สหรัฐอเมริกาสั่งล้างบางแก็งฟอกเงิน Huione Group ของกัมพูชา ที่มีหลานชาย ‘ฮุนเซน’ เป็นเจ้าของ หลังจากลงตรวจสอบพบว่าตั้งแต่ปี 2021 – 2025 ฟอกเงินมากกว่า 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2025 หน่วยงาน Financial Crimes Enforcement Network (FinCEN) ของสหรัฐ จัดให้กลุ่ม Huione Group เป็นสถาบันการเงินที่มีความเสี่ยงสูงต่อการฟอกเงิน ภายใต้มาตรา 311 ของกฎหมาย PATRIOT Act และตัดเส้นทางเชื่อมโยงธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงินสหรัฐฯ
FinCEN ระบุว่ามีหลักฐานที่ Huione Group มีบทบาทในการฟอกเงินมากกว่า 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ระหว่างเดือนสิงหาคม 2021 ถึงมกราคม 2025 โดยเงินจำนวนนี้มาจากการก่ออาชญากรรมการเงินสมัยใหม่ มีเงิน 37 ล้านดอลลาร์สหรัฐมาจากการโจรกรรมไซเบอร์โดยเกาหลีเหนือ ขณะที่อีก 36 ล้านดอลลาร์มาจากการหลอกลวงแบบ ‘เชือดหมู’ ที่ทำลายชีวิตเหยื่อนับไม่ถ้วน
นอกจากนี้ยังมีเงิน 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่มาจากการฉ้อโกงออนไลน์รูปแบบต่างๆ ที่แสดงให้เห็นถึงขนาดและการเติบโตของเครือข่ายอาชญากรรมดิจิทัลในยุคปัจจุบัน
จากเฮลิคอปเตอร์สู่คริปโตเคอร์เรนซี
Huione Group ก่อตั้งขึ้นในปี 2014 เริ่มต้นด้วยธุรกิจเช่าเฮลิคอปเตอร์และโรงแรม แต่เติบโตด้วยการเป็นเครือข่ายการเงินดิจิทัลที่ครบวงจรในปี 2025 ประกอบด้วย
Huione Pay ทำหน้าที่เป็นผู้ให้บริการชำระเงินทั้งสกุลเงินเฟียต และคริปโตเคอร์เรนซี โดยมีสาขาที่กระจายทั่วกัมพูชา
Huione Crypto ทำหน้าที่เป็นศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่อำนวยความสะดวกในการแปลงเงินดิจิทัลเป็นเงินสด
การดำเนินการที่น่าสนใจที่สุดคือ Haowang Guarantee ตลาดออนไลน์บนแพลตฟอร์ม Telegram กลายเป็นศูนย์กลางของการหลอกลวงทางไซเบอร์ และกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย
แม้กัมพูชาจะถูกถอดออกจากบัญชีเทาของ Financial Action Task Force (FATF) ในปี 2023 แต่ความเป็นจริงดัชนีชี้วัดภาพลักษณ์คอร์รัปชันปี 2024 กัมพูชาได้คะแนนเพียง 21 จาก 100 คะแนน ตกอยู่ในอันดับ 158 จาก 180 ประเทศ
การขยายตัวของอุตสาหกรรมคาสิโนอย่างไม่มีการควบคุมเป็นปัจจัยสำคัญที่เปิดช่องโหว่ให้กับการฟอกเงิน โดยจำนวนคาสิโนเพิ่มขึ้นจาก 57 แห่งในปี 2014 เป็น 150 แห่งในปี 2019 ขณะที่ระบบการกำกับดูแลตรวจสอบ ยังล้าหลัง
หน่วยงาน Cambodia Financial Intelligence Unit (CAFIU) ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบธุรกรรมที่น่าสงสัย ยังขาดทั้งทรัพยากร และความเชี่ยวชาญ ทำให้การบังคับใช้กฎหมายต่อต้านการฟอกเงินไม่มีประสิทธิภาพ
การเมืองและอำนาจ อิทธิพลที่ซับซ้อน
