เต็มไปด้วยแพสชัน ความดุเดือดและสงครามป่วนจิตในโลกของธุรกิจที่ว่องไว
ผมตัดสินใจดูรวดเดียวจบทันทีหลังจากที่ซีรีส์เริ่มออนแอร์อย่างเป็นทางการในวันที่ 29 พฤษภาคม 2568 ในฐานะที่เป็นคอซีรีส์ไทยของ Netflix มีหรือที่จะพลาดเดย์วันของซีรีส์เรื่องนี้ เอาล่ะ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาผมขอเริ่มบรรเลงการรีวิวซีรีส์เรื่องนี้นับตั้งแต่บัดนี้เลยครับ
เริ่มต้นที่ความมันสุดขั้วดีสำหรับซีรีส์เรื่องนี้ที่นานๆ ทีจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทั้งวิธีการเล่าเรื่องที่ค่อยๆ ขยี้ความรู้สึกของคนดูที่เริ่มจากศูนย์ไปถึงจุดที่มันควรจะเป็น พาร์ทเล่าเรื่องมันสุดแบบบอกไม่ถูก การได้เห็นยูนิคอร์นตัวนี้ค่อยๆยๆ เติบโตมันสะใจดีไม่น้อยที่ตัวเอกไม่ได้มีเส้นทางที่โรยด้วยกลีบกุหลาบ ผมโคตรชอบ GDH แนวทางแบบนี้เลย พวกเขาทำได้ดีในการบอกเล่าชีวประวัติมาตั้งแต่ ‘ท็อป ซีเคร็ต วัยรุ่นพันล้าน’ ผมคิดเลยว่าช่วงหลัง GDH แอบทำซีรีส์ดีกว่าหนังโรงยังไงก็ไม่รู้ จะติพาร์ทเดียวก็คือเพลงสกอร์ที่ประกอบมา บางจังหวะมันดูผิดที่ผิดทางไปหน่อย
ในด้านของการแสดงการได้เห็น ไอซ์ซึ โลดแล่นบนจอถือเป็นความดีงามที่เราได้เห็นทุกครั้งเสมอมา การเอาตัวตนใส่เข้าไปในการแสดงยันกระทั่งการพูดภาษาจีนที่ทุกตัวละครพูดกันหมด เมื่อได้นั่งดูกลายเป็นมันมีความอินเตอร์ซะอย่างนั้น ชอบทุกครั้งที่ตัวละครพูดจีนมากกว่าพูดไทยอีก มันเนียนและดูรู้เลยว่าพวกเขาฝึกฝนกันมาอย่างหนักจริงๆ สำหรับการพูดภาษาจีนในซีรีส์เรื่องนี้ ส่วน เจนเย่ หญิงสาวใจถึกคนเดียวในเรื่องก็แสดงได้ดี พูดจีนไหลลื่นไม่ติดขัด เสียอย่างเดียวในพาร์ทของเรื่องตัวปมมันดูทับไปทับมาไปหน่อย อีกคนก็ ดร.พลัง โลกศิลป์ พี่เป็นใครเล่นอย่างแย่งซีน ทุกประโยคเร้าใจจัดๆ เวลาด่าเหมือนแม่งด่าๆ ไปงั้น แต่เข้าปากทุกคำ สะใจชิบ ชนิดที่ถ้ามีภาค 2 ให้พี่คนนี้เล่นต่อเถอะ ส่วนคุณอาธเนศอันนี้มาตรฐานแล้ว เล่นหลายๆ เรื่องก็พูดประมาณนี้ มาตรฐานสูงไปแล้ว ส่วนพีช พชร ชอบที่เป็นตัวคลายปมในช่วงท้ายแต่ช่วงต้นจนกลางก็ดูนิ่งๆ ไปหน่อยสำหรับตัวละครนี้ อีกคนที่โดดเด่นคือ แก๊ปโบ้ จาก Salmon Podcast แย่งซีนจัดๆ
โดยรวมสะใจดีสำหรับซีรีส์เรื่องนี้ ชอบวิธีการเล่าเรื่องกระชับฉับไว ชอบการนำเสนอชีวิตคนที่มันดู Loser มาตั้งแต่เริ่ม แม้ในหนังอาจจะ Loser มาบนฟูกก็ตามแต่อย่างน้อยมันก็มีวิธีการของมันในการเฉือนคมที่สลับไปสลับมาไม่เป็นเส้นตรง อันนี้ดี แนะนำให้ดูเลย ดูแล้วมีไฟ อาจจะไม่โดนตรงๆ แต่ไอ้ประโยคที่บอกว่า
‘ถ้าคนมันไม่มีมันจะสู้จนแบบที่มึงคาดไม่ถึงหรอก’
คำนี้ฝังหัวเลย เพราะทุกวันนี้ชีวิตมนุษย์เงินเดือนทุกคนมันก็สู้มาจนไม่รู้จะสู้ยังไงแล้ว
แต่นี่แหละชีวิต และไอ้ซีรีส์เรื่องนี้ก็ดูเหมือนจะมากระตุกให้สู้อีกครั้ง!
