ทรัมป์เล่นแรง! ไล่เพิกถอนวีซ่านักเรียนจีน-เสนอฮาร์วาร์ดจำกัด นศ.ต่างชาติเหลือ 15%

29 พ.ค. 2568 - 08:23

  • รัฐบาลทรัมป์ประกาศว่าจะ ‘เพิกถอนวีซ่า’ นักศึกษาจีนที่กำลังศึกษาอยู่ในสหรัฐฯ อย่างเข้มงวด รัฐมนตรีต่างประเทศกล่าวว่า “การเคลื่อนไหวดังกล่าวจะรวมถึงบุคคลที่มีความเชื่อมโยงกับพรรคคอมมิวนิสต์จีน หรือผู้ที่กำลังศึกษาในสาขาที่สำคัญ...”

  • แม้จะมีความพยายามเพิกถอนวีซ่าและจำกัดการรับนักเรียนต่างชาติ แต่ศาลสหรัฐฯ ได้ออกคำสั่งระงับบางมาตรการเหล่านี้ เช่น การเพิกถอนใบอนุญาตรับนักเรียนต่างชาติของฮาร์วาร์ด

  • ขณะที่ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวว่า มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดควรจำกัดสัดส่วนนักศึกษาต่างชาติไม่เกินประมาณ 15% ของจำนวนนักศึกษาทั้งหมดแทนที่จะเป็น 31% ตามที่มหาวิทยาลัยรายงาน

ทรัมป์เล่นแรง! ไล่เพิกถอนวีซ่านักเรียนจีน-เสนอฮาร์วาร์ดจำกัด นศ.ต่างชาติเหลือ 15%

รัฐบาลทรัมป์ประกาศว่าจะ ‘เพิกถอนวีซ่า’ นักศึกษาจีนที่กำลังศึกษาอยู่ในสหรัฐฯ อย่างเข้มงวด “การเคลื่อนไหวดังกล่าวจะรวมถึงบุคคลที่มีความเชื่อมโยงกับพรรคคอมมิวนิสต์จีน หรือผู้ที่กำลังศึกษาในสาขาที่สำคัญ...จะมีการปรับปรุงเกณฑ์เพื่อเพิ่มการตรวจสอบผู้สมัครวีซ่าในอนาคตจากจีนและฮ่องกง” มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวในแถลงการณ์   

 

ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ ตกต่ำลงในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากสงครามการค้าระหว่างสองมหาอำนาจที่ปะทุขึ้นจากมาตรการภาษีของทรัมป์ 

 

เมื่อวันจันทร์ (26 พ.ค.) ที่ผ่านมา รูบิโอได้สั่งให้สถานทูตสหรัฐฯ ทั่วโลกหยุดการนัดหมายทำวีซ่านักเรียนต่างชาติ ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศเตรียมขยายการตรวจสอบทางโซเชียลมีเดียของผู้สมัครดังกล่าวอย่างเข้มงวด 

 

จากการประมาณการพบว่า มีนักศึกษาชาวจีนประมาณ 280,000 คนศึกษาอยู่ในสหรัฐฯ ในปีที่แล้วซึ่งชาวจีนเคยคิดเป็นจำนวนนักเรียนต่างชาติส่วนใหญ่ที่เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยของอเมริกา แม้ว่าเมื่อเร็วๆ นี้จะมีการเปลี่ยนแปลงไปแล้ว 

 

ตามข้อมูลของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า จำนวนชาวจีนลดลงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากข้อจำกัดในยุคการระบาดใหญ่ไปจนถึงความสัมพันธ์ที่เลวร้ายลงระหว่างสองประเทศ

 

รัฐบาลทรัมป์ได้ดำเนินการเพิกถอนวีซ่านักเรียนต่างชาติไปแล้วหลายพันราย รวมถึงการสั่งเนรเทศนักศึกษาบางส่วน แม้ว่ามาตรการเหล่านี้จะถูกศาลสั่งระงับก็ตาม นอกจากนี้ รัฐบาลยังระงับงบประมาณหลายร้อยล้านดอลลาร์สำหรับมหาวิทยาลัยต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมหาวิทยาลัยชั้นนำอย่างฮาร์วาร์ด ซึ่งทรัมป์มองว่าเป็นสถาบันที่มีแนวคิดฝ่ายซ้ายจัดและล้มเหลวในการจัดการปัญหาการต่อต้านชาวยิวในมหาวิทยาลัย 

 

มหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ ส่วนใหญ่พึ่งพาเงินทุนจากนักเรียนต่างชาติเป็นจำนวนมาก เนื่องจากนักศึกษากลุ่มนี้มักจ่ายค่าเล่าเรียนสูงกว่านักเรียนในประเทศ การลดจำนวนและความไม่แน่นอนของวีซ่าจึงทำให้นักศึกษาหลายคนรู้สึกไม่สบายใจและกังวล 