การดำเนินการของ Huione Group มีความเกี่ยวข้องกับการเมือง และผู้บริหารประเทศ ฮุน ทอ (Hun To) มีสถานะเป็นญาติของนายกรัฐมนตรีฮุน มาแนต และดำรงตำแหน่งกรรมการของกลุ่ม ความสัมพันธ์เครือญาติทางการเมือง ส่งผลให้การแก้ไขปัญหายากขึ้น
ในเดือนมีนาคม 2025 ธนาคารแห่งชาติกัมพูชา (NBC) ได้เพิกถอนใบอนุญาตธนาคารของ Huione Pay เนื่องจากการละเมิดกฎระเบียบ แต่บริษัทยังคงสามารถดำเนินธุรกิจผ่านบริการกระเป๋าเงินดิจิทัลแบบกระจายศูนย์ต่อไป
รัฐบาลกัมพูชาออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด โดยอ้างถึงความพยายามในการปฏิรูปกฎหมายต่อต้านการฟอกเงิน เช่น การจัดตั้งคณะกรรมการประสานงานแห่งชาติตั้งแต่ปี 2012 อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ชี้ว่าหน่วยงาน Anti-Corruption Unit (ACU) ยังคงขาดความเป็นอิสระและประสิทธิภาพ
Huione Group เองก็ออกแถลงการณ์โจมตีสื่อ โดยเฉพาะ Radio Free Asia ว่าเผยแพร่ข้อมูลเท็จ และยืนยันแผนการขยายธุรกิจบล็อกเชนไปยังญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และอเมริกาเหนือ แม้จะสูญเสียใบอนุญาตธนาคารแล้ว บริษัทยังคงให้บริการผ่านสกุลเงินดิจิทัล USDH ที่พัฒนาขึ้นเอง
ผลกระทบต่อเศรษฐกิจกัมพูชา
มาตรการของสหรัฐฯ ส่งผลกระทบทันทีต่อเศรษฐกิจกัมพูชา โดยเฉพาะภาคการเงินและอสังหาริมทรัพย์ที่พึ่งพาการลงทุนจากต่างชาติ ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์กัมพูชาระบุว่าการส่งออกไปสหรัฐฯ คิดเป็น 24% ของ GDP ในปี 2024
การที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ใช้มาตรการทางภาษีเพิ่มเติมทำให้สถานการณ์ยิ่งซับซ้อน โดยเฉพาะในช่วงที่กัมพูชาเผชิญกับความตึงเครียดชายแดนกับไทยอยู่แล้ว ทำให้เศรษฐกิจของประเทศยิ่งเปราะบาง
การดำเนินการของสหรัฐฯ ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรระหว่างประเทศ เช่น Elliptic และ TRM Labs ที่ติดตามการฟอกเงินผ่านบล็อกเชน ในทางกลับกัน บางฝ่ายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มองว่าสหรัฐฯ กำลังใช้มาตรการทางเศรษฐกิจเป็นเครื่องมือกดดันทางการเมือง หลังจากที่กัมพูชาเสริมสร้างความสัมพันธ์กับจีนมากขึ้น
FinCEN คาดหวังว่าการตัดเส้นทางการเงินของ Huione Group จะช่วยลดการฟอกเงินได้ถึง 40% ภายใน 2 ปี แต่นักวิเคราะห์เตือนว่าเครือข่ายอาชญากรรมอาจปรับตัวโดยการเปลี่ยนเส้นทางเงินผ่านประเทศเพื่อนบ้าน อย่างลาวหรือเมียนมาแทน
ในยุคที่ความน่าเชื่อถือทางการเงินระหว่างประเทศกำลังถูกทดสอบอย่างรุนแรง คำถามสำคัญคือ กัมพูชาจะสามารถฟื้นฟูความไว้วางใจจากชุมชนนานาชาติได้หรือไม่ หรือจะต้องเผชิญกับการแยกตัวออกจากระบบการเงินโลกไปตลอดกาล เมื่อแม้แต่ประเทศเพื่อนบ้านยังเริ่มระมัดระวังในการทำธุรกรรมทางการเงินกับกัมพูชา?