ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ขู่จะเก็บภาษีศุลกากรเพิ่มอีก 10% กับประเทศใดก็ตามที่เข้าร่วมกลุ่ม BRICS ซึ่งมีนโยบายต่อต้านสหรัฐฯ ระหว่างที่ประเทศสมาชิกกลุ่ม BRICS จัดการประชุมสุดยอดที่เมืองริโอเดอจาเนโรของบราซิล
แถลงการณ์ร่วมของกลุ่ม BRICS ที่เผยแพร่ช่วงบ่ายวันอาทิตย์เตือนว่า การขึ้นภาษีศุลกากรจะกระทบกับการค้าโลก และยังวิพากษ์วิจารณ์นโยบายภาษีศุลกากรของทรัมป์
ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา ทรัมป์ประกาศผ่านโซเชียลมีเดีย Truth Social เมื่อว่า “ประเทศใดก็ตามที่สนับสนุนนโยบายต่อต้านอเมริกาของกลุ่ม BRICS จะถูกเรียกเก็บภาษีศุลกากรเพิ่มเติม 10% จะไม่มีข้อยกเว้นสำหรับนโยบายนี้ ขอบคุณที่ให้ความสนใจเรื่องนี้!”
ทรัมป์ไม่ได้ขยายความเรื่อง “นโยบายต่อต้านอเมริกา” ที่ระบุไว้ในโพสต์
กลุ่ม BRICS ดั้งเดิมรวบรวมผู้นำจากบราซิล รัสเซีย อินเดีย และจีนมาประชุมสุดยอดครั้งแรกในปี 2009 จากนั้นจึงมีแอฟริกาใต้ และเมื่อปีที่แล้วยังมีอียิปต์ เอธิโอเปีย อินโดนีเซีย อิหร่าน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เข้าร่วมเป็นสมาชิก ขณะที่แหล่งข่าวระบุว่า ซาอุดีอาระเบียระงับการเข้าร่วมอย่างเป็นทางการ นอกจากนี้ยังมีอีก 30 ประเทศสนใจเข้าร่วมกับ BRICS ทั้งในฐานะสมาชิกและหุ้นส่วน
ทั้งนี้ ไทยเข้าร่วมเป็นประเทศหุ้นส่วนของกลุ่ม BRICS อย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา
การขยายตัวของกลุ่มได้เพิ่มน้ำหนักทางการทูตให้กับการประชุม ซึ่งปรารถนาที่จะพูดในนามของประเทศกำลังพัฒนาในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในโลกใต้ และส่งผลให้มีการเรียกร้องให้ปฏิรูปสถาบันระดับโลก เช่น คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ และกองทุนการเงินระหว่างประเทศมากขึ้น
ประธานาธิบดี ลูอิซ อินาซิโอ ลุลา ดา ซิลวา ของบราซิลกล่าวในการประชุมว่า “หากการกำกับดูแลระหว่างประเทศไม่สะท้อนโลกหลายขั้วของศตวรรษที่ 21 กกลุ่ม BRICS ก็จะช่วยปรับปรุงให้ทันสมัย” ซึ่งเป็นการเน้นย้ำความล้มเหลวของสงครามในตะวันออกกลางที่มรสหรัฐฯ เป็นแกนนำ
เป้าหมายของกลุ่ม BRICS ได้แก่ การปรับปรุงความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การเมือง และสังคมในหมู่สมาชิก และ “เพิ่มอิทธิพลของกลุ่มประเทศโลกใต้ในระดับนานาชาติ”
ข้อมูลของมูลนิธิคาร์เนกีเพื่อสันติภาพระหว่างประเทศระบุว่า กลุ่ม BRICS พยายามท้าทายสถาบันที่ควบคุมดูแลเศรษฐกิจระดับโลกซึ่งอยู่ภายใต้อิทธิพลของชาติตะวันตก ตลอดจนแทนที่บทบาทของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ในเศรษฐกิจโลก
Photo by ANDREW CABALLERO-REYNOLDS / AFP