องค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง (อบจ.ตรัง) เตรียมจัดหารถบัสไฟฟ้า (อีวี) วิ่งขนส่งผู้โดยสาร ทั้งนักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปในเขตตัวเมืองตรัง เดินหน้าส่งเสริมพัฒนาการท่องเที่ยวจังหวัดตรังให้มีความเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้า สร้างรายได้เข้าสู่จังหวัด โดยจะเปิดให้บริการรถบัสไฟฟ้าใน 2 เส้นทางเดิม ที่หยุดเดินรถไปก่อนหน้านี้ เพราะไม่มีผู้โดยสารมาใช้บริการ ด้วยหลายสาเหตุ ทั้งสภาพรถมินิบัสที่เก่าเกินไป ไม่มีเครื่องปรับอากาศ อีกทั้งไม่ได้รับความนิยมจากประชาชน ทำให้ อบจ.ตรัง ต้องประกาศหยุดเดินรถทั้ง 2 เส้นทาง
ในครั้งนี้ นายบุ่นเล้ง โล่สถาพรพิพิธ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง มีนโยบายที่จะผลักดันเปิดเส้นทางเดินรถใน 2 เส้นทางดังกล่าวอีกครั้ง โดยใช้รถบัสอีวี ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าไร้มลพิษ ให้บริการขนส่งผู้โดยสารนักเรียน นิสิตนักศึกษา ประชาชนทั่วไป และรองรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าในจังหวัดตรังด้วย
จิรายุสต์ พิตรปรีชา กรรมการบริหารโรงแรมเรือรัษฎา ในฐานะผู้ประกอบการโรงแรม และห้างสรรพสินค้าสิริบรรณช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ กล่าวว่า เห็นด้วยที่ อบจ.ตรัง จะมีการจัดหารถบัส อีวี หรือรถไฟฟ้า ติดเครื่องปรับอากาศ มาวิ่งรับส่งผู้โดยสาร เพื่อบริการในเส้นทางท่องเที่ยว

“เส้นทางแรกอยากจะให้วิ่งไปจุดต่างๆ ในเขตเทศบาลนครตรัง ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวก่อนใน เช่นแลนด์มาร์กของจังหวัดตรังหอนาฬิกา ในตัวเมืองตรังโบสถ์คริสตจักรชุมชนตลาดเก่า วัดกะพังสุรินทร์วัดท่าจีน และศาลเจ้าท่ามกงเยี่ย”
“เส้นทางที่สอง ที่จะทำได้คือเส้นทางท่องเที่ยวที่จะเริ่มจากท่าอากาศยานตรัง วิ่งผ่านตัวเมืองตรัง เข้าไปยังหาดปากเมง ท่าเรือปากเมง ท่าเรือควนตุงกู และท่าเรือบ้านหาดยาว เพื่อไว้บริการนักท่องเที่ยว ส่วนจะกำหนดจุดหรือป้ายรับส่งผู้โดยสารที่ไหนบ้างเป็นรายละเอียด คณะกรรมการที่เค้าจะพิจารณาดูความเหมาะสม แต่ละสาย”
“ส่วนตัวเคยไปท่องเที่ยวในต่างประเทศเช่นที่โคเปนเฮเก็น ประเทศเดนมาร์ก จะมีจุดรถบัสบริการท่องเที่ยวมากถึง 21 จุดโดยนักท่องเที่ยวซื้อบัตรเพียงใบเดียวก็จะขึ้นลงรถได้ครบทุกจุดสถานที่ท่องเที่ยว รถก็จะวิ่งเป็นลูปกลับมายังจุดเริ่มต้นส่วนที่สิงคโปร์นั้นตนเองไปเห็นในลักษณะโคออน หรือการกระโดดขึ้นกระโดดลงรถเพื่อไปยังพื้นที่ต่างๆ ดังนั้น นโยบายของนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรังที่จัดหารถบัสและเป็นรถไฟฟ้ามาวิ่งบริการเส้นทางท่องเที่ยวพระเอกชนเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง” จิรายุสต์ กล่าว