 

“ฉันรู้สึกเสียใจที่เลือกมาเรียนที่สหรัฐฯ” นักศึกษาปริญญาโทวัย 22 ปีจากเซี่ยงไฮ้ กล่าว และไม่ต้องการเปิดเผยชื่อ เพราะกลัวจะเสี่ยงต่อการสูญเสียวีซ่าเพื่อไปศึกษาที่มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย  

 

แม้จะมีความพยายามเพิกถอนวีซ่าและจำกัดการรับนักเรียนต่างชาติ แต่ศาลสหรัฐฯ ได้ออกคำสั่งระงับบางมาตรการเหล่านี้ เช่น การเพิกถอนใบอนุญาตรับนักเรียนต่างชาติของฮาร์วาร์ด ซึ่งช่วยบรรเทาความกังวลของนักเรียนจำนวนมาก 

 

จนถึงขณะนี้ รัฐบาลจีนยังไม่ได้ออกมาตอบโต้หรือแสดงความคิดเห็นใดๆ ต่อการเพิกถอนวีซ่าของนักศึกษาจีนโดยเฉพาะ 

 

“จีนเรียกร้องให้ฝ่ายสหรัฐฯ ปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายของนักเรียนต่างชาติ รวมถึงนักเรียนจีนที่ศึกษาในต่างประเทศ...ความร่วมมือทางการศึกษาและการแลกเปลี่ยนทางวิชาการควรดำเนินต่อไปอย่างไม่สะดุด” เหมาหนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวในแถลงการณ์ 

 

เอกสารภายในของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ที่ BBC ร่วมกับ CBS News ตรวจสอบ พบว่าเมื่อวันอังคาร (27 พ.ค.) ที่ผ่านมา กระทรวงได้สั่งให้สถานทูตสหรัฐฯ ทั่วโลกยกเลิกการนัดหมายทำวีซ่านักเรียนที่ยังไม่ได้กำหนดวัน แต่ยังคงรักษาการนัดหมายที่ได้กำหนดไว้แล้วให้ดำเนินต่อไป 

 

ก่อนหน้านี้ ศาลสหรัฐฯ ได้ออกคำสั่งระงับความพยายามของรัฐบาลทรัมป์ในการเพิกถอนสิทธิ์การรับนักศึกษาต่างชาติของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดเป็นการชั่วคราว หลังมหาวิทยาลัยยื่นฟ้องรัฐบาล โดยทำเนียบขาวยังกล่าวหาผู้พิพากษาที่พิจารณาคดีนี้ว่ามี ‘แนวคิดเสรีนิยม’ 

 

ในเอกสารที่ยื่นต่อศาลเมื่อวันพุธที่ผ่านมา มอรีน มาร์ติน ผู้อำนวยการสำนักงานนักศึกษาต่างชาติของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ระบุว่า “การเพิกถอนสิทธิ์ของมหาวิทยาลัยในการรับนักศึกษาต่างชาติจะก่อให้เกิดความเสียหายที่ไม่สามารถแก้ไขได้ต่อมหาวิทยาลัย” 

 

มาร์ตินกล่าวว่า “มาตรการดังกล่าวก่อให้เกิดความเครียดอย่างมากแก่นักศึกษาและนักวิชาการต่างชาติหลายคน นักศึกษาหลายคนมักจะหลีกเลี่ยงพิธีรับปริญญา ยกเลิกการเดินทางต่างประเทศ และในบางกรณีก็พยายามจะโอนหน่วยกิตไปยังวิทยาลัยอื่น” 

 

เอกสารยังระบุด้วยว่า “นักศึกษาบางคนกลัวว่าจะถูกบังคับให้กลับประเทศที่เผชิญกับความขัดแย้ง หรือการข่มเหงทางการเมือง” 

 

ทรัมป์เสนอฮาร์วาร์ดควรจำกัดนักศึกษาต่างชาติไว้ที่ 15% 

 (Photo by Rick Friedman / AFP)
(Photo by Rick Friedman / AFP)

 

ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวเมื่อวันพุธที่ทำเนียบขาวว่า มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดควรจำกัดสัดส่วนนักศึกษาต่างชาติไม่เกินประมาณ 15% ของจำนวนนักศึกษาทั้งหมดแทนที่จะเป็น 31% ตามที่มหาวิทยาลัยรายงาน ซึ่งทรัมป์อ้างว่าสัดส่วนที่สูงเกินไปนี้ทำให้คนอเมริกันที่ต้องการเข้าเรียนไม่ได้รับโอกาส 

 

“เรามีคนที่อยากเข้าเรียนที่ฮาร์วาร์ดและมหาวิทยาลัยอื่นๆ แต่พวกเขาไม่สามารถเข้าได้เพราะมีนักศึกษาต่างชาติจำนวนมาก” ทรัมป์ กล่าวพร้อมเรียกร้องให้มหาวิทยาลัยแสดงรายชื่อนักศึกษาต่างชาติทั้งหมดให้รัฐบาลทราบ เพื่อประเมินว่ามีนักศึกษาที่อาจก่อปัญหาหรือไม่ และนักศึกษานั้นมาจากประเทศใดบ้าง 

 

ทรัมป์กล่าวเตือนอีกด้วยว่าไม่ต้องการเห็นความรุนแรง หรือเหตุการณ์จลาจลในประเทศ โดยอ้างว่านักศึกษาบางส่วนเป็น ‘ผู้ก่อปัญหา’ ที่ได้รับการปลุกปั่นจากฝ่ายซ้ายสุดโต่งในสหรัฐฯ และกล่าวว่า “พวกเขาไม่เคารพประเทศของเรา” 

 

นอกจากนี้ ทรัมป์ยังวิจารณ์ฮาร์วาร์ดว่าเป็นสถาบันที่มีแนวคิดฝ่ายซ้ายจัดและไม่จัดการกับปัญหาการต่อต้านยิวในมหาวิทยาลัยอย่างเหมาะสม รัฐบาลของเขาจึงได้ระงับงบประมาณวิจัยของฮาร์วาร์ดมูลค่ากว่าหลายพันล้านดอลลาร์ และพยายามบังคับทางมหาวิทยาลัยให้ออกนโยบายที่เปลี่ยนแปลงด้านการรับสมัคร การจ้างงาน และหลักสูตรการเรียนการสอน 

 

สถิติของฮาร์วาร์ดระบุว่านักศึกษาต่างชาติคิดเป็นประมาณ 27% ของนักศึกษาทั้งหมดในปีการศึกษา 2024-2025 ซึ่งต่ำกว่าตัวเลข 31% ที่ทรัมป์อ้าง 

 

อย่างไรก็ตาม มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดในเมืองเคมบริดจ์ รัฐแมสซาชูเซตส์ ยังไม่ได้แถลงตอบกลับเกี่ยวกับเป้าหมายของประธานาธิบดีทรัมป์ที่ต้องการจำกัดสัดส่วนนักศึกษาต่างชาติไม่เกิน 15% ของจำนวนนักศึกษาทั้งหมด 

 

ข้อมูลจากมหาวิทยาลัยระบุว่าในปีการศึกษา 2024-2025 ฮาร์วาร์ดมีนักศึกษาต่างชาติกว่า 6,800 คน หรือคิดเป็นประมาณ 27% ของนักศึกษาทั้งหมด ซึ่งเพิ่มขึ้นจากประมาณ 20% ในปี 2006 

 

นักศึกษาต่างชาติที่อยู่ในแคมปัสของฮาร์วาร์ดรวมทั้งนักวิจัยและผู้เข้าร่วมโครงการไม่รับวุฒิปริญญา รวมแล้วมากกว่า 10,000 คน โดยนักศึกษาต่างชาติเหล่านี้มาจากกว่า 140 ประเทศทั่วโลก และเป็นแหล่งรายได้สำคัญของมหาวิทยาลัย เนื่องจากส่วนใหญ่จ่ายค่าเล่าเรียนเต็มจำนวน แม้ว่าฮาร์วาร์ดจะมีทุนช่วยเหลือทางการเงินสำหรับนักศึกษาต่างชาติระดับปริญญาตรี 

 

ประธานาธิบดีทรัมป์ยังขู่ที่จะเพิกถอนสถานะปลอดภาษีของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งจะส่งผลกระทบทางการเงินอย่างร้ายแรงต่อมหาวิทยาลัย แม้ฮาร์วาร์ดจะมีเงินบริจาค 53,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.73 ล้านล้านบาท) ที่ทำให้เป็นมหาวิทยาลัยที่ร่ำรวยที่สุดในสหรัฐฯ ก็ตาม  

 

ทรัมป์ยังเปรียบเทียบฮาร์วาร์ดในเชิงลบกับมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ซึ่งเขากล่าวว่ามหาวิทยาลัยโคลัมเบียกำลังทำงานร่วมกับเขาในการหาทางออกสำหรับปัญหาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการต่อต้านยิวและการประท้วงในมหาวิทยาลัย   

  

“ฮาร์วาร์ดต้องเข้าใจว่าผมไม่อยากทำร้ายพวกเขาเลย แต่พวกเขากำลังทำร้ายตัวเอง พวกเขาต่อสู้” และเสริมว่า “โคลัมเบียก็แย่มาก พวกเขามีท่าทีต่อต้านยิวและเรื่องอื่นๆ มากมาย แต่พวกเขากำลังร่วมมือกับเราเพื่อหาทางแก้ไข” ทรัมป์ กล่าว 


(Photo by Rick Friedman / AFP) 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์