ทรัมป์เผยรู้ที่ซ่อนผู้นำสูงสุดอิหร่าน แต่ยังไม่คิดกำจัดตอนนี้ ย้ำอิหร่านต้องยอมแพ้

18 มิ.ย. 2568 - 07:04

  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยว่า “สหรัฐฯ รู้ว่า อายะตุลลอฮ์ อะลี คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน หลบซ่อนอยู่ที่ใด แต่เลือกที่จะปล่อยให้เขามีชีวิตอยู่ในตอนนี้”

  • ขณะที่แหล่งข่าวจากอิสราเอลและสหรัฐฯ ระบุว่า ผู้นำสหรัฐฯ กำลังพิจารณาอย่างจริงจังว่าจะสั่งโจมตีทางทหารต่อโครงสร้างพื้นฐานนิวเคลียร์ของอิหร่านหรือไม่

  • แต่แหล่งข่าวใกล้ชิดกระทรวงกลาโหมคาดการณ์ว่ามีโอกาสสูงถึง 80% ที่ทรัมป์จะสั่งโจมตีทางอากาศเพื่อสนับสนุนอิสราเอล

ทรัมป์เผยรู้ที่ซ่อนผู้นำสูงสุดอิหร่าน แต่ยังไม่คิดกำจัดตอนนี้ ย้ำอิหร่านต้องยอมแพ้

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยว่า “สหรัฐฯ รู้ว่า อายะตุลลอฮ์ อะลี คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน หลบซ่อนอยู่ที่ใด แต่เลือกที่จะปล่อยให้เขามีชีวิตอยู่ในตอนนี้” ขณะที่แหล่งข่าวจากอิสราเอลและสหรัฐฯ ระบุว่า ผู้นำสหรัฐฯ กำลังพิจารณาอย่างจริงจังว่าจะสั่งโจมตีทางทหารต่อโครงสร้างพื้นฐานนิวเคลียร์ของอิหร่านหรือไม่ 

ทรัมป์แสดงท่าทีแข็งกร้าวต่ออิหร่านโดยเรียกร้องให้อิหร่าน “ยอมจำนนโดยไม่มีเงื่อนไข” หลังอิสราเอลโจมตีโครงสร้างพื้นฐานทางทหารและนิวเคลียร์ของอิหร่านอย่างหนัก 

“เรารู้แน่ชัดว่าผู้นำสูงสุดหลบอยู่ที่ไหน เขาเป็นเป้าหมายที่ง่าย...เราจะไม่กำจัดเขา (ฆ่า!) อย่างน้อยก็ในตอนนี้...แต่เราไม่ต้องการให้มีการยิงขีปนาวุธใส่พลเรือน หรือทหารอเมริกัน ความอดทนของเรากำลังหมดลง ขอบคุณที่ให้ความสนใจในเรื่องนี้!”

ทรัมป์ โพสต์บนโซเชียลมีเดีย 

ประธานาธิบดีทรัมป์ประชุมกับเจ้าหน้าที่ความมั่นคงระดับสูงที่ทำเนียบขาวเป็นเวลา 80 นาที เมื่อบ่ายวันอังคาร (17 มิ.ย.) ที่ผ่านมา เพื่อพิจารณาการตัดสินใจครั้งสำคัญเกี่ยวกับการตอบโต้ทางทหารต่ออิหร่าน แต่แหล่งข่าวใกล้ชิดกระทรวงกลาโหมระบุว่า “ประธานาธิบดีทรัมป์จะเป็นผู้ตัดสินใจเพียงผู้เดียวในเรื่องนี้ และคาดการณ์ว่ามีโอกาสสูงถึง 80% ที่ทรัมป์จะสั่งโจมตีทางอากาศเพื่อสนับสนุนอิสราเอล” 

ขณะเดียวกันทรัมป์ก็บอกกับผู้สื่อข่าวว่า เขา ‘ไม่ค่อยอยากเจรจา’ และกำลังหาทาง ‘ยุติ’ ความขัดแย้งระหว่างอิหร่านกับอิสราเอลอย่างแท้จริง 

แม้การประชุมระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์และเจ้าหน้าที่ระดับสูงจะยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดชัดเจน แต่ เจดี แวนซ์ รองประธานาธิบดี และทูลซี แกบบาร์ด ผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติ ต่างก็ไม่สนับสนุนการแทรกแซงทางทหาร  

เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แกบบาร์ดรายงานต่อรัฐสภาว่า “อิหร่านยังไม่ใกล้ที่จะพัฒนาระเบิดนิวเคลียร์” ซึ่งขัดแย้งกับคำกล่าวของนายกฯ อิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ที่ระบุว่า “อิหร่านใกล้จะมีอาวุธนิวเคลียร์” 

อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ปฏิเสธการประเมินของแกบบาร์ด โดยกล่าวว่า “ผมไม่สนใจว่าเธอพูดอะไร” และยืนยันว่า “อิหร่านใกล้จะมีระเบิดนิวเคลียร์แล้ว” ซึ่งสะท้อนท่าทีที่สอดคล้องกับผู้นำอิสราเอลมากกว่า 

แม้จะมีความเห็นที่แตกต่างกันในที่ประชุม แต่ทรัมป์ยังคงเป็นผู้ตัดสินใจขั้นสุดท้าย และมีแนวโน้มสูงที่จะสั่งโจมตีทางทหารเพื่อสนับสนุนอิสราเอล แม้จะมีเสียงคัดค้านจากกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับการแทรกแซงทางทหารในพรรคของเขา 

อย่างไรก็ตาม แม้ประธานาธิบดีทรัมป์ปฏิเสธแผนของอิสราเอลที่จะสังหารผู้นำสูงสุดของอิหร่านในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ทั้งทรัมป์และเนทันยาฮู ต่างก็แสดงท่าทีว่า ประเทศต่างๆ แทบจะรอไม่ไหวแล้วที่จะให้อิหร่านยุติโครงการนิวเคลียร์

เนทันยาฮูให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว ABC News เมื่อคืนวันจันทร์ (16 มิ.ย.) ว่า เขาไม่ได้ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่จะสังหารผู้นำสูงสุดอิหร่านวัย 86 ปี หากจำเป็น “เรากำลังทำในสิ่งที่ต้องทำ”  

อิสราเอลประกาศเมื่อวันจันทร์ (16 มิ.ย.) ว่ามีอำนาจทางอากาศเหนือกว่าอิหร่านหลังจากปฏิบัติการโจมตี ‘Operation Rising Lion’ เป็นเวลาเพียง 48 ชั่วโมงซึ่งถือเป็นความสำเร็จที่กองทัพรัสเซียไม่สามารถทำได้ในสงครามยูเครนที่ยืดเยื้อมานานกว่า 3 ปีครึ่ง 

ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวในวันอังคาร (17 มิ.ย.) ว่า “เรามีการควบคุมอากาศเหนืออิหร่านอย่างสมบูรณ์...” พร้อมยกย่องเทคโนโลยีและอุปกรณ์ทางทหารที่ผลิตในสหรัฐฯ ว่าเหนือกว่าของอิหร่านอย่างมาก โดยระบุว่าอิหร่านมีระบบติดตามและอุปกรณ์ป้องกันทางอากาศที่ดี แต่ไม่สามารถเทียบกับเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ได้ 

(Photo by Ludovic MARIN / POOL / AFP) 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์