ด้าน จงกลณี อุตสาหะ เจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัดเจ้าไหมทัวร์และอดีตนายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวโรงแรมจังหวัดตรัง กล่าวว่า “อบจ.ตรัง ควรกำหนดเส้นทางเดินรถจากจุดแรกในตัวเมืองตรัง โดยอาจจะใช้บริเวณสถานีรถไฟตรังเพื่อรองรับผู้โดยสารที่มากับรถไฟที่มีถึง 2 ขบวน อีกทั้งเป็นจุดศูนย์รวมของนักท่องเที่ยวที่จะมาแวะพักเพื่อต่อรถเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ เช่น กระบี่ สตูล โดยให้รถบัสวิ่งไปยังท่าเรือหาดปากเมง แต่ในระหว่างนั้นอาจจะมีการกำหนดจุดเพื่อรับส่งผู้โดยสารเช่นตลาดนาเมืองเพชร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีศรีวิชัยตรัง หาดปากเมง ท่าเรือปากเมง ท่าเรือกวนตุงกู และท่าเรือบ้านหาดยาว เส้นทางนี้จะมีนักท่องเที่ยวมากในช่วงไฮซีซั่น”

จงกลณี กล่าวต่อว่า สำหรับเส้นทางที่จะตั้งต้นท่าอากาศยานตรัง ควรพิจารณาจะไปแข่งขันกับรถที่เขาได้รับอนุญาตรับผู้โดยสารจากสนามบินเข้าไปเมืองหรือไม่ ปล่อยให้ผู้ประกอบการรถตู้หมวด 30 เป็นผู้วิ่ง เพราะเขาได้เส้นทางจากท่าอากาศยานตรังในการวิ่งรับส่งผู้โดยสารแล้ว
ส่วนเส้นทางที่สองที่จะแนะนำ ควรจะเริ่มจากในตัวเมืองตรังเช่นเดิมแล้ววิ่งไปท่าเรือบ้านตาเสะ อ.หาดสำราญ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่เข้าออกระหว่างเกาะสุกร อำเภอปะเหลียน ซึ่งบริเวณนี้จะมีนักท่องเที่ยวเข้าออกอยู่ตลอด แต่ไม่มีรถให้บริการจะมีบ้างเป็นรถสองแถวกระบะมีวันละหนึ่งเที่ยวเท่านั้น ยังไม่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว หากเปิดเส้นทางนี้ได้ก็จะส่งเสริมการท่องเที่ยว ฝั่งอำเภอปะเหลียน อำเภอหาดสำราญ เพื่อเปิดโลกการท่องเที่ยวแห่งใหม่ซึ่งบริเวณนี้จะมี เกาะสุกร เกาะเหลาเหลียงเกาะเภตรา และเกาะตะเกียง สถานที่ท่องเที่ยวที่กล่าวมานี้อยูติดกับ จ.สตูล ยังไม่เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวแต่อย่างใด
จงกลณี กล่าวอีกว่า “อาคารหลังใหม่ท่าอากาศยานตรัง รมต.มนพร เจริญสุข ให้นโยบายเปิดในเดือนมิถุนายนนี้ หากเปิดอาคารหลังใหม่ สายการบินควรจะเปิดเส้นทาง ตรัง-สุวรรณภูมิ อีกหนึ่งเส้นทางบิน เพื่อเป็นทางเลือกให้ผู้โดยสารและนักท่องเที่ยว”

จากข้อมูลในปัจจุบันนั้นท่าอากาศยานตรังจะมีผู้โดยสารจากพื้นที่จังหวัดพัทลุง มาใช้บริการเป็นจำนวนมากเพราะระยะทางวิ่งไปท่าอากาศยานตรัง 60 กิโลเมตร อีกจังหวัดคือสตูลนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากอำเภอละงูมาถึงท่าอากาศยานตรังระยะทางประมาณ 100 กิโลเมตร ก็มาใช้บริการท่าอากาศยานตรังเพื่อเดินทางเข้าออกไปยังกรุงเทพปัจจุบันนี้ตรังมี3สายการบินทั้งหมดเดินทางจากตรัง-ดอนเมือง ตนเองในฐานะที่จำหน่ายตัวโดยสารเครื่องบินพบว่า ก่อนหน้านี้สายการบินไทยสมายล์ได้มาทำการบินช่วงระยะเวลาสั้นสั้นเพียง 3 เดือน มีผู้โดยสารกว่า 10% ที่เดินทางไปลงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ที่เหลือ 90% จะเดินทางตรัง-ดอนเมือง ส่วนแนวความคิดที่สายการบินจะบินข้ามภาคจังหวัดตรังยังไม่มีผู้โดยสารมากเพียงพอที่จะบินข้ามภาค แต่อาจจะใช้ลักษณะบินเชื่อมต่อคือเริ่มต้นจากเชียงใหม่-ภูเก็ต-ตรัง และขากลับ ตรัง-ภูเก็ต-เชียงใหม่ ส่วนเส้นทางอีสาน อุดรธานี-ภูเก็ต-ตรังเส้นทางกลับตรัง-ภูเก็ต-อุดรธานี
หากสายการบินสามารถเปิดได้ เชื่อว่า จ.ตรัง จะเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว ส่วนการที่ นายก อบจ.ตรังมีนโยบายจะนำรถบัสไฟฟ้า หรือ EV มาวิ่งรับบริการนักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไป จะเป็นการเพิ่มความพร้อมให้การท่องเที่ยวมาตรัง เห็นด้วยอย่างยิ่ง หากเปิดได้ช่วงไฮซีซั่นที่จะถึงนี้

บุ่นเล้ง โล่สถาพรพิพิธ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า การจัดหารถบัสอีวีเพื่อให้บริการ เป็นหนึ่งในนโยบายของตนเองที่หาเสียงไว้หากได้รับเลือกตั้ง จะเข้ามาส่งเสริมการท่องเที่ยวทุกรูปแบบ การจัดหารถโดยสารเป็นรถบัสอีวีขนาดไม่ต่ำกว่า 40 ที่นั่ง เป็นรถไฟฟ้าเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมไม่ก่อมลพิษทางอากาศ ภายในรถติดแอร์เย็น เชื่อมั่นว่าเป็นที่ต้องการของนักท่องเที่ยวและประชาชนในพื้นที่
“ทาง อบจ.ตรัง ได้รับการประสานจากผู้ประกอบการรถบัสอีวีที่จำนำรถบัสนั้นมาทำการทดลองวิ่ง อย่างน้อย 1 ถึง 2 เส้นทาง เป็นการทดลองวิ่งทดสอบความสามารถของรถ ประมาณ 15 วัน ยังไม่มีการซื้อ หรือจะเช่าแต่อย่างใด เป็นการวิ่งทดสอบรถเท่านั้น หาก อบจ.ตรัง ดำเนินการเปิดเดินรถจริงไว้เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว นักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชนทั่วไปได้โดยสารรถบัสสาธารณะที่ทันสมัย”
“ในปีนี้ อบจ.จะส่งเสริมการท่องเที่ยว เช่นงานประกวดเรือพระ อาจจะมีการจัดแข่งขันประกวดถ่ายภาพ ให้ประชาชนเข้ามาโหวตว่าภาพไหนสวยที่สุดในสายตาชาวบ้าน การแข่งขันชกมวยอาชีพ “กำปั้นจากดินสู่ดวงดาว” งานประเพณีถือศีลกินเจของพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีน จัดแข่งประกวดถ่ายภาพ หรือกิจกรรมอื่นๆ แต่ทั้งนี้จะพูดคุยกับ หน่วยงานที่ดูแลในเรื่องนี้ว่า งานกินเจ อบจ.สามารถใช้งบประมาณสนับสนุนได้หรือไม่ ยังมีกิจกรรมหรืองานท่องเที่ยวอื่นๆ อีกที่ อบจ.เข้าไปส่งเสริมการท่องเที่ยวได้”
เป็นอีกก้าวหนึ่งของความเจริญจังหวัดตรัง ที่ อบจ.ตรังจัดหารถบัสอีวีวิ่งรับส่งนักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไป รวมถึงผู้โดยสารเครื่องบินจะใช้อาคารที่พักผู้โดยสารหลังใหม่ มีสะพานเทียบเครื่องบิน ผู้โดยสารจะไม่ต้องตากแดด เปียกฝน ก่อนขึ้นและลงเครื่องบินอีกต่อไป เมื่อออกมาจากสนามบินตรังมีรถบัสอีวีสาธารณะมารับส่งนักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปยังจุดหมายในการเดินทาง

