วราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา แถลงภายหลังการประชุมกรรมการบริหารพรรคและ สส.พรรคว่า จากการที่ได้มีการประชุมหารือกับคณะกรรมการบริหารพรรคและสมาชิกพรรค ซึ่งมีข้อคิดและข้อเสนอที่หลากหลายพอสมควร แต่ว่าทุกคนลงความเห็นในทางเดียวกันว่า ในสถานการณ์ที่เป็นอยู่ขณะนี้ และการตัดสินใจที่ยังมีข้อมูลไม่ครบถ้วน เพราะเหตุเพิ่งเกิดเมื่อ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ทางหัวหน้าพรรคของแต่ละพรรคก็ยังไม่ได้มีโอกาสพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีถึงรายละเอียดว่าเกิดอะไรขึ้น ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดในขณะนี้ พรรคชาติไทยพัฒนาเชื่อว่า อธิปไตยของประเทศไทยคือสิ่งที่สำคัญที่สุด และความมั่นคงของประเทศเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดซึ่งไม่ควรตกอยู่ในสภาวะสุ่มเสี่ยง
ดังนั้น ทางพรรคและสมาชิกพรรคเห็นว่า ควรจะสนับสนุนให้สร้างความมั่นคงและให้รัฐบาลสามารถสร้างความมั่นคงทางอธิปไตยให้กับประเทศไทย เพราะไม่อยากให้ความสุ่มเสี่ยงเกิดขึ้นกับอธิปไตยของประเทศ ขณะเดียวกันก็ได้มอบหมายให้หัวหน้าพรรคในการเป็นตัวแทนพูดคุยหารือกับนายกรัฐมนตรีในรายละเอียดว่าเกิดอะไรขึ้นในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และมีแนวทางอย่างไร เมื่อได้ข้อมูลเพิ่มเติมแล้ว และครบถ้วนแล้ว ก็จะนำมาเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคและสมาชิกพรรคต่อไป
วราวุธ ย้ำว่า ขณะนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือปัญหาที่เกิดขึ้นที่ชายแดนของประเทศไทย อธิปไตยคือสิ่งที่สำคัญ ความเข้มแข็งของรัฐบาลในการที่จะสร้างความเข้มแข็งให้กับอธิปไตย ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ดังนั้นก็ขอไปคุยกับนายกรัฐมนตรีก่อน และสิ่งที่อยู่ในมือนั้น ยังไม่ครบถ้วนว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง เราได้ยินคลิปการพูดคุยสนทนา วัตถุประสงค์ของการที่คลิปนี้ออกมา เราไม่รู้จริงๆ ว่า เกิดอะไรขึ้น ซึ่งตั้งแต่เมื่อวานที่เกิดเหตุก็ยังไม่มีหัวหน้าพรรคคนใดได้มีโอกาสได้นั่งคุยกับนายกรัฐมนตรีเลย ก็คงอยากจะได้ข้อมูลให้ครบถ้วนก่อน แล้วจึงจะพิจารณาในขั้นตอนต่อไป
เมื่อถามถึงเหตุผลที่บอกว่าจะสนับสนุนความมั่นคงของประเทศและรัฐบาล หมายความว่าจะร่วมรัฐบาลต่อใช่หรือไม่นั้น วราวุธ กล่าวว่า จากข้อมูลที่มีอยู่ในมือ การตัดสินใจทำงานในรัฐบาล การตัดสินใจรักษาอธิปไตยความมั่นคงของประเทศ นี่คือหัวใจสำคัญ เอามาเสี่ยงไม่ได้ ดังนั้น ถ้าหากสามารถทำให้รัฐบาลมีความเข้มแข็งได้ในขณะนี้ ซึ่งเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ พรรคชาติไทยพัฒนาเห็นว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องสนับสนุนการทำงานก่อน แล้วเมื่อได้คุยกับนายกรัฐมนตรีแล้ว ทราบรายละเอียดแล้วว่าเป็นอย่างไร ก็จะนำมาเสนอให้กับกรรมการบริหารพรรคและสมาชิกพรรคต่อไป ก่อนจะพูดคุยกันว่าแนวทางของพรรคชาติไทยพัฒนาจะเดินต่อไปอย่างไร
ส่วนสิ่งที่จะทำให้พรรคไม่ร่วมรัฐบาลคืออะไรนั้น วราวุธ กล่าวว่า ต้องไปคุยกันก่อน แนวทางของชาติไทยพัฒนา ชัดเจนตั้งแต่ตอนที่ตั้งรัฐบาลชุดนี้แล้ว หรือแม้แต่ตอนที่ผลการเลือกตั้งออกมา ในวันนั้นพรรคชาติไทยพัฒนาก็เป็นพรรคแรกที่ออกมาพูดถึงจุดยืนที่ชัดเจน จากนั้นมาได้มีการฟอร์มรัฐบาลของเศรษฐา ทวีสิน จนมาถึงรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตรก็ยังคงยึดมั่นในจุดยืนที่ได้ให้เอาไว้ โดยเบื้องต้นยังไม่ได้มีการนัดเพื่อขอพูดคุยกับนายกรัฐมนตรี
พร้อมยอมรับว่า วันนี้พรรคชาติไทยพัฒนาจะยังเป็นพรรคร่วมรัฐบาลอยู่ และจะขอไปพูดคุยก่อนว่า แนวทางการทำงานจะเป็นอย่างไร
ส่วนจะใช้เวลาพูดคุยกันมากน้อยแค่ไหน เนื่องจากขณะนี้มีกลุ่มผู้ชุมนุมเริ่มออกมาเคลื่อนไหวขับไล่รัฐบาล วราวุธ เชื่อว่าทุกพรรคคงต้องการหาทางออกให้ได้เร็วที่สุด เพราะความมั่นคงของประเทศไม่ควรตกอยู่ในความสุ่มเสี่ยง หลังจากวันนี้ไปก็คงมีการพูดคุยกันโดยเร็ว
เมื่อถามว่า หากยังมีภาพการจับมือกับนายกรัฐมนตรีออกมาที่อาจจะถูกตราหน้าได้ วราวุธ กล่าวว่า ความเข้มแข็งของรัฐบาลสะท้อนอยู่ในการทำงานของพรรคร่วม คงจะต้องมีการหารือพูดคุยกันว่าแต่ละฝ่ายมีความคิดเห็นอย่างไร ซึ่งขณะนี้ก็ทราบว่ามีหลายพรรคร่วมกำลังประชุมอยู่เช่นกัน
ทั้งนี้ เมื่อได้ยินคลิปเสียงแล้ว รู้สึกกังวลใจบ้างหรือไม่นั้น วราวุธ กล่าวว่า จากการที่ฟังเป็นการพูดคุยกัน ระหว่างบุคคล 2 คน ที่ฝ่ายหนึ่งเข้าใจว่าเป็นการพูดคุยระหว่างอาหลาน แต่ที่สำคัญคือการที่คลิปนี้ออกมา ตนก็ตอบไม่ถูกเหมือนกันว่าจุดประสงค์ของการปล่อยคลิปนี้มาคืออะไร แต่ก่อให้เกิดความวุ่นวายสิ่งที่สำคัญที่สุด คือความมั่นคงของอธิปไตยของประเทศเราที่อยู่ตามตะเข็บชายแดน
