และรักษาไว้
การที่วุฒิสภาเรียกร้องให้มีการเปิดประชุมสมัยวิสามัญก่อน เพราะไม่ไว้วางใจการเจรจาของรัฐบาลเนื่องจากมีกระแสการใช้ความสัมพันธ์ของตระกูลชินวัตร และตระกูลฮุน ใช่หรือไม่ มงคล กล่าวว่า เป็นคนละประเด็น ส่วนตัวไม่ได้นึกถึงเรื่องนั้น เราเชื่อมั่นว่าคนไทยทุกคนรักบ้านเมือง ต้องการรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ
เมื่อถามว่าหากรัฐบาลไม่เปิดประชุมสมัยวิสามัญตามที่เสนอ จะทำอย่างไรต่อ มงคล กล่าวว่า แล้วแต่สถานการณ์ถือเป็นดุลพินิจของรัฐบาล หากดำเนินการได้ด้วยตนเอง สถานการณ์ที่เปลี่ยนไป อะไรก็เปลี่ยนไปได้ ส่วนข้อเสนอให้มีการตัดน้ำไฟ และท่อน้ำเลี้ยง ที่ส่งไปยังแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ในประเทศกัมพูชานั้น ตนมองว่าเป็นเรื่องของหน้างาน อยู่กับผลของการเจรจา อีกทั้งทุกอย่างต้องทำภายใต้หลักเกณฑ์ ทุกเรื่องมีเหตุมีผลของมัน เราคิดแต่เพียงว่าคนไทยทุกคนพร้อมที่สนับสนุน รวมใจสร้างความสงบบนพื้นฐานของการไม่ใช้ความรุนแรง และรักษาความรักความสามัคคีรวมถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน
ปิดวาจาสนิท! ยังเย็บปากเงียบไม่ตอบปม ‘ฮั้วเลือก สว.’ แจงสื่อวันนี้แค่แถลงปม ‘ไทย-กัมพูชา’ เท่านั้น
ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามถึงความคืบหน้าการตรวจสอบกรณี 'ฮั้วเลือก สว.' ที่ทั้งประธานวุฒิสภา รวมทั้ง สว.คนอื่นๆได้ถูกคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนชุดที่ 26 ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เชิญไปรับทราบข้อกล่าวหาและชี้แจง แต่ 'มงคล' ประธานวุฒิสภา ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม โดยกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า วันนี้ไม่ใช่เรื่องที่เราจะมาพูดกันในเรื่องนี้ และไม่ขอออกความคิดเห็นในเรื่องนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า 'กลุ่ม สว.' ที่มาร่วมแถลงในวันนี้ ส่วนใหญ่เป็น สว.ที่โดน กกต.เรียกไปรับทราบและชี้แจงข้อกล่าวหากรณีฮั้วเลือก สว.เกือบทั้งหมด