อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี ในฐานะโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงกระแสข่าวพรรค รทสช. ต่อรองขอเก้าอี้รัฐมนตรีเพิ่มในการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งนี้ ว่า เรื่องดังกล่าวไม่มีแน่นอน จากที่ได้พูดคุยกับผู้บริหารพรรค ยืนยันว่าพรรครวมไทยสร้างชาติไม่มีการต่อรองเพิ่ม
ผู้สื่อข่าวถามว่าไม่ได้ขอโควตารัฐมนตรีว่าการเพิ่มอีก 1 เก้าอี้ใช่หรือไม่ โฆษกพรรค รทสช.กล่าวย้ำว่า “ถ้าสมมุติมีการร่วมรัฐบาลต่อ พรรคก็จะยืนยันโควต้ารัฐมนตรี 4 ตําแหน่งตามเดิม ส่วนบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งนั้น กลไกของพรรคได้มอบอำนาจให้นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรค รทสช. เป็นผู้ตัดสินใจ”
เมื่อถามว่า มีหลายคนในพรรคออกมาให้ข่าวว่า มติของพรรค รทสช.คือขอให้เปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี ไม่เช่นนั้นก็ไม่ร่วมรัฐบาล โฆษกพรรค รทสช. กล่าวว่า เรื่องมติพรรค ที่ผ่านมามีกระแสข่าวจากหลายที่ และมีคนออกมาให้สัมภาษณ์ อย่างไรก็ตาม มติพรรคที่ถูกต้อง จะต้องมาจากนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค รทสช.พียงผู้เดียว เพราะพรรคได้มีมติให้นายพีระพันธุ์ เป็นคนพูดคนเดียว ซึ่งมติพรรคระบุรายละเอียดไว้ชัดเจนว่าใครเป็นผู้แถลง
“การที่มีแหล่งข่าวจากที่ต่างๆให้สัมภาษณ์ ก็อย่าพึ่งไปเชื่อ ขอให้ฟังจากหัวหน้าพรรคเพียงคนเดียว”
เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่า มีการเสนอให้เปลี่ยนตัวนายกฯ เป็นนายพีระพันธุ์ อัครเดช กล่าวว่า ไม่มี ในวันที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค เมื่อวันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา เราคุยกันแค่เพียงว่า จะทำยังไงเพื่อไม่ให้เกิดการยุบสภา เพราะจะทำให้เกิดผลกระทบกับประเทศหลายอย่าง ทั้ง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ที่ค้างอยู่ ซึ่งนายพีระพันธุ์เป็นห่วงเรื่องนี้มาก “ส่วนการผลักดันให้นายพีระพันธุ์เป็นนายกฯนั้น ยืนยันว่าไม่มีการหารือเรื่องนี้ในที่ประชุมแน่นอน ตนการันตี ดังนั้นการให้ข่าวจากบุคคลอื่น จึงไม่สามารถรับฟังได้”
“ส่วนกรณีที่นายพีระพันธุ์ ไม่ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนหลังการประชุมกรรมการบริหารพรรคนั้น เพราะกลัวเสียมารยาท เนื่องจากอยากให้นายกรัฐมนตรีรู้จากตัวท่านโดยตรง ไม่ใช่รู้ผ่านจากสื่อ เพราะเป็นมารยาททางการเมือง”
— อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ โฆษกพรรค รทสช.