ตลาดโลกสะเทือนอีก! ทรัมป์จ่อเก็บภาษีทองแดง 50% และยาอีก 200% เร็วๆ นี้

9 ก.ค. 2568 - 06:57

  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเมื่อวันอังคาร (8 ก.ค.) ว่า สหรัฐฯ จะเก็บภาษีศุลกากรใหม่ในอัตรา 50% สำหรับการนำเข้า ‘ทองแดง’ ทั้งหมด แต่ยังไม่ชัดเจนว่าภาษีใหม่นี้จะมีผลบังคับใช้เมื่อใด

  • ทองแดงเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ใช้ในสินค้าหลากหลายประเภท เช่น อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องจักร และรถยนต์ การเก็บภาษีศุลกากร 50% กับทองแดงนำเข้าอาจทำให้ราคาสินค้าเหล่านี้สูงขึ้นสำหรับผู้บริโภคในสหรัฐฯ

  • ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ ระบุว่า สหรัฐฯ นำเข้าทองแดงมูลค่า 17,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปีที่แล้ว โดยชิลีเป็นซัพพลายเออร์ทองแดงรายใหญ่ที่สุดจากต่างประเทศ ส่งทองแดงมายังสหรัฐฯ มูลค่า 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปีที่แล้ว

ตลาดโลกสะเทือนอีก! ทรัมป์จ่อเก็บภาษีทองแดง 50% และยาอีก 200% เร็วๆ นี้

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเมื่อวันอังคาร (8 ก.ค.) ว่า สหรัฐฯ จะเก็บภาษีศุลกากรใหม่ในอัตรา 50% สำหรับการนำเข้า ‘ทองแดง’ ทั้งหมด แต่ยังไม่ชัดเจนว่าภาษีใหม่นี้จะมีผลบังคับใช้เมื่อใด 

“วันนี้เราจะจัดการเรื่องทองแดง” ทรัมป์กล่าวในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี และเขาคาดว่าอัตราภาษีจะอยู่ที่ 50% ซึ่งจะเป็นการเก็บภาษีแบบครอบคลุมเป็นครั้งที่่ 4 ในช่วงวาระที่สองของเขา โดยปัจจุบันรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์นำเข้าต้องเสียภาษี 25% ขณะที่เหล็กและอะลูมิเนียมมีภาษี 50% 

เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ทรัมป์สั่งให้มีการสอบสวนตามมาตรา 232 เกี่ยวกับการนำเข้าทองแดง โดยใช้กฎหมายที่ให้ประธานาธิบดีมีอำนาจในการจัดเก็บภาษีที่สูงขึ้นตามเหตุผล ด้านความมั่นคงของชาติ

ทองแดงเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ใช้ในสินค้าหลากหลายประเภท เช่น อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องจักร และรถยนต์ การเก็บภาษีศุลกากร 50% กับทองแดงนำเข้าอาจทำให้ราคาสินค้าเหล่านี้สูงขึ้นสำหรับผู้บริโภคในสหรัฐฯ 

ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ ระบุว่า สหรัฐฯ นำเข้าทองแดงมูลค่า 17,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 5.5 แสนล้านบาท) ในปีที่แล้ว โดยชิลีเป็นซัพพลายเออร์ทองแดงรายใหญ่ที่สุดจากต่างประเทศ ส่งทองแดงมายังสหรัฐฯ มูลค่า 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.95 แสนล้านบาท) ในปีที่แล้ว 

หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศแผนเก็บภาษีทองแดง ราคาทองแดงในตลาดฟิวเจอร์สที่นิวยอร์กพุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 5.68 ดอลลาร์สหรัฐต่อปอนด์ เพิ่มขึ้นถึง 15% ในวันเดียว 

“ผมแปลกใจที่ต้องรอนานขนาดนี้กว่าจะจัดเก็บภาษีทองแดงได้” เอ็ด มิลส์ นักวิเคราะห์นโยบายของวอชิงตันจาก Raymond James ธนาคารเพื่อการลงทุนอิสระข้ามชาติของสหรัฐอเมริกา กล่าวกับ CNN 

ขณะที่ โอเล แฮนเซน หัวหน้ากลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์ของ Saxo Bank วาณิชธนกิจของเดนมาร์กที่เชี่ยวชาญด้านการซื้อขายและการลงทุนออนไลน์ เตือนว่า “การขึ้นภาษี 50% จะเป็นการเก็บภาษีครั้งใหญ่ต่อผู้บริโภคทองแดง” พร้อมทั้งแนะนำให้จับตาดูการดำเนินการของทรัมป์ให้มากกว่าที่จะไปโฟกัสที่คำพูด บางทีอาจมีการดำเนินการแบบค่อยเป็นค่อยไปเมื่อรัฐบาลตระหนักถึงผลกระทบต่อผู้บริโภค 

เมื่อวันอังคาร (8 ก.ค.) ทรัมป์ยังกล่าวอีกว่า ภาษีนำเข้ากลุ่มยา 200% กำลังจะมีผลบังคับใช้ ‘ในเร็วๆ นี้’ แต่จะไม่บังคับใช้ทันที โดยจะให้เวลาประมาณ 1 ปีถึง 1 ปีครึ่ง เพื่อเปิดโอกาสให้บริษัทผู้ผลิตยาย้ายฐานการผลิตกลับมาที่สหรัฐฯ ก่อนที่จะเริ่มบังคับใช้ภาษีอย่างเต็มรูปแบบ” 

ทรัมป์ระบุว่า สหรัฐฯ จำเป็นต้องเพิ่มการผลิตยาภายในประเทศเพิ่มขึ้นเพื่อลดการพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งเป็นเหตุผลหลักในการใช้มาตรการภาษีนี้ แม้ว่าบริษัทผู้ผลิตยาหลายราย เช่น Eli Lilly, Johnson & Johnson และ AbbVie จะประกาศแผนขยายฐานการผลิตในสหรัฐฯ อยู่แล้ว แต่บางโครงการก็เริ่มขึ้นก่อนที่ทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่ง 

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังออสเตรเลีย จิม ชาลเมอร์ส กล่าวเมื่อวันพุธ (9 ก.ค.) ว่า “ออสเตรเลียกำลังเร่งหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการประกาศเก็บภาษียาสูงถึง 200% ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นเรื่องที่ ‘น่ากังวลอย่างมาก’” 

“อุตสาหกรรมยาในออสเตรเลียมีการส่งออกไปยังตลาดสหรัฐฯ อย่างมาก มูลค่าการส่งออกยาของออสเตรเลียไปสหรัฐฯ ในปี 2024 อยู่ที่ประมาณ 1.37 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4.4 หมื่นล้านบาท) ซึ่งเป็นมูลค่าการส่งออกสินค้าหลักของประเทศไปยังสหรัฐฯ” ชาลเมอร์ส กล่าว 

ขณะเดียวกัน เมื่อวันจันทร์ (7 ก.ค.) ที่ผ่านมา ทรัมป์ ได้ขยายเวลาการพักการเก็บภาษีตอบโต้ไปจนถึงวันที่ 1 สิงหาคม หลังจากที่ภาษีเหล่านี้ถูกบังคับใช้ชั่วคราวในเดือนเมษายน และมีกำหนดจะกลับมาใช้ใหม่ในวันที่ 10 กรกฎาคมนี้ โดยทรัมป์ยังได้ส่งจดหมายแจ้งผู้นำประเทศต่างๆ เกี่ยวกับอัตราภาษีใหม่ที่อาจบังคับใช้หากไม่มีการเจรจาตกลงใหม่ 

(Photo by Andrew Harnik / GETTY IMAGES NORTH AMERICA / Getty Images via AFP) 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์