ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยว่าสหรัฐฯ จะเริ่มส่งจดหมายถึงประเทศต่างๆ ในวันศุกร์ (4 ก.ค.) นี้ เพื่อแจ้งอัตราภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ ที่แต่ละประเทศจะต้องเผชิญ ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงจากแผนเดิมที่เคยให้คำมั่นว่าจะเจรจาข้อตกลงรายประเทศเป็นจำนวนมาก
ทรัมป์ยอมว่ารับว่าการเจรจากับประเทศกว่า 170 ประเทศนั้นมีความซับซ้อนมาก และกล่าวว่าจะส่งจดหมายแจ้งไปยัง 10 ประเทศต่อครั้ง พร้อมระบุอัตราภาษี 20-30% ต่อประเทศ “เรามีมากกว่า 170 ประเทศ แล้วจะทำข้อตกลงได้กี่ฉบับกันล่ะ? มันซับซ้อนมาก” ทรัมป์ กล่าว พร้อมบอกอีกว่าจะมีข้อตกลงรายละเอียดกับบางประเทศเพิ่มเติม หลังจากที่เพิ่งประกาศข้อตกลงการค้ากับเวียดนามไปเมื่อวันพุธ (2 ก.ค.) ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ระบุว่า เขาต้องการแจ้งอัตราภาษีที่ชัดเจนให้กับประเทศส่วนใหญ่ โดยข้ามขั้นตอนการเจรจาที่ซับซ้อนไป ถ้อยแถลงของทรัมป์สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายในการทำข้อตกลงการค้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภาษีศุลกากร หรืออุปสรรคที่ไม่ใช่ภาษี เช่น การห้ามนำเข้าสินค้าเกษตร
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สก็อตต์ เบสเซนต์ กล่าวว่า “ประมาณ 100 ประเทศน่าจะได้รับอัตราภาษีตอบโต้ที่ 10%” และคาดว่า “จะมีการประกาศข้อตกลงการค้าจำนวนมากก่อนถึงเส้นตายวันที่ 9 กรกฎาคม ซึ่งอาจมีการปรับขึ้นภาษีอย่างมาก”
หากมีการกำหนดอัตราภาษี 10% ให้กับ 100 ประเทศ จะถือว่าน้อยกว่าที่ฝ่ายบริหารของทรัมป์เคยวางแผนไว้ในตอนแรก โดยในรายชื่อเดิมของฝ่ายบริหารนั้นมี 123 เขตอำนาจศาลที่ถูกกำหนดให้อยู่ในกลุ่มที่ได้รับอัตราภาษี 10% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นประเทศขนาดเล็ก รวมถึงดินแดนบางแห่ง เช่น หมู่เกาะเฮิร์ดและแมกดอนัลด์ของออสเตรเลียที่ไม่มีผู้อยู่อาศัย
หลายประเทศที่มีกำหนดจ่ายภาษีเบื้องต้น 10% ยังไม่มีการเจรจากับฝ่ายบริหารของทรัมป์ ยกเว้นสหราชอาณาจักรที่บรรลุข้อตกลงในเดือนพฤษภาคม ทำให้อัตราภาษียังคงอยู่ที่ 10% พร้อมสิทธิพิเศษในบางภาคส่วน เช่น ยานยนต์และเครื่องยนต์เครื่องบิน ส่วนคู่ค้ารายใหญ่ที่อยู่ระหว่างเจรจาซึ่งได้รับอัตราภาษีสูงขึ้น เช่น สหภาพยุโรป 20%, อินเดีย 26% และญี่ปุ่น 24%
เมื่อวันพุธ (2 ก.ค.) ทรัมป์ประกาศข้อตกลงการค้ากับเวียดนาม โดยลดอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากเวียดนามลงเหลือ 20% จากที่เคยประกาศว่าจะเก็บสูงถึง 46% และเวียดนามเองก็อนุญาตให้สินค้าสหรัฐฯ หลายรายการเข้าสู่เวียดนามโดยที่ไม่ต้องเสียภาษี
นอกจากนี้ ทรัมป์ยังขู่จะขึ้นภาษีนำเข้าจากญี่ปุ่นเป็น 30-35% หากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงก่อนเส้นตาย ซึ่งสูงกว่าระดับ 24% ที่ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากทรัมป์ไม่พอใจที่ญี่ปุ่นไม่ยอมเปิดตลาดนำเข้าข้าวจากสหรัฐฯ อย่างเต็มรูปแบบ
(Photo by ANDREW CABALLERO-REYNOLDS / AFP